บริษัท มากุโระ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (MAGURO)
MAGURO ธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่นและเกาหลีระดับ Premium-Mass
MAGURO ประกอบธุรกิจจาหน่ายอาหารและเครื่องดื่มระดับ Premium –Mass โดยมีแบรนด์ Maguro, Ssamthing Together และ Hitori Shabu ภายใต้คอนเซ็ปต์ Give More Culture

• คาดผลการกำไรปี 2567-2568 เติบโตอย่างต่อเนื่องกว่าร้อยละ 49.16 เติบโตจากการลงทุนเปิดสาขาและแบรนด์ร้านอาหารใหม่ข้อมูลสรุปการเสนอขายหุ้น IPO

บริษัทจะมีทุนจดทะเบียน 63 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ภายหลังการเสนอขายในครั้งนี้ โดยหุ้นสามัญที่เสนอขายในครั้งนี้มีจำนวน 34.06 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตรา ไว้หุ้นละ 0.50บาท คิดเป็นร้อยละ 27.03 ของจา นวนหุ้นที่เสนอขายโดยเป็นหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 21.46ล้านหุ้น และ เป็นหุ้นสามัญของผู้ถือหุ้นเดิมจานวน 12.60 ล้านบาท

บริษัทมีวัตถุประสงค์ที่จะนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนเพื่อ
1) ใช้สำหรับขยายธุรกิจของบริษัทฯ สำหรับการขยายสาขาของแบรนด์เดิม และเปิดแบรนด์ใหม่
2) ใช้สำหรับปรับปรุงสาขาเดิม และ ครัวกลาง
3) ใช้สำหรับการติดตั้งและปรับปรุงระบบที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงาน
4) ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ

คาดกาไรปี 67-68 เติบโตสูง
MAGURO มีฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง และเป็นบริษัทที่ไม่มีหนี้ ประกอบกับความสามารถทากาไรที่ดี ซึ่งมาจากการที่บริษัทคอยปรับตัวให้เท่าทันกับสถานการณ์โลกและกระแสความต้องการของผู้บริโภคอยู่เสมอ โดย MAGURO มีอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงถึง 45% ในปี 2566ประกอบกับการที่บริษัทมีสาขายังไม่มาก ทำให้มีโอกาสเติบโตที่ดีในอนาคต ซึ่งเราคาดการณ์ว่ากำไรในปี 2567-2568 จะโตเนื่องจาก Economies of Scale ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวสูงขึ้นซึ่งมาจากการขยายสาขา 23 สาขา จาก 25 สาขาในปี 2566 เป็น 48 สาขาในปี 2568นอกจากนั้นทางบริษัทยังมีแผนที่จะทำการเปิดแบรนด์ใหม่ ในปี 2567-2568 อีกด้วย ทำให้เราคาดในปี 2567-2568 จะเป็นช่วงที่กำไรเติบโตสูงเฉลี่ย CAGR ราว 49.11% ต่อปี

ประเมินราคาเป้าหมาย 22.39 บาท
เราประเมินราคาเป้าหมายปี 2567 ของ MAGURO ที่ 22.39 บาท โดยอิง P/E เฉลี่ยของกลุ่มธุรกิจอาหารในตลาดที่ประมาณ 25.44 เท่า ซึ่งถือว่าไม่สูงมากเมื่อเทียบกับอัตราการเติบโตของกาไร

การประเมินราคาเป้าหมาย
เราประเมินราคาเป้าหมายสำหรับปี 2567 ของ MAGURO อยู่ที่ 22.39 บาท อิงค่าเฉลี่ย P/Eของหุ้นที่ธุรกิจร้านอาหารในตลาดฯ อาทิ Zen, M SNP และ AU ที่ 25.44 เท่า ซึ่งมีการประกอบธุรกิจที่ค่อนข้างคล้ายคลึงกัน แม้ว่า MAGURO จะไม่เหมือนธุรกิจอาหารอื่นๆตรงที่มีแบรนด์แยกย่อยหลายแบรนด์ที่เน้นไปทางอาหารญี่ปุ่นและเกาหลี แต่เนื่องจากจัดอยู่ในหมวดหมู่ธุรกิจเดียวกัน จึงถือว่าเป็นธุรกิจที่ใกล้เคียงกันที่สุดที่จะสามารถนำมาเทียบเคียงได้

จุดเด่นในการลงทุน
บริษัทมีคณะผู้บริหารและบุคลากรชั้นนำที่มีประสบการณ์ทำธุรกิจอาหารมามากกว่า 10 ปีและบริษัทมีผลการดำเนินการทางการเงินที่แข็งแกร่งแม้ว่าจะอยู่ในสถานการณ์โควิด-19ระบาด ซึ่งบริษัทมีความสามารถควบคุมประสิทธิภาพและผลตอบแทนได้ รวมถึงมีการพัฒนาเมนูและปรับตัวให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี ทำให้บริษัทมีศักยภาพในการเติบโตและสามารถขยายตัวไปสู่กลุ่มลูกค้าใหม่ๆนอกจากแนวโน้มอุตสาหกรรมร้านอาหารของไทยที่มีแข่งขันที่สูงมากประกอบกับรายได้ส่วน Delivery ที่ลดลง กดดันให้ Margin อ่อนตัว อย่างไรก็ตามบริษัทยังมีแผนจะเติบ โตจากการปรับปรุงและขยายสาขาใหม่ การขยายการให้บริการไปยังอาหารประเภทอื่น รวมถึงการขยายฐานลูกค้า ทำให้เราคาดกำไรในปี 2567-2568 จะเติบโตค่อนข้างสูงด้านความเสี่ยงโดยรวมของธุรกิจมีอยู่บ้าง เนื่องจากสภาพอากาศที่แปรปรวน รัฐศาสตร์การเมือง และ สงครามที่ยืดเยื้อ ส่งผลต่อต้นทุนด้านการขนส่งวัตถุดิบ ทำให้อัตรากำไรของบริษัทอาจจะเติบโตในอัตราที่ลดลงแต่ยังคงสูงอยู่

บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด อาจเป็นผู้จัดจาหน่ายหุ้นสามัญของ MAGURO ในครั้งนี้โดยการจัดทา เอกสารฉบับนี้เพื่อวัตถุประสงค์ในการนำเสนอข้อมูลและบทความกา รวิเคราะห์เท่านั้น การตัดสินใจลงทุนขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของนักลงทุน

ระยะเวลาห้ามเผยแพร่รายงานฉบับนี้ ตั้งแต่วันที่ 12 พฤษภาคม 2567 เป็นต้นไปจนถึงวันสุดท้ายของการเสนอขาย (Black out period)ผู้ลงทุนควรอ่านรายละเอียดในหนังสือชี้ชวนก่อนตัดสินใจลงทุน