Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ภาวะตลาดหุ้นรายวัน

373

Market Wrap-Up

  • SET วันที่ 29 ก.พ.67 ปิด -11.38 จุด อยู่ที่ 1,370.67 จุด มูลค่าการซื้อขาย 73,542 ลบ.ต่างชาติขาย 4,336 ลบ.สถาบันซื้อ 667 ลบ.พอร์ตโบรกขาย 450 ลบ. NVDR มียอดซื้อสุทธิอยู่ที่ 4,172 ลบ. มียอดซื้อสุทธิในหุ้น BANPU,BJC,OSP,BDMS,DELTA และมียอดขายสุทธิ PTT,ADVANC,SAWAD,EGCO,CBG มูลค่า Short Sales อยู่ที่ระดับ 6,766 ลบ. หุ้นที่มีปริมาณ Short สูงคือ JAPAN13,LPN,AEONTS-R โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Short ใน Index Futures จำนวน 9,380 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Short สุทธิรวม 96,479 สัญญา นักลงทุนต่างชาติขายพันธบัตรจำนวน 402 ลบ.
  • ตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA +12%, S&P500 +0.52%, Nasdaq +0.90% ได้แรงหนุนจากกลุ่มเทคโนโลยี Ai เช่น Nvidia +2.08%, AMD +9.06% และ Dell +1.5% หลัง ก.พาณิชย์สหรัฐเผย US PCE ม.ค. ชะลอตัว YoY ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 ปิดทรงตัว ได้แรงหนุนจากกลุ่มประกัน, ก่อสร้าง, วัสดุ ขณะที่รายงานเงินเฟ้อเยอรมัน, สเปน, ฝรั่งเศส ม.ค. ปรับลดลง  

Market View

  • ตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA ก.พ.+2.2%, S&P500 +5.1%, Nasdaq +6.1% MoM ได้แรงหนุนจากรายงานกำไรของกลุ่มเทคโนโลยี Ai นำโดย Nviida +28.6% MoM รับอุปสงค์ชิป Ai ใน Q1/67 อยู่ระดับสูง ขณะที่รายงาน US PCE ม.ค. ชะลอตัวอยู่ที่ 2.4% & ธ.ค. 2.6% YoY และ ม.ค. 0.3% & ธ.ค. 0.1% MoM ปรับขึ้นน้อยสุดในรอบ 3 ปี ส่งผลให้ CME Fed Watch ชี้โอกาส 64% เฟดจะเริ่มลดดอกเบี้ยใน มิ.ย. นี้ ซึ่งสอดคล้องกับความเห็นของ ปธ.สาขาแอตแลนตา & ชิคาโกที่หนุนลดดอกเบี้ยในปีนี้        
  • ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 ก.พ. +1.84% MoM ปรับขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 ได้แรงหนุนจากผลประกอบการและการปรับขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี โดยวานนี้ DAX เยอรมัน +0.44% ทำจุดสูงสุดใหม่ หลังรายงาน CPI เยอรมัน ก.พ. ลดลงอยู่ที่ 2.5% & ม.ค. 2.9% YoY และค่ำวันนี้ติดตาม CPI ยูโรโซน ก.พ. คาดที่ 2.5% & 2.8% YoY
  • ตลาดหุ้นเอเชียวานนี้ปิดทรงระหว่างรอตัวเลข US PCE ม.ค. ส่วนเข้านี้ติดตาม PMI ภาคการผลิตจีน ก.พ. คาด 49.1 & ม.ค. 49.2 และภาคบริการ ก.พ. คาด 8 & ม.ค. 50.7
  • ตลาดหุ้นไทยดัชนี SET วานนี้ -0.82% ปริมาณการซื้อขาย 7.3 หมื่น ลบ. ต่างชาติขาย 4.3 พัน ลบ. รายย่อยซื้อ 4.1 พัน ลบ. สถาบันซื้อ 667 ลบ. จากแรงขายกลุ่มโรงไฟฟ้า -2.0% ถูกกดดันจากคาดการณ์เฟดจะเลือนการเริ่มลดดอกเบี้ยออกไปในเดือน มิ.ย. ส่งผลให้ต้นทุนด้านการเงินยังอยู่ระดับสูง ซึ่งอาจเป็นปัจจัยลบกดดันกำไรกลุ่มโรงไฟฟ้า & ไฟแนนท์ -1.6% ด้วย ส่วนผลของ MSCI รีบาลานท์วานนี้จากการถอด BANPU, BJC, OSP ส่งผลให้มีแรงขายมูลค่าราว 1 หมื่น ลบ แต่มีแรงซื้อกลับ 3 หลักทรัพย์ใน NVDR มูลค่า 4.0 พัน ลบ. เป็นปัจจัยส่งผลให้ดัชนีผันผวน ขณะที่รายงานงบ 489 บริษัทมีกำไร Q4/66 +8.6% YoY แต่ -36% QoQ จากผลขาดทุนของ บจ.หลัก ๆ เช่น TU,EGCO,IVL,TRUE,BTS ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลจากการตั้งสำรองด้อยค่า       

