AT THE OPEN (#ATO)
SET Index แกว่งในกรอบ 1375-1390จุด
กลยุทธ์เลือกหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะ
Market Strategy
คาด SET Index วันนี้แกว่งตามกรอบ 1375-1390 จุด สภาพแวดล้อมยังขาดแรงขับเคลื่อน ตลาดหุ้นสหรัฐฯ แกว่งออกข้างในช่วง -0.06% ถึง -0.55% จากการรอการรายงาน Core PCE เดือน ม.ค. ซึ่งตลาดคาด 2.8%YoY หากออกมาใกล้เคียงคาด เราเชื่อว่าไม่น่าจะสร้างแรงกดดันต่อตลาดหุ้น เนื่องจาก FEDWACTH Tool ปัจจุบันได้เลื่อนการปรับลดดอกเบี้ยของ FED ไปที่เดือน มิ.ย. 67 และมองดอกเบี้ย ณ สิ้นปีที่ 4.75% ซึ่งเป็นระดับเดียวกับมึมุมมองดอกเบี้ยของ FED แล้ว

ปัจจัยในประเทศการรายงานงบ 4Q66 ยังเป็นปัจจัยที่สร้างความผันผวนต่อราคาหุ้น ส่วนวันนี้ช่วงเปิดตลาดจะเห็นแรงกดดันจากการขึ้น XD ของ PTT ที่จ่ายปันผล 1.2 บาท/หุ้น อาจกระทบ SET index ติดลบ 2.76 จุด ขณะที่ช่วงท้ายตลาดจะเห็นมูลค่าการซื้อขายมากกว่าปกติจาก MSCI Rebalance ที่จะมีผลราคาปิดวันนี้ โดยหุ้นเข้า-ออก รอบนี้ ดัชนี MSCI Global Standard หุ้นเข้าไม่มี หุ้นออก BANPU BJC OSP ดัชนี MSCI Global Small Cap หุ้นที่เข้า BANPU OSP GLOBAL SKY TISCO ส่วนหุ้นที่ออก BEC SUPER กลยุทธ์เลือกหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะ

Market Summary
SET Index ปรับลง 11 จุด แรงกดดันหลักมาจากกลุ่มอิเล็คทรอนิกส์ นำโดย HANA -13% จากผลประกอบการที่แย่กว่าคาด เพิ่มแรงขายหุ้นในกลุ่ม อาทิ DELTA -6% KCE -5% ส่วนหุ้นที่ปรับขึ้นเด่น BAM +6% จาก ธปท. ออกเกณฑ์แบงค์รัฐตั้ง JV AMC ขณะที่กลุ่มอื่นๆ ที่ปรับขึ้นจะเป็นที่โซนล่าง BJC +6% CPF +3% และ HMPRO +3%

ATO Daily Stock Picks
แนะนำ BCP KTB

KTB ตลาดผันผวน...หลบเข้าหุ้นปันผล
KTB ประกาศจ่ายปันผลสดๆร้อนๆวานนี้ที่ 0.868 บาทต่อหุ้นหรือเท่ากับ Dividend Yield ที่ 5.4% คิดเป็น Dividend Payout Ratio ที่ 33% สูงสุดนับจาก 2563 ที่ถูกกระทบจาก COVID
เราเชื่อว่าการจ่ายปันผลในระดับสูงข้างต้นจะเป็นตัวช่วยจำกัด Downside ของราคาหุ้นในภาวะที่ตลาดผันผวนได้อย่างน้อยไปจนถึงวันที่ขึ้น XD ในวันที่ 17 เม.ย. เวลาดังกล่าวจะเป็นช่วงคาบเกี่ยวกับงบประมาณภาครัฐฯปี 67 ที่จะเริ่มเบิกจ่ายได้ ถือเป็นบวกต่อ KTB ที่โครงสร้างสินเชื่อภาครัฐฯคิดเป็นสัดส่วนราว 1 ใน 5 ของสินเชื่อรวม
ด้านราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายบน PBV67 0.52 เท่าต่ำกว่าเฉลี่ยกลุ่มที่ 0.57 เท่า
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 22.00 บาท

BCP GRM ยืนสูงจะหนุนทั้งราคาและกำไร
ค่าการกลั่นในช่วง 1Q67 ที่ฟื้นตัวชัดจาก 1Q67TD เฉลี่ยอยู่ที่ 8 เหรียญฯเพิ่มขึ้น 46%QoQ และเชื่อว่าจะทรงตัวในระดับสูงได้ต่อจากความตึงเครียดในทะเลแดงที่กระทบภาคขนส่ง Supply รัสเซียที่ยังมีข้อจำกัดการส่งออก สภาพอากาศหนาวในสหรัฐฯ การปรับลดราคา OSP ของซาอุฯ มีผลตั้งแต่ ก.พ. 67
มองเป็นบวกต่อกลุ่มโรงกลั่น โดยเฉพาะ BCP ที่จะได้รับประโยชน์สัดส่วนรายได้ธุรกิจโรงกลั่นสูงแถมปีนี้จะได้กำไรเพิ่มขึ้นหลังเข้าซื้อกิจการ BSRC ที่อาจมีอัพไซด์ต่อประมาณการจากผลของ Synergy ขณะที่หุ้นซื้อขาย PER67 5.5 เท่าถูกสุดในกลุ่มฯ สวนทาง Dividend 67E คาด 6.5% ถือว่ามากที่สุดในกลุ่มฯ
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 59.00 บาท

KEY FACTOR
ตลาดหุ้นไทยที่เข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายของการรายงานงบฯ 4Q66 กลับมาผันผวนสูง และให้น้ำหนักกับปัจจัยเฉพาะตัว ส่งผลให้ดัชนียังคงแกว่งในกรอบจำกัดและไม่สามารถผ่าน 1,400 จุด ได้ ซึ่งในช่วงถัดไปน่าจะต้องรอปัจจัยขับเคลื่อนใหม่ๆในช่วงถัดไป และรอให้ตลาดยุติการปรับลดประมาณการณ์ทั้ง GDP และกำไรตลาด

ส่วนต่างประเทศ ตลาดหุ้นสหรัฐฯพักตัว ปิดลบช่วง 0.17%- 0.55% สะท้อนนักลงทุนที่เข้าสู่ช่วงระมัดระวังก่อนการรายงานข้อมูล PCE เดือน ม.ค. ของสหรัฐฯ ในคืนนี้ (29 ก.พ.) Consensus คาด +2.4% YoY จาก +2.6% ในเดือน ธ.ค. และ +0.3% MoM จาก +0.2% MoM แต่อย่างไรก็ตามเงินเฟ้อก็มีแนวโน้มที่จะชะลอลง บวกกับมุมมองตลาดที่ลดความคาดหวังต่อการปรับลดดอกเบี้ยเหลือเพียง 3 ครั้ง ผลกระทบหลังจากนี้ต่อตลาดหุ้นน่าจะจำกัด

Eyes on
27 ก.พ. ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนสหรัฐฯ, ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯ
29 ก.พ. จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, PCE สหรัฐฯ
1 มี.ค. PMI ภาคการผลิตและบริการ, Caixin PMI ภาคการผลิตของจีน, ISM ภาคการผลิตสหรัฐฯ

 
นักกลยุทธ์ : ธีรเศรษฐ์ พรหมพงษ์, ชาญชัย พันทาธนากิจ