Today’s NEWS FEED

News Feed

SCGP เผยกำไรปี66 ลดลง10% เมื่อเทียบกับปีก่อน เหตุปริมาณและราคาขายลดลง

309

 

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(23 มกราคม 2567)----บริษัท เอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน)SCGP เปิดเผยว่าสรุปผลการดำเนินงานของ SCGP ปี 2566 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายรวม 129,398 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 11 เมื่อเทียบกับปีก่อน รายได้จากการขายลดลงจากปีก่อน มีสาเหตุหลักมาจากปริมาณและราคาขายที่ลดลง โดยเฉพาะในกลุ่มกระดาษบรรจุภัณฑ์และเยื่อกระดาษ ท่ามกลางความล่าช้าของการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในระดับโลกและระดับภูมิภาค


กำไรสำหรับปีเท่ากับ 5,248 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 10 เมื่อเทียบกับปีก่อน และมี Net profit margin อยู่ที่ร้อยละ4 โดย กำไรสำหรับปีลดลงจากปีก่อน มีสาเหตุหลักจากปริมาณและราคาขายที่ลดลงซึ่งเป็นไปในทางเดียวกันกับรายได้จากการขาย อย่างไรก็ตาม อัตรากำไรโดยรวมยังอยู่ในระดับทรงตัว เนื่องจากความพยายามในการลดต้นทุนอย่างต่อเนื่องและความมุ่งมั่นสู่ความเป็นเลิศในการดำเนินงาน


EBITDA เท่ากับ 17,769 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 8 เมื่อเทียบกับปีก่อน และมีEBITDA margin อยู่ที่ร้อยละ 14


ในปี 2566 อุปสงค์ของบรรจุภัณฑ์มีการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าที่เกี่ยวข้องกับผู้บริโภคเช่น อาหาร เครื่องดื่ม และสินค้าอุปโภคในชีวิตประจำวัน โดยมีแรงขับเคลื่อนมาจากการบริโภคภายในประเทศของภูมิภาคอาเซียน การฟื้นตัวของภาคการบริการและกิจกรรมท่องเที่ยว การเปิดประเทศของประเทศจีนก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยบรรเทาปัญหาการชะงักงันของห่วงโซ่อุปทาน ประกอบกับความต้องการในสินค้าจำเป็นทั่วโลกและผลกระทบจากการห้ามส่งออกสินค้าเกษตรกรรมในบางประเทศ ช่วยสนับสนุนให้ภาคการส่งออกของภูมิภาคอาเซียนในบางอุตสาหกรรมมีการเติบโตดีขึ้น เช่น อาหารแช่แข็ง อาหารกระป๋อง อาหารแปรรูป ผลไม้สด และข้าว

อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนที่ช้ากว่าคาด อัตราเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยที่ยังอยู่ในระดับสูงโดยเฉพาะในภูมิภาคยุโรป ส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของผู้บริโภค และการส่งออกจากภูมิภาคอาเซียนชะลอตัวลงโดยเฉพาะกลุ่มสินค้าคงทน เช่น สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ชิ้นส่วนยานยนต์ เฟอร์นิเจอร์ เสื้อผ้า และรองเท้าโดยอุตสาหกรรมกระดาษบรรจุภัณฑ์มีการแข่งขันที่รุนแรง ซึ่งเป็นผลจากอุปทานส่วนเกินของกระดาษบรรจุภัณฑ์ในภูมิภาค ส่งผลให้มีแรงกดดันด้านราคาขาย โดยเฉพาะในประเทศอินโดนีเซีย อย่างไรก็ตาม ราคาขายในภูมิภาคของเยื่อกระดาษและกระดาษบรรจุภัณฑ์ทั้งตลาดในประเทศและตลาดส่งออกนั้นได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว และเริ่มเห็นแนวโน้มการปรับราคาขึ้นในช่วงปลายปี 2566 ในขณะที่ราคาขายบรรจุภัณฑ์สำหรับผู้บริโภค (Consumer Packaging)ยังทรงตัวอยู่ในระดับที่ดีเนื่องจากความต้องการบรรจุภัณฑ์สำหรับสินค้าที่ใช้อุปโภคบริโภคในชีวิตประจำวันยังมีการเติบโตที่ดี

ในด้านต้นทุนหลักนั้นมีการปรับตัวในทางที่ดีขึ้น ประกอบด้วยค่าขนส่งซึ่งเป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของจำนวนตู้ขนส่งสินค้าในห่วงโซ่อุปทาน รวมถึงต้นทุนวัตถุดิบหลักและพลังงานที่ปรับตัวลงท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว อย่างไรก็ตาม ความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ในตะวันออกกลางในช่วงปลายปีที่ผ่านมาส่งผลให้เกิดความผันผวนของต้นทุนค่าขนส่งและการจัดการเส้นทางเดินเรือทั่วโลก


จากผลการดำเนินงานของปี 2566 คณะกรรมการบริษัทมีมติให้เสนอที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นเพื่ออนุมัติการจ่ายเงินปันผลประจำปี 2566 ในอัตราหุ้นละ 0.55 บาท โดยบริษัทได้จ่ายเป็นเงินปันผลงวดระหว่างกาลไปแล้วในอัตราหุ้นละ 0.25 บาท เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2566 และจะจ่ายเงินปันผลงวดสุดท้ายในอัตราหุ้นละ 0.30 บาทในวันที่ 22 เมษายน 2567 ตามรายชื่อ ณ วันกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิรับเงินปันผลในวันที่ 3 เมษายน 2567 โดยจะขึ้นเครื่องหมาย XD หรือวันที่ไม่มีสิทธิรับเงินปันผลในวันที่ 2 เมษายน 2567

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

มัลติมีเดีย

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้