AT THE OPEN (#ATO)
SET Index รีบาวน์ตามกรอบ 1365-1385 จุด
กลยุทธ์เลือกหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะ
Market Strategy
คาด SET Index วันนี้รีบาวน์ตามกรอบ 1365-1385 จุด มองการปรับลงแรงวานนี้จากแรงขายต่างชาติที่หนักหน่วง 4.3 พันล้านบาท จะเป็นเพียงเหตุการณ์ชั่วคราวจากผลของ MSCI Rebalance ทำให้วันนี้ทิศทางตลาดเป็นไปตามปัจจัยแวดล้อมเชิงพื้นฐาน
ประเมินจากปัจจัยต่างประเทศที่รายงาน Core PCE ของสหรัฐฯ เดือน ม.ค. ที่ขยายตัว 2.4%YoY ตามตลาดคาดและลดลงจากเดือนก่อน 2.6%YoY รวมถึงการรายงาน Initial Jobless Claim ที่เพิ่มขึ้น 2.15 แสนตำแหน่งมากกว่าตลาดคาด 2.09 แสนตำแหน่ง จะช่วยลดความกังวลต่อการใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดของ FED ซึ่งตลาดหุ้นสหรัฐฯวานนี้ตอบสนองในเชิงบวกจากการปรับขึ้นในช่วง 0.12% ถึง 0.9%
ส่วนปัจจัยอื่นๆ เกาเหลีใต้รายงานยอดส่งออกเดือน 4.8%YoY มากกว่าตลาดคาด 1.9%YoY มองเป็น Sentiment บวกต่อกลุ่มอิเล็คทรอนิกส์ สำหรับประเด็นที่ติดตามระหว่างวันการรายงานดัชนี PMI ภาคการผลิตและบริการจีนเดือน ก.พ. คาด 49.1 และ 50.9 ส่วนปัจจัยภายในวันนี้นายกฯเตรียมแถลงแผนพัฒนาการเป็นศูนย์กลางทางการบินการขนส่งภูมิภาค กลยุทธ์เลือกหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะ
Market Summary
SET Index ปรับลง 11.38 จุด โดยนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหนัก 4.34 พันล้านบาท ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากการปรับน้ำหนักในดัชนี MSCI โดยเฉพาะ BJC -6% BANPU -1.8% OSP -1.5% รวมถึงแรงขายทำกำไรของหุ้น Market Cap ใหญ่ BDMS -1.7% CPALL –0.86% รวมถึง PTT -3.5% จากขึ้น XD สำหรับกลุ่มที่ปรับขึ้นสวนตลาด คือ กลุ่มอิเล็คทรอนิกส์ +2.7% รีบาวน์หลังวานนี้ลงแรง
ATO Daily Stock Picks
แนะนำ KBANK SPALI
SPALI กำไรปีนี้พลิกกลับมาเติบโต
SPALI รายงานงบ 4Q66 ขยายตัว QoQ และดีกว่าตลาดคาด 8% จากการควบคุม SG&A ที่ทำได้ดี ขณะที่ปี 2567 ตลาดคาดผลประกอบการพลิกขยายตัว 13%YoY เด่นกว่าคู่แข่งที่โดยส่วนใหญ่ขยายตัวไม่ถึง 2 หลัก หนุนจากการโอนคอนโดฯ ใหม่มากกว่าปีก่อนรวมถึงส่วนแบ่งกำไรจากออสเตรเลียเพิ่มขึ้น
Upside Risk ต่อประมาณการของตลาด คือ การควบคุมค่าใช้จ่าย SG&A ขณะที่ Downside Risk คือ ยอดโอนต่ำเป้า แต่ความเสี่ยงไม่มากเพราะมี Backlog รองรับยอดโอนปีนี้คิดเป็นสัดส่วน 43% ราคาหุ้นซื้อขายบน PER67E ถูกเพียง 6 เท่าและ Diviend Yield สูงที่ 6.4% ต่อปี
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 22.00 บาท
KBANK ปันผลเกินคาด
เชื่อว่าราคาหุ้นจะตอบสนองในเชิงบวกหลังวานนี้ KBANK ประกาศจ่ายปันผล 2H66 ที่ 6 บาท/หุ้นหรือคิดเป็น Dividend Yield 4.8% (ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 22 เม.ย.) มากกว่าเราและตลาดคาดว่าจะจ่ายงวดนี้ +/-4.5 บาท/หุ้น ทำให้ปันผลทั้งปี 66 อยู่ที่ 6.5 บาทต่อหุ้นหรือคิดเป็น Dividend Payout Ratio ที่ 36% สูงสุดในรอบกว่า 10 ปี และอาจทำให้ตลาดเชื่อว่า KBANK จะคงการจ่ายในระดับสูงต่อในปีนี้เนื่องจากฐานทุนที่แข็งแกร่งและยังส่งผลบวกต่อ ROE สูงขึ้น
ราคาหุ้นติดลบ -8.9%YTD จนระดับ PBV อยู่ที่ 0.52x ต่ำกว่าเฉลี่ยย้อนหลัง -1 S.D. และต่ำกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มที่ 0.57x
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 130.00 บาท
KEY FACTOR
PCE ของสหรัฐฯ เดือน ม.ค. +2.4% YoY และ +0.3% MoM เป็นไปตามที่ Consensus คาดการณ์ หนุนแรง cover กลับทั้งในตลาดหุ้นและตลาดตราสารหนี้ ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ปรับตัวลงสู่ระดับ 4.22%
วันนี้ติดตามการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญต่างประเทศ 1) ดัชนี PMI ทั้งภาคการผลิตและบริการของจีน เดือน ก.พ. (Consensus คาด 49 และ 50.7 ตามลำดับ) 2) Caixin PMI ภาคการผลิตของจีน (Consensus คาด 50.7) 3) ISM ภาคการผลิตของสหรัฐฯ เดือน ก.พ. (Consensus คาด 49.5 สูงขึ้นจาก 49.1) 4) ตัวเลขส่งออกเกาหลีฯ เดือน ก.พ. (Consensus คาด 1.4% ชะลอลงจาก 18% ในเดือน ม.ค.) ซึ่งจะบ่งชี้การนำเข้าของจีน หลังผ่านพ้นช่วงตรุษจีน น่าจะสะท้อนให้เห็นภาพของการส่งออกไทยเช่นเดียวกัน
EYES ON
1 มี.ค. PMI ภาคการผลิตและบริการ, Caixin PMI ภาคการผลิตของจีน, ISM ภาคการผลิตสหรัฐฯ
นักกลยุทธ์ : ธีรเศรษฐ์ พรหมพงษ์, ชาญชัย พันทาธนากิจ