Company Note
Prima Marine
กำไรปกติโต QoQ แต่ลดเล็กน้อย YoY
คงคำแนะนำ “ซื้อ” คาดปี 2024F กำไรปกติเติบโตต่อเนื่องจากเรือที่เพิ่มขึ้น
PRM ประกาศกำไรปกติเพิ่ม QoQ หลักๆจากธุรกิจ Offshore และ FSU แต่ลดเล็กน้อย YoY จากรายได้ธุรกิจ FSU ที่ลดลงจากการขายเรือไป 1 ลำและมีเรือปิโตรเคมีเข้าซ่อมบำรุง 2 ลำ เรายังคงแนะนำ “ซื้อ” สำหรับ PRM จากที่เราคาดกำไรปกติของบริษัทจะเติบโตทำ New high ต่อเนื่องในปีนี้จากเรือกองเคมีลำใหม่เดินเต็มทั้งปีและเรือธุรกิจ Offshore ที่เพิ่มขึ้น รวมถึงอัพไซด์จากการซื้อเรือเพิ่มในปีนี้ ในขณะที่ราคาหุ้นยังต่ำมากโดยราคาหุ้นปัจจุบันคิดเป็น PER ปี 2024F แค่ 8.8x เท่านั้น
กำไรปกติ 1Q24 ดีขึ้น QoQ แต่ลดลงเล็กน้อย YoY
PRM ประกาศกำไรสุทธิของ 1Q24 อยู่ที่ 561 ล้านบาท แต่หากไม่รวมรายการพิเศษ (FX Gain และกำไรจากการขายเรือใน 4Q23) กำไรปกติจะอยู่ที่ 538 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27% QoQ (แต่ลด 3% YoY) โดยสาเหตุที่กำไรเพิ่มขึ้น QoQ หลักๆ มาจาก 1) ธุรกิจ Offshore เนื่องจากบริษัทได้เริ่มให้บริการเรือ AWB และ Hybrid Crew Boat เพิ่มอย่างละ 1 ลำตั้งแต่กลางเดือนม.ค.และต้นเดือนมี.ค., และ 2) เรือ FSU มีอัตราการใช้เรือเพิ่มขึ้น QoQ เนื่องจากความต้องการกักเก็บน้ำมันเพิ่มสูงขึ้นเนื่องจากผู้ค้าน้ำมันกังวลว่าสถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลางอาจจะเป็นอุปสรรคต่อการขนส่งน้ำมันดิบ ประกอบกับใน 4Q23 มีเรือ 1 ลำหยุดให้บริการเพื่อติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มเติมเป็นเวลา 45 วัน ส่วนสาเหตุที่กำไรลดลงเล็กน้อย YoY หลักๆมาจากธุรกิจ FSU เนื่องจากการชะลอตัวของภาวะตลาดตั้งแต่กลางปีที่แล้วรวมถึงการขายเรือไป 1 ลำ รวมถึงธุรกิจเรือปิโตรเคมีมี Gross margin ที่ลดลงเนื่องจากมีเรือปิโตรเคมีเข้าซ่อมบำรุง 2 ลำ
คาดกำไรปกติโตต่อเนื่องในปี 2024F สู่ระดับสูงสุดใหม่
แนวโน้มผลประกอบการปี 2024F ยังสดใส โดยเราคาดกำไรปกติจะเติบโต 9% สู่ระดับสูงสุดใหม่ที่ 1.99 พันล้านบาท โดยธุรกิจที่จะเป็นตัวผลักดันให้กำไรเติบโตคือ 1) ธุรกิจเรือขนส่งในประเทศอันเป็นผลมาจากเรือขนส่งปิโตรเคมีใหม่ 2 ลำเดินเต็มทั้งปี, 2) ธุรกิจ Offshore จะมีเรือเพิ่มขึ้น 1 AWB (เซ็นสัญญากับ PTTEP 2 ปี เริ่ม 15 ม.ค.2024) + 2 Crew Boat (ซึ่งเป็นเรือ Hybrid ทำให้สามารถตั้งราคาได้สูงกว่าเดิมมาก) ซึ่งลำแรกจะเริ่มให้บริการกับ Chevron ในเดือนก.พ. ส่วนอีกลำจะให้บริการได้ในเดือนเม.ย., และ 3) ธุรกิจ FSU มีดีมานด์เพิ่มขึ้นเรื่อยๆทำให้คาดว่า Utilization rate เพิ่มขึ้นทุกไตรมาสส่งผลให้รายได้เพิ่มขึ้น นอกจากนั้นยังมีอัพไซด์เนื่องจากมีแผนเพิ่มกองเรือในปีนี้อีกดังนี้ 1) ซื้อเรือ Aframax 1 ลำเพื่อมาทดแทนเรือที่จะหมดสัญญากับลูกค้ารายหนึ่งในเดือนมิ.ย.และลูกค้ารายเดิมยังมีแผนจะใช้งานต่อแต่บริษัทจำเป็นต้องนำเรือดังกล่าวไปให้บริการกับลูกค้าระยะยาวอีกราย โดยคาดเรือลำใหม่จะมา 3Q24, 2) เพิ่มเรือกองเคมีอีก 2 ลำขนาด 7,000-13,000 ตันให้ลูกค้าที่มาเลเซียใน 2Q24, 3) บริษัทกำลังพิจารณาเพิ่มเรือธุรกิจ Offshore อีก 2-3 ลำซึ่งอาจเป็นการซื้อเรือเข้ามา (ใน 2Q24) หรือหา Partner ที่มีเรืออยู่แล้วเข้ามาให้บริการภายใต้สัญญาของ PRM (อาจเป็น 3Q24) เนื่องจากยังเห็น demand อีกมาก
คงคำแนะนำ “ซื้อ”โดยมีมูลค่าเหมาะสมใหม่ที่ 8.60 บาท
เราคงประมาณการกำไรแต่ปรับลดจำนวนหุ้นจากหุ้นซื้อคืน 175 ล้านหุ้น เนื่องจากบริษัทมีแผนที่จะลดทุนหุ้นซื้อคืนดังกล่าว ส่งผลให้ประมาณการ EPS ของเราเพิ่มขึ้น 7.5% และทำให้มูลค่าที่เหมาะสมของเราซึ่งอิงจาก PER 10 เท่า ปี 2024F (คิดจากค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปีของหุ้น) ปรับเพิ่มขึ้นจาก 8 บาทเป็น 8.60 บาท จากราคาหุ้นที่ไม่แพงและแนวโน้มที่ยังสดใสทำให้เรายังคงแนะนำซื้อ ปัจจัยเสี่ยงมาจากความผันผวนราคาพลังงานที่จะส่งผลต่อดีมานด์การใช้เรือและต้นทุน