สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(14 มีนาคม 2567)------ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) ประกาศให้อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว (National Long-Term Rating) ที่ ‘BB(tha)’ แก่หุ้นกู้ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน ที่จะออกเสนอขายของบริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (หรือ DAOLSEC; BB+(tha)/แนวโน้มอันดับเครดิตเป็นลบ) ทั้งนี้ หุ้นกู้ด้อยสิทธิดังกล่าว จะมีอายุ 1 ปี โดยมีวัตถุประสงค์ในการออกหุ้นกู้ด้อยสิทธิเพื่อนำไปชำระหุ้นกู้ด้อยสิทธิชุดเดิม
ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต
อันดับเครดิตของหุ้นกู้ด้อยสิทธิดังกล่าวอยู่ต่ำกว่าอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ DAOLSEC 1 อันดับ ซึ่งสะท้อนถึงความเสี่ยงของการขาดทุนจากการชำระคืนเงินกู้ (loss severity risks) ของหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีมากกว่าเมื่อเทียบกับตราสารหนี้ที่ไม่ด้อยสิทธิ ซึ่งเป็นแนวทางการพิจาณาอันดับเครดิตที่สอดคล้องกับเกณฑ์การจัดอันดับเครดิตของฟิทช์
ความแตกต่างของอันดับเครดิตเป็นผลมาจากการที่ผู้ถือหุ้นกู้ด้อยสิทธิจะมีลำดับสิทธิในการเรียกร้อง (priority of claims) ด้อยกว่าเจ้าหนี้สามัญ แต่ทั้งนี้ ฟิทช์ไม่ได้ปรับลดอันดับเครดิตของหุ้นกู้ด้อยสิทธิเพิ่มเติมสำหรับความเสี่ยงที่ผู้ถือหุ้นจะไม่ได้รับผลตอบแทนตามที่คาดการณ์ (non-performance risk) เนื่องจากไม่มีคุณสมบัติรองรับผลขาดทุนระหว่างการดำเนินกิจการ (going-concern loss absorption) และไม่มีคุณสมบัติการแปลงเป็นทุน (equity conversion)
สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมของปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิตและปัจจัยที่อาจมีผลกระทบต่ออันดับเครดิตในอนาคตของ DAOLSEC สามารถดูได้จากประกาศครั้งล่าสุด เรื่อง “ฟิทช์ปรับแนวโน้มอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ บล. ดาโอ (ประเทศไทย) “เป็นลบ” และคงอันดับเครดิตที่ ‘BB+(tha)’” ลงวันที่ 4 ธันวาคม 2566 (“Fitch Revises Outlook on DAOL Securities (Thailand) to Negative; Affirms at 'BB+(tha)'”) ดูได้จาก https://www.fitchratings.com/site/pr/10254987
ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต
ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงลบหรือส่งผลให้เกิดการปรับลดอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน)
อันดับเครดิตของหุ้นกู้ด้อยสิทธิจะเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางเดียวกันกับอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ DAOLSEC ดังนั้นการปรับลดอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ DAOLSEC จะส่งผลให้มีการปรับลดอันดับเครดิตของหุ้นกู้ด้อยสิทธิ
ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงบวกหรือส่งผลให้เกิดการปรับเพิ่มอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน)
การปรับเพิ่มอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของบริษัท จะส่งผลให้อันดับเครดิตของหุ้นกู้ด้อยสิทธิเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางเดียวกัน อย่างไรก็ตาม การปรับเพิ่มอันดับเครดิตในระยะอันใกล้นั้นไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ เนื่องจากอันดับเครดิตของบริษัทมีแนวโน้มอันดับเครดิตเป็นลบ