Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ภาวะตลาดหุ้นรายวัน

151

Market Wrap-Up

  • SET วันที่ 3 พ.ค.67 ปิด +6.67 จุด อยู่ที่ 1,369.22 จุด มูลค่าการซื้อขาย 37,512 ลบ.ต่างชาติขาย 1,498 ลบ.สถาบันซื้อ 1,546 ลบ.พอร์ตโบรกขาย 41 ลบ. NVDR มียอดซื้อสุทธิอยู่ที่ 231 ลบ. มียอดซื้อสุทธิในหุ้น KBANK,PTTEP,PSL,ADVANC,EA และมียอดขายสุทธิ AOT,CPALL,PTT,BBL,KTC มูลค่า Short Sales อยู่ที่ระดับ 4,716 ลบ. หุ้นที่มีปริมาณ Short สูงคือ SAWAD,SPCG-R,SGP-R โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Long ใน Index Futures จำนวน 23,927 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Long สุทธิรวม 32,854 สัญญา นักลงทุนต่างชาติซื้อพันธบัตรจำนวน 2,143 ลบ.
  • ตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA +0.46%, S&P500 +1.03%, Nasdaq +1.19% ได้แรงหนุนจากกลุ่มพลังงานปรับขึ้นตามราคาก๊าซธรรมชาติ และกลุ่มผู้ผลิตชิป นำโดย ARM Holding +5.2% ก่อนรายงานงบในสัปดาห์นี้ ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 +0.53% ได้แรงหนุนจากกลุ่มประกัน +1.6%, พลังงาน +1.4% หลังซาอุฯ ปรับขึ้นราคาขายน้ำมันดิบใน มิ.ย.

Market View

  • ตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ได้ปัจจัยหนุนจากตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐ เม.ย. ลดลงอยู่ที่ 175,000 & คาด 238,000 ราย, อัตราว่างงานปรับขึ้นอยู่ที่ 9% & มี.ค. 3.8% YoY และค่าจ้างราย ชม. ลดลงอยู่ที่ 0.2% & มี.ค. 0.3% MoM บ่งชี้ตลาดแรงงานสหรัฐเริ่มชะลอตัว ส่งผลให้เฟดมีโอกาสจะลดดอกเบี้ยปีนี้ 2 ครั้ง ใน ก.ย., ธ.ค. นี้ ขณะที่ความเห็นของ โทมัส บาร์กิ้น ปธ.เฟดสาขาริชมอนด์ชี้ดอกเบี้ยปัจจุบันจะส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัว และเงินเฟ้อจะลดลงสู่ระดับ 2 % ส่วนจอห์น วิลเลียมส์ ปธ.เฟดสาขานิวยอร์ค ชี้ดอกเบี้ยปัจจุบันอยู่ในระดับเหมาะสม สัปดาห์นี้ติดตามความเห็นเจ้าหน้าที่เฟด, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และ ม.มิชิแกนรายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค เบื้องต้น พ.ค.          
  • ตลาดหุ้นยุโรปวานนี้ได้แรงหนุนจากความเห็นของคณะกรรมการ ECB 3 ท่าน ชี้เงินเฟ้อยูโรโซนจะลดลงสู่ระดับ 2 % ในช่วงกลางปีหน้า และรายงาน PMI รวมภาคผลิต & บริการยูโรโซน เม.ย. ปรับขึ้นอยู่ที่ 51.7 & มี.ค. 50.3 สัปดาห์นี้วันพฤหัส ติดตามผลการประชุม BOE อังกฤษคาดยังคงดอกเบี้ยที่ 5.25%        
  • ตลาดหุ้นเอเชียวานนี้ ดัชนีเซี่ยงไฮ้ +1.16% ได้แรงหนุนจากคาดการณ์การบริโภค & ภาคท่องเที่ยวของจีนฟื้นตัวได้ดีในช่วงวันหยุดยาว กอปรกับ PMI ภาคการผลิตจีน เม.ย. อยู่ในโซนขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 และวันพฤหัสนี้ติดตามตัวเลขส่งออก, นำเข้าจีน เม.ย.
  • SET +0.73% WoW ปริมาณการซื้อขายเฉลี่ย/วัน18 หมื่น ลบ. -0.17% WoW สถาบันซื้อ 2.8 พัน ลบ. ต่างชาติขาย 2.1 พัน ลบ. รายย่อยขาย 657 ลบ. พอร์ตโบรกขาย 16 ลบ. ได้แรงหนุนจากกลุ่ม ICT +4.6% หลัง ADVANC รายงานกำไร Q1/67 ดีกว่าคาด ส่วนกลุ่มเกษตร+2.6% & อาหาร +2.2% หลัง ITC รายงานกำไร Q1/67 ดีกว่าคาด เป็นไปตามตัวเลขส่งออกกลุ่มอาหารสัตว์เลี้ยง Q1/67 +20% YoY ขณะที่กลุ่มปรับลดลง คือ อิเล็ก ฯ -4.5% ผันผวนตาม US Bond Yield หลัง ปธ.เฟดคาดอาจต้องตรึงดอกเบี้ยสูงนานกว่าคาด โดยสัปดาห์นี้คาดกลุ่มอิเล็ก ฯ จะฟื้นตัวหลัง US Bond Yield 10 ปี ลดลงอยู่ที่ 4.49% หลังตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐ เม.ย. เริ่มชะลอตัว สัปดาห์นี้ติดตามรายงานกำไร Q1/67 ของ CPALL,CPAXT,TOP,BCP,IRPC,IVL,GPSC,GULF,TU,GFPT ซึ่งภาพรวม บจ. 33 แห่งที่ส่งงบแล้ว มีกำไร Q1/67 ดีกว่า +3.16%      

