Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.ทิสโก้ : STEC คงคำแนะนำ “ถือ” ปรับมูลค่าเหมาะสมเป็น 9.00 บาท

338


STEC : คาดว่า 4Q จะชะลอตัวเนื่องจากค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น


เราคงมุมมองระมัดระวังต่อแนวโน้มกำไร
เราคาดว่ากำไรใน 4Q จะลดลงทั้ง YoY และ QoQ เนื่องจากรายได้จากการก่อสร้างที่ลดลง อัตรากำไรขั้นต้นที่ลดลง YoY ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้น และส่วนแบ่งขาดทุนที่เพิ่มขึ้น YoY (จากสายสีเหลือง) ตอนนี้เราคาดว่ากำไรจะทรงตัวในปี 2024F เนื่องจากรายได้จากการก่อสร้างที่ดีขึ้นควรถูกชดเชยด้วยส่วนแบ่งขาดทุนที่เพิ่มขึ้นจากสายสีเหลืองและสีชมพู ดังนั้น เราคงคำแนะนำ “ถือ”

คาดกำไร 4Q23F ลดลงทั้ง YoY และ QoQ
เราประเมินกำไรปกติ 4Q23F ของ STEC อยู่ที่ 102 ล้านบาท ลดลง 63% YoY และ 21% QoQ อิงจาก: 1) ประมาณการรายได้จากการก่อสร้างของเราที่ 7.48 พันล้านบาท ลดลง 12% YoY และ 5% QoQ 2) อัตรากำไรขั้นต้นโดยประมาณที่ 4.8% เพิ่มขึ้น QoQ จาก 4.5% แต่ลดลง YoY จาก 5.8% (ส่วนหนึ่งเกิดจากค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมของโครงการหนองบอน) 3) ประมาณการค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร (S&A) เพิ่มขึ้น 22% YoY และ 76% QoQ เป็น 241 ล้านบาท เนื่องจากโบนัสพนักงานสิ้นปี 4) ประมาณการดอกเบี้ยจ่ายเพิ่มขึ้น 4 เท่า YoY และ 1 เท่า QoQ จากสินเชื่อ S/T เพิ่มขึ้นของเงินลงทุน 2 พันล้านบาท และ 5) ส่วนแบ่งขาดทุนจากบริษัทร่วมจะเพิ่มขึ้น YoY (แต่ทรงตัว QoQ) (ส่วนใหญ่มาจากรถไฟฟ้าสายสีเหลือง) ผลลัพธ์จะแย่ลงหากภาษีเงินได้ไม่กลับรายการเป็น -34 ล้านบาท จากขาดทุนยกมาของบริษัทย่อย อย่างไรก็ตาม กำไรสุทธิน่าจะได้รับแรงหนุนจากกำไรพิเศษจากการปรับมูลค่ายุติธรรมจำนวน 20 ล้านบาท โดยรวมแล้วเราประเมินกำไรสุทธิ 4Q23F อยู่ที่ 122 ล้านบาท ลดลง 61% YoY และ 6% QoQ

คาดว่ากำไรจะทรงตัวในปี 2024F
เราคาดว่ารายได้จากการก่อสร้างจะเพิ่มขึ้นในปี 2024 จากการเติบโตของรายได้ที่คาดหวังไว้ที่ 7% และอัตรากำไรขั้นต้นที่ดีขึ้นจาก 4.3% เป็น 5.1% (จากรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากโครงการที่มีอัตรากำไรสูง) อย่างไรก็ตาม รายได้จากการก่อสร้างที่ดีขึ้นควรถูกชดเชยด้วยส่วนแบ่งขาดทุนที่เพิ่มขึ้นจากรถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ทั้งปี) และสายสีชมพู (COD เมื่อวันที่ 7 มกราคม) โปรดทราบว่าเราคาดการณ์ว่าโครงการอู่ตะเภา (2.7 หมื่นล้านบาท) จะเริ่มก่อสร้างในปี 2024 ความล่าช้าจากนี้อาจทำให้ประมาณการกำไรของเราลดลง

คงคำแนะนำ “ถือ” สำหรับ STEC โดยปรับมูลค่าที่เหมาะสมที่ 9.00 บาท
เราเพิ่มประมาณการกำไรหลักปี 2024F ขึ้น 3.6% แต่ปรับลดประมาณการกำไรหลักปี 2024-25F ลง 13-14% เพื่อสะท้อนสถานการณ์ปัจจุบันได้ดีขึ้น ดังนั้น มูลค่าที่เหมาะสมของเราจึงคำนวณจาก PER ปี 257F ที่ 25 เท่า (ค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 4 ปี) จึงลดลงจาก 10.50 บาท เหลือ 9.00 บาท เมื่อพิจารณาถึง upside ที่จำกัด และแนวโน้มกำไรปานกลาง เราจึงคงประมาณการ “ถือ” ซึ่งความเสี่ยงหลักคือ การไม่มีโครงการใหม่ ต้นทุนเกินจากความล่าช้าในการก่อสร้าง ต้นทุนวัสดุ และค่าจ้างที่เพิ่มขึ้น

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

SNNP รับรางวัล Supplier ดีเด่นจากแม็คโคร

SNNP รับรางวัล Supplier ดีเด่นจากแม็คโคร

PTG ลงนาม MOU กรมทรัพยากรทางทะเลฯ และองค์กรภาคีเครือข่าย ร่วมอนุรักษ์ ฟื้นฟูป่าชายเลน

PTG ลงนาม MOU กรมทรัพยากรทางทะเลฯ และองค์กรภาคีเครือข่ายร่วมอนุรักษ์ ฟื้นฟูป่าชายเลน

เก็งหุ้น By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อยขี่ไม้กวาดวิเศษ ภาคเช้าที่ผ่านมา หุ้นไทยแกว่งขึ้น ตามตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียส่วนการเล่นการเทรดเป็นไปตามแรง...

มัลติมีเดีย

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้