มุมมองตลาดหุ้นวันนี้
SET รีบาวน์เพื่อลงต่อ: มองดัชนี SET ภาคเช้าจะได้แรงหนุนบวกตามภูมิภาค “ช่วงสั้น” แต่จากนั้นจะถูกกดดันจากปัจจัยลบที่มีมากโดยแรงหนุนช่วงสั้นนั้นมาจาก Sentiment เชิงบวกจากฝั่งยุโรป-สหรัฐที่ปิ ดบวกเมื่อคืนวันศุกร์นำโดยดาวโจนส์ ที่ทำ all time highอีกครั้ง หลัง ม.มิชิแกนเผยประมาณการดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเพิ่มขึ้นมากกว่าคาดที่ระดับ70 จุด และมากกว่าครั้งก่อนที่ 69.7จุด สู่ เดือน ม.ค. ที่ระดับ 78.8 จุด ขณะที่งบ 4Q66 ของ บจ.ส่วนใหญ่ดีกว่าคาด นำโดย World Acceptance ที่ EPS มากกว่าคาด$1.73 สู่ $2.84 ขณะที่แรงกดดันจาก 1) CME Fed Watchtool พลิกโอกาสคาดเฟดจะลดอกเบี้ย รอบ มี.ค. ต่ำลงสู่ 48.1% และเริ่มมองเฟดจะคงดอกเบี้ยยาวนาน สะท้อนมุมมองของ จนท.เฟดที่จะไม่รีบเร่งลดอัตราดอกเบี้ย 2) ราคาน้ำมันดิบWTI ทรงตัวต่ำกว่าระดับ 73 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากสัปดาห์ที่ผ่านมา Baker Hughes รายงานแท่นขุดเจาะในฝ่ังสหรัฐและแคนาดาเพิ่มขึ้น 11 แท่นทำให้กังวลอุปทานส่วนเกินและกดดันต่อกลุ่มพลังงานซึ่งเป็นBig Cap. 3) การเผยงบ 4Q66 ของกลุ่มธนาคารในสั ปดาห์ก่อนหน้าพร้อมทั้งภาพ EPS ดัชนี SET ลดลงจากสัปดาห์ก่อนที่ 97.70 สู่สิ้นสุดวันศุกร์ที่ระดับ96.12 อาจสะท้อนความกังวลต่อกลุ่มแบงก์ที่จะต้องตั้งสำรองเพิ่มมากขึ้นจากปัญหาหุ้นกู้ที่ยังOverhang อย่างไรก็ตามตลาดยังคาดหวังต่องบฯ งวด 4Q66 และงบปี 66 ในฝั่ งReal Sector รวมถึงการเก็งกำไรจากเงินปันผล 4) Fund-flow ต่างชาติยังไหลออกจากหุ้นไทย โดยวันศุกร์ขายสุ ทธิ 1.23 พันลบ. ส่งให้ยอดสะสมขายสุ ทธิกว่า 1.72 หมื่นลบ. MTD และ 5) ทางฝ่ายให้ระวังแรงขายหุ้นเกี่ยวกับประเด็นแร่ลิเทียมที่มีก่อนหน้า หลังจากในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมามีการแถลงว่าปริมาณแร่ลิเทียมที่ค้นพบในไทยต่ำกว่าที่รายงานก่อนหน้านี้

กลยุทธ์การลงทุน : 1) บาทอ่อนหนุนส่งออก: DELTA, HANA, ITC, KCE, MEGA, TKN 2) งบฯ ดีและปันผลเด่น: ADVANC, CK,CKP, MAJOR, SCB, TTB, 3) Selective : AH, AMATA, ROJNA, SABINA, PTTEP, WHA

แนวรับ-ต้าน
1,375–1,385

ปัจจัยบวก
+ บอร์ด กนอ. สั่งปรับภาพลักษณ์เป็ น Investment Enhancer การลงทุนตั้งเป้าช่วยหนุน GDPไทยโตมากกว่ า 4%ผลักดันไทยเป็นนิคมฯเป้าหมายของภูมิภาคและของโลก และตั้งเป้าดึงเม็ดเงินลงทุนในไทยไม่ต่ำกว่า 3 ล้านล้านบาทในปี 69นี้
+สนค.เผยแนวโน้มเงินเฟ้อปี 67 ของไทยจะชะลอตัวลงต่อเนื่องเป็ นปีที่ 2ซึ่งคาดที่ระดับ-0.3 ถึง1.7%จากอุปทานที่ผ่อนคลายลง จากมาตรการ
ลดค่าครองชีพ , ราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลง
+ กรมสรรพสามิต มีมติเห็นชอบม.ส่งเสริมรถยนต์ BEV ช่วงปี 67-70 (ม.EV3.5)ได้แก่ เงินอุดหนุน, การลดภาษี อากรขาเข้า, ลดภาษี สรรพสามิตซึ่งช่วยหนุนความเป็นกลางทางคาร์บอนและส่งเสริมการผลิตรถBEVโรงงานในไทยเพื่อชดเชยตามเงื่อนไข (นำเข้า 1คัน :ผลิตในไทย 3 คัน)
+STR Globalคาดตลาดโรงแรมไทยปี นี้จะเปิ ดโรงแรมใหม่กว่า 1 หมื่นห้องตามอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว และคาด ADRปี นี้ ไว้สูงกว่าปี 62

ปัจจัยลบ
-กลุ่มกบฎฮูตีในเยเมนยิงขีปนาวุธใส่เรือพาณิชย์ลำหนึ่งของสหรัฐเมื่อวานนี้ ทำให้สถานการณ์และเส้นทางเดินเรือในทะเลแดงยังได้รับผลกระทบขณะที่ทางฝ่ายมองเหตุการณ์ดังกล่าวอาจสนับสนุนให้สหรัฐเพิ่มการปราบปรามกบฎฮูตีให้รุนแรงมากยิ่งขึ้นด้านผู้นำอิสราเอลประกาศจะเดินหน้าปราบกลุ่มฮามาสให้สิ้นซาก สะท้อนปัญหาภูมิรัฐศาสตร์แถบตะวันออกกลางยังรุนแรง
- สำนักงานสถิติเยอรมนีรายงานดัชนีราคาผู้ผลิต PPIลดต่ำกว่าคาดไว้ที่-8%สู่ เดือน ธ.ค. ที่ -8.6% ขณะที่สำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษเผยยอดค้าปลีกเดือน ธ.ค. ลดลง 3.2%m-mต่ำสุดในรอบเกือบ3ปี

ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน
ธีรดา ชาญยิ่งยงค์- นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์ และทางเทคนิค #9501
ชุติกาญจน์ สันติเมธวิรุฬ, CISA – นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน และทางเทคนิค #37928
กิตติ บัวบึง – นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน #038313
พศุตม์ โงวิวัฒน์ชัย, CISA – นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน #127632
ฐนพงษ์ แซ่โล้ – ผู้ช่วยนักวิเคราะห์
ภัทรดนัย จตุรพร – ผู้ช่วยนักวิเคราะห์