Daily Strategy

  • ประเมินแนวรับดัชนี SET 1,360 แนวต้าน 1,380 คาดดัชนีจะลดความผันผวนหลังผ่านช่วง MSCI รีบาลานท์ และได้แรงหนุนจากคาดการณ์ ธ.กลางหลัก ๆจะลดดอกเบี้ยกลางปีนี้ แนะนำทยอยซื้อค้าปลีก CPALL,CPAXT,BJC,ILM / ท่องเที่ยว AOT,BA,MINT/ อุปโภค ICHI, TKN, GFPT/ กลุ่มปันผล KBANK,TISCO,SIRI,SPALI / เก็งกำไร TTA,PSL
  • MOSHI* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 62.50 บาท) บริษัทรายงานกำไรสุทธิ 4Q66 ที่ 151 ล้านบาท +86%QoQ, +28%YoY หนุนจากการเติบโตของรายได้ของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2% นอกจากนี้ยังได้รับปัจจัยบวกจากการ เข้าสู่ช่วง Seasonal Effect เทศกาลเฉลิมฉลอง ส่วนแนวโน้มปี 67 บริษัทวางเป้าหมายรายได้เติบโต 20% จาก 1) การขยายสาขาใหม่ 24 สาขา แบ่งเป็น ร้าน Moshi Moshi 20 สาขา และ ร้าน Garlic 4 สาขา (pet accessories and home decor) คาดว่าจะใช้งบลงทุน 200 ล้านบาท เน้นพื้นที่ที่มีศักยภาพเติบโตสูง ทั้งในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และต่างจังหวัด ขณะที่ 1Q67 เปิดสาขาใหม่แบบ Standalone ในจังหวัดเชียงราย เป็นการทดลองเพื่อเตรียมความพร้อมเปิดตัวธุรกิจแฟรนไชส์ในอนาคต 2) การพัฒนาและออกสินค้าผลิตภัณฑ์ใหม่ให้ตรงกับความต้องการของกลุ่มลูกค้า และ 3) การหารายได้จากช่องทางธุรกิจใหม่อื่นๆ ทั้งนี้ตลาดคาดกำไรสุทธิปี 67-68 ที่ 514 ล้านบาท +28%YoY และ 659 ล้านบาท +28%YoY ตามลำดับ
  • CRC (ซื้อ/ ราคาเป้าหมาย 46.00 บาท) กำไรสุทธิ 4Q66 อยู่ที่ 3,138 ลบ. (-5.22%YoY, +175% QoQ ) สูงกว่าที่เราคาดและสูงกว่า Bloomberg Consensus(2,723 ลบ.,+15.24%) โดยรายได้จากการขายและการบริการไตรมาสนี้ อยู่ที่ 61,103 ลบ. (+1.69% YoY, +10.05% QoQ ) ภาพรวม QoQ โตตามฤดูกาล ส่วน YoY กลุ่มธุรกิจ Food ถูกกดดันจากธุรกิจในเวียดนามอยู่บ้าง ส่วนการดำเนินงานช่วง 1Q67 คาดยังดี YoY รับเทศกาลตรุษจีน และม.กระตุ้นกำลังซื้อของภาครัฐฯ(easy e-receipt) โดยปัจจัยขับเคลื่อนหลักของรายได้ปี67  คาดจะมาจากกลุ่ม Food ซึ่ง CRC ตั้งเป้าเปิดสาขา GO Wholesale เพิ่มอีก 7 สาขา(จากที่มี 11 สาขา) ปัจจุบัน เราวางกำไรสุทธิปี67 ที่ 9,175 ลบ.(+14%YoY)

 

Daily Key Factors

Oil Update(-) WTI เม.ย. -$0.28 อยู่ที่ $78.26/บาร์เรล Brent เม.ย. -$0.06 อยู่ที่ $83.62/บาร์เรล ถูกกดดันจาก EIA รายงานสต็อคน้ำมันดิบสหรัฐสัปดาห์ที่ผ่านมาเพิ่มขึ้น 4.2 ล.บาร์เรล สูงกว่าคาดที่ 3.1 ล.บาร์เรล โดยนักลงทุนรอการประชุม Opec พลัสในช่วงต้นเดือน มี.ค. ว่าจะลดกำลังผลิตต่อใน Q2 หรือไม่  

 

Gold Update(+) Comex Gold เม.ย.+$12.0 อยู่ที่ $2,054.70 /ออนซ์ ได้แรงหนุนจาก US PCE ม.ค. ชะลอตัว และคาดเฟดมีโอกาสลดดอกเบี้ยกลางปีนี้

 