Daily Strategy

  • ประเมินดัชนี SET มีโอกาส Sideway Up โดยมีแนวรับ 1,360 – 1,365 แนวต้าน 1,375 – 1,380 อยู่ระหว่างรอรายงานกำไร บจ. Q1/67 คาดขยายได้ดี QoQ แนะนำทยอยซื้อกลุ่มค้าปลีก CPALL,CPAXT/ เครื่องดื่ม ICHI,OPS,TACC/ โรงไฟฟ้า GPSC, BGRIM (+ขึ้นค่า FT)
  • GPSC* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 60.00 บาท) แนวโน้มผลประกอบการ 1Q67 คาดกำไรฟื้นตัว QoQ เป็นผลจากปริมาณขายไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นทั้ง IPP และ SPP รวมถึงการปรับขึ้นค่า Ft งวด ม.ค.-เม.ย.67 ประกอบกับต้นทุนเชื้อเพลิงและค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานที่ลดต่ำลงตามฤดูกาล ช่วยหนุนอัตรากำไรดีขึ้น ส่วนใน 2Q67 คาดกำไรเข้าสู่ช่วง high season ความต้องการใช้ไฟฟ้าช่วงฤดูร้อน นอกจากนี้ช่วงสั้นจะได้ sentiment บวกจาก Bond Yield ที่ปรับลดลง ทั้งนี้ตลาดคาดกำไรสุทธิปี 67 อยู่ที่ 1 พันล้านบาท +35%YoY
  • BH (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 298 บาท) กำไรสุทธิ 1Q67 อยู่ที่ 1,985 ลบ. (+25.36%YoY, +34% QoQ ) โดย รายได้ +YoY จากฐานไม่สูงของ 1Q66 ขณะที่ QoQ  ยังสามารถทรงตัวในระดับสูง รายได้ถูกหนุนด้วยรายได้ผู้ป่วยชาวไทยที่ +9%YoY, +3% QoQ ด้านรายได้ผู้ป่วยต่างชาติ +7%YoY, -1% QoQ  แม้จะมีปัจจัยกดดันจากช่วงเดือนรอมฏอน(ผู้ป่วย Fly-in ตะวันออกกลาง)ปีนี้มาเร็ว แต่ได้แรงหนุนจากการปรับราคาขึ้น/กลุ่มผู้ป่วยอื่นๆเข้ามา เช่น จีน ทั้งนี้ในส่วนของ 2Q67 เราคาดการดำเนินงานปกติยังจะเห็นการ +YoY หนุนด้วยจำนวนวันรอมฏอนที่น้อยลงเทียบ 2Q66 ปัจจุบัน เรายังคงประมาณการกำไรสุทธิปี67 68 ของ BH ที่ 7,581 ลบ.(+8.19%YoY) และ 8,112 ลบ.(+7.01%YoY)

 

Daily Key Factors

Oil Update(+) WTI มิ.ย. +$0.37 อยู่ที่ $78.48/บาร์เรล Brent ก.ค. +$0.37อยู่ที่ $83.33/บาร์เรล ได้แรงหนุนจากซาอุ ฯ ปรับขึ้นราคาขายน้ำมันดิบใน มิ.ย. และรอผลการเจรจาหยุดยิงระหว่างอิสราเอล & ฮามาส

 

Gold Update(+) Comex Gold มิ.ย. +$22.60 อยู่ที่ $2,331.20 /ออนซ์ ได้แรงหนุนหลัง US Bond Yield 10 ปี ลดลงอยู่ที่ 4.49% หลังตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐ เม.ย. ชะลอตัวลง

