Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.ทิสโก้ : SNNP คงคำแนะนำ “ซื้อ” มูลค่าเหมาะสม 24 บาท

237


กำไรสุทธิ 4Q23 เพิ่มขึ้น และทั้งปี 2023 เติบโตแรง
SNNP ประกาศกำไรสุทธิ 4Q23 ที่ 165 ล้านบาท (+8%YoY, +3%QoQ) เติบโตจากช่วง high season และกำไรสุทธิปี 2023 อยู่ที่ 636 ล้านบาท +23%YoY จากรายได้รวม 4Q23 ทรงตัว YoY แต่เพิ่มขึ้น 10% จากช่วง high season โดยสินค้ากลุ่ม snack โลตัสขาไก่และเบนโตะที่เพิ่มขึ้นประกอบกับการออก SKU ใหม่ต่อเนื่อง สำหรับการส่งออกในกลุ่ม CLMV เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะเวียดนามที่มียอดขายเพิ่มขึ้นจากไลน์ผลิตใหม่โลตัสขาไก่และเบนโตะ โดยยอดขายในประเทศคาด 68% และส่งออก 32% อัตรากำไรขั้นต้น 4Q23 เพิ่มขึ้น YoY และ QoQ จากสินค้ากลุ่ม snack ที่มีอัตรามาร์จิ้นดีกว่ากลุ่มเครื่องดื่ม ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขาย 16.5% เพิ่มขึ้น YoY และ QoQ จากการทำการตลาดของสินค้าใหม่

ยังคงประมาณการเดิม คาดกำไรเติบโตเฉลี่ย 13% (CAGR2Y)
เราคาดกำไรสุทธิ 1Q24F จะอ่อนตัวลงจากช่วง lowseason เรายังคงประมาณการเดิมคาดกำไรสุทธิปี 2024F ที่ 747 ล้านบาท +17%YoY จากคาดยอดขายในประเทศเพิ่มขึ้นจากการออก SKU ใหม่โดยใน ม.ค. 24 ได้เปิดตัวโลตัสหนังไก่กรอบ 2 รสชาติใหม่รสลาบและรสไก่ทอดสไตล์หาดใหญ่ โดยทำการตลาดผ่านสื่อออนไลน์ และบริษัทได้เปิดตัวสินค้ากลุ่มอาหารเสริม (food supplement) เมื่อวันที่ 20 ก.พ.24 ตั้งเป้าหมายรายได้ปีนี้ประมาณ 250 ล้านบาท หรือส่วนแบ่งการตลาด 1% ของมูลค่าอุตสาหกรรมกลุ่มวิตามินอาหารเสริม 25,000 ล้านบาท และคาดรายได้ต่างประเทศเติบโตโดยเฉพาะประเทศเวียดนามจะรับรู้รายได้สินค้าขนมปังอบแท่งโลตัสขาไก่เต็มปี และแบรนด์ “เบนโตะ” เริ่มรับรู้ยอดขายจากไลน์ผลิตใหม่ตั้งแต่ 4Q23 และแบรนด์เจเล่ที่จะรับรู้รายได้ตั้งแต่ 1Q24F เป็นต้นไป โดยบริษัทคาดกำลังการผลิตในเบื้องต้นจะอยู่ที่ระดับ 50-60% และบริษัทมีแผนขยายตลาดต่างประเทศเกาหลีใต้และฟิลิปปินส์เพิ่มขึ้น สำหรับส่งออก CLMV และประเทศอื่นๆ เราคาดเพิ่มขึ้นปีละ 10% ยกเว้นประเทศกัมพูชาคาดเติบโต 5% จากสภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว แนวโน้มต้นทุนวัตถุดิบที่เริ่มปรับลดลงช่วยเพิ่มอัตราทำกำไรและการเปิดไลน์ผลิตโรงงานจะช่วยเพิ่มอัตรามาร์จิ้นซึ่งสูงกว่าในประเทศไทยประมาณ 3-5%


เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ” จากความเป็นผู้นำตลาดในกลุ่มเครื่องดื่มและขนมขบเคี้ยว มูลค่าเหมาะสมอยู่ที่ 24 บาท ด้วยการประเมินมูลค่าด้วยวิธี PER forward ย้อนหลังเฉลี่ยที่ 31X แบบอนุรักษนิยม จากเดิม PER+1.5Stdev ที่ 37X จากแนวโน้มการเติบโตอย่างค่อยเป็นค่อยไปแต่ยั่งยืน โดย PER24F อยู่ที่ 23.1X, Div.Yield 24F ที่ 3.2% ปัจจัยเสี่ยง 1) สภาวะเศรษฐกิจ 2) ยอดขายไม่เป็นไปตามคาด

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

มัลติมีเดีย

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้