Fund Flow(-) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วานนี้ ขายสุทธิ
-153.64 ล้านดอลลาร์สหรัฐ  ขายหุ้นไทย -120.68 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นอินโดฯ -40.72 ล.ดอลลาร์สหรัฐ และซื้อหุ้นฟิลิปปินส์ +7.76 ล.ดอลลาร์สหรัฐ

 

(0) ค่าเงินบาทเช้านีแข็งค่าอยู่ที่ 35.879 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(0) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ปรับลดลงอยู่ที่ 4.264 %

(+) ดัชนี BDI วานนี้ +70 จุด อยู่ที่ 2,111

(+) BitCoin เช้านี้ +0.40% อยู่ที่ 61,534 ดอลลาร์สหรัฐ

 

Economic Calendar

 

ในประเทศ

29 ก.พ.     ธปท. รายงานภาวะเศรษฐกิจและการเงินไทย

สัปดาห์ที5  สศอ.แถลงดัชนีอุตสาหกรรม  

สศค.รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง, ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค,ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค

 

ต่างประเทศ

26 ก.พ.     US ยอดขายบ้านใหม่ (ม.ค.)

27 ก.พ.     US รายงานความเชื่อมั่นผู้บริโภคจากซีบี (ก.พ.)

28 ก.พ.     US ดัชนีจีดีพี (ไตรมาสต่อไตรมาส) (ไตรมาส 4) 

                US สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ

29 ก.พ.     US ดัชนีราคาด้านการบริโภคส่วนบุคคล (PCE Price Index) (ม.ค.)

US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก

01 มี.ค.     CN ดัชนี PMI ภาคการผลิตของจีน (ก.พ.)

EU ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) (ปีต่อปี) (ก.พ.) 

                US ดัชนี PMI ภาคการผลิตจากสถาบันไอเอสเอ็ม (ISM) (ก.พ.)

                 

 

Theme Strategy

Theme หุ้นเด่นปี 2567 รัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อ ด้านส่งออกกลับมาขยายตัว ท่องเที่ยวฟื้นตัวรับความหวังเศรษฐกิจจีนเริ่มดีขึ้น ลุ้น Flow ไหลกลับหลังธนาคารกลางหลักมีโอกาสเริ่มปรับลดดอกเบี้ย 

(1)กลุ่มการอุปโภคบริโภค  ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ CPALL, CPAXT*, HMPRO*, ILM*, CPN*, CRC, MC*, KAMART*, CBG*, ICHI*, RBF* 

(2) กลุ่มส่งออก ได้ประโยชน์จากตัวเลขส่งออกที่คาดฟื้นตัวจากฐานต่ำปี66  AAI*, ITC*, TU, COCOCO*, SAPPE*, DELTA, KCE*, EPG*, NYT*, SJWD* 

(3) กลุ่มท่องเที่ยว ได้ประโยชน์จากมาตรการ Free Visa AOT*, CENTEL*, ERW*, SPA*, SISB*, WPH* 

(4) กลุ่ม Leasing ได้ประโยชน์จากการยุติวงจรดอกเบี้ยขาขึ้น MTC*, TIDLOR* 

(5) กลุ่มโรงไฟฟ้า ได้ประโยชน์จากต้นทุนก๊าซฯ เริ่มลดลง BGRIM*, GPSC* 

(6) กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม/ EV ได้ประโยชน์จากการย้ายฐานการผลิต สงครามการค้า AMATA, WHA, SUSCO*

 

 

**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย

 

Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 30% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 10%

 

Today Fundamental Research: -

 

 

Monthly Portfolio March 2024: GFPT*, BDMS, BSRC*, CPALL, AAV*

 

 

 

 

 

 

Analysts

Apichai Raomanachai  

Fundamental and Technical Investment Analysis ID No.  002939

Tel  02-829-6999  Ext  2200

Email : apichai.ra@kfsec.co.th

Nopporn Chaykaew     

Fundamental Analysis ID No.  043964

Tel  02-829-6999  Ext  2203

Email : noppoen.ch@kfsec.co.th

Nattawat Poosunthornsri  

Fundamental Analysis ID No.  087077

Tel  02-829-6999  Ext  2204

Email : nattawat.po@kfsec.co.th

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

HotNews: RJH ทุ่ม 420 ลบ. ลุยโครงการซื้อหุ้นคืน

บอร์ด RJH เคาะ โครงการซื้อหุ้นคืน จำนวน 18 ล้านหุ้น วงเงิน 420 ลบ. เริ่ม 15 พ.ย.67 - 30 เม.ย.68

หนาแน่น By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ มองปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นไทย เช้าวันนี้ ยังคงมีความคึกคัก .....

มัลติมีเดีย

รู้จัก เมดีซ กรุ๊ป ก่อนเทรด บนกระดาน SET - สายตรงอินไซด์

รู้จัก เมดีซ กรุ๊ป ก่อนเทรด บนกระดาน SET - สายตรงอินไซด์

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้