 

Fund Flow(-) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วานนี้ ขายสุทธิ
-78.47 ล้านดอลลาร์สหรัฐ   ขายหุ้นอินโดฯ -73.58 ล.ดอลลาร์สหรัฐ และขายหุ้นฟิลิปปินส์ -4.89 ล.ดอลลาร์สหรัฐ

 

(0) ค่าเงินบาทเช้านีทรงตัวอยู่ที่ 36.71 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(0) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ลดลงอยู่ที่ 4.49 %

(+) ดัชนี BDI วานนี้ +102 จุด อยู่ที่ 1,876

(-) BitCoin เช้านี้ -0.75% อยู่ที่ 63,741 ดอลลาร์สหรัฐ

(-) PMI ภาคบริการญี่ปุ่น เม.ย. ชะลอตัวอยู่ที่ 54.3 & มี.ค. 54.1

 

 

Economic Calendar

 

ในประเทศ

07 พ.ค.     สภาผู้ส่งออก แถลงสถานการณ์การส่งออก

08 พ.ค.     ประชุมคณะกรรมการร่วม 3 สถาบันภาคเอกชน (กกร.)

สัปดาห์ที2  สภาธุรกิจตลาดทุนไทย แถลงผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนและ

อัพเดตสถานการณ์ลงทุน

หอการค้าไทย ร่วมกับมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย แถลงดัชนีความ

เชื่อมั่นผู้บริโภค

ตลท. แถลงข้อมูลสรุปภาวะการซื้อขายหลักทรัพย์

 

ต่างประเทศ

06 พ.ค.     CN ดัชนี PMI ภาคการบริการของจีนจากสถาบัน Caixin (เม.ย.)

                EU ดัชนี PMI รวมจาก S&P Global (เม.ย.)

07 พ.ค.     US แนวโน้มพลังงานระยะสั้นจากมุมมองของ EIA 

08 พ.ค.     US สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ

09 พ.ค.     CN ตัวเลขนำเข้า-ส่งออก

                US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก

10 พ.ค.     EU ธนาคารกลางยุโรปจะตีพิมพ์รายงานการประชุมนโยบายการเงิน 

 

Theme Strategy

Theme หุ้นเด่นปี 2567 รัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อ ด้านส่งออกมีโอกาสกลับมาขยายตัว ท่องเที่ยวฟื้นตามจำนวนนักท่องเที่ยว คาดหวัง Flow ไหลกลับหลังธนาคารกลางหลักมีโอกาสเริ่มปรับลดดอกเบี้ย 

(1) กลุ่มการอุปโภคบริโภค ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ CPALL, CPAXT*, CPN*, CRC, ICHI*, NSL* 

(2) กลุ่มส่งออก ได้ประโยชน์จากตัวเลขส่งออกที่คาดฟื้นตัว AAI*, ITC*, TU, COCOCO*, PLUS*, OSP*, SAPPE*, KCE*, SJWD* 

(3) กลุ่มท่องเที่ยว ได้ประโยชน์จากมาตรการ Free Visa AOT*, CENTEL*, ERW*, SPA*, SISB*, WPH* 

(4) กลุ่ม Leasing ได้ประโยชน์จากการยุติวงจรดอกเบี้ยขาขึ้น MTC*, TIDLOR* 

(5) กลุ่มโรงไฟฟ้า ได้ประโยชน์จากต้นทุนก๊าซฯ ลดลง BGRIM*, GPSC* 

(6) กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม/ EV ได้ประโยชน์จากการย้ายฐานการผลิต สงครามการค้า AMATA, WHA

 

 

**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย

 

Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 30% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 10%

 

Today Fundamental Research: -

 

 

Monthly Portfolio May 2024: GFPT*, SAPPE*, OSP*, ITC*, ICHI*

 

 

 

 

 

Analysts

Apichai Raomanachai  

Fundamental and Technical Investment Analysis ID No.  002939

Tel  02-829-6999  Ext  2200

Email : apichai.ra@kfsec.co.th

Nopporn Chaykaew     

Fundamental Analysis ID No.  043964

Tel  02-829-6999  Ext  2203

Email : noppoen.ch@kfsec.co.th

Nattawat Poosunthornsri  

Fundamental Analysis ID No.  087077

Tel  02-829-6999  Ext  2204

Email : nattawat.po@kfsec.co.th

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

ไต่เส้น By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ มองดูหุ้นไทยไต่เส้น แถว 1370 +/- แบบพยาบามฝ่าด่าน 1380 จุด โดยเช้านี้ พี่ DELTA..

มัลติมีเดีย

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้