Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง : บทวิเคราะห์กลยุทธ์การลงทุนรายวัน

253

 


Today’s dominant ideas
ทางเทคนิค คาด SET Index เคลื่อนไหว Sideways Down แนวรับ 1,370/1,366 จุด แนวต้าน 1,388/1,392 จุด อิงรูปแบบทางเทคนิค ที่ดัชนีฯ ยังคงเคลื่อนไหวในทิศทางขาลง ตามรูปแบบ Rounding Top อย่างไรก็ดี บริเวณแนวรับหลักที่ 1,370/1,354 จุด มีโอกาสเกิด Technical Rebound เนื่องจากเครื่องมือทางเทคนิคสำคัญ อาทิ RSI และ Stochastic เข้าเขต Oversold Area มากขึ้น สะท้อนโอกาสเกิดรีบาวด์ระยะสั้นในเร็ว ๆ นี้

ประเด็น Event สำคัญ วันนี้
US: จับตาการพิจารณาขอเลื่อนพิจารณางบประมาณปี 2024 ของสภาล่างออกไปชั่วคราว หลังจากสภาสูงมีมติ 68 ต่อ 13 เสียง เมื่อต้นสัปดาห์นี้ เห็นชอบให้มีการเลื่อนกำหนดเส้นตายการปิดหน่วยงานรัฐบาล (Government Shutdown) ออกไปอีกเป็นครั้งที่ 3 จากเดิมวันที่ 19 ม.ค. เป็นวันที่ 1 มี.ค. สำหรับกรณีปิดหน่วยงานบางส่วน และจากวันที่ 2 ก.พ. เป็นวันที่ 8 มี.ค. สำหรับกรณีปิดทุกหน่วยงาน โดยคาดว่าสภาล่างจะมีมติเห็นชอบก่อนกำหนดเส้นตายวันนี้
US: จับตาสุนทรพจน์ของประธานเฟด สาขาซานฟรานซิสโก Mary Daly (Voter) ที่มีมุมมองดอกเบี้ยเป็น Dovish ทำให้ตลาดอาจมีโมเมนตัมเชิงบวก หากมีการส่งสัญญาณสนับสนุนการเร่งปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างที่ตลาดคาดการณ์

ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญวันนี้ มีจำนวนมาก
+/-ไทย: กลุ่มธนาคารไทยทยอยประกาศงบวันนี้ โดยคาดกำไร 4Q23E เติบโต จาก NIM ที่ปรับตัวสูงขึ้น ตามผลของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของกนง. (รอบวันที่ 27 ก.ย. 2023) 25 bps ทำให้กลุ่มธนาคารยังได้รับประโยชน์จาการปรับขึ้นอัตราเงินกู้ใน 4Q23E ขณะที่สินเชื่อโดยรวมเติบโตเพียงเล็กน้อย YoY หรือ Flat QoQ สะท้อนความเข้มงวดของภาคธนาคารตามมุมมองเศรษฐกิจที่มีความเปราะบาง และการตั้งสำรองมีแนวโน้มทรงตัว QoQ และในส่วนของ NPL มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยหุ้นธนาคารที่คาดว่ากำไร 4Q23E มีแนวโน้มเติบโตโดดเด่น YoY ได้แก่ SCB มีแนวโน้มเติบโต จากสินเชื่อที่เติบโต และ NIM ที่ขยายตัว และ KTB NIM ขยายตัว สินเชื่อโตเล็กน้อย ส่วนธนาคารที่มีสินเชื่อเช่าซื้อเป็นสัดส่วนหลัก (KKP TISCO) คาดว่ายังมีแรงกดดันจากปริมาณ และขาดทุนรถยึดในระดับสูง
+/-US: ผลประกอบการบจ. สหรัฐฯ จับตารายงานผลกำไรของ Travelers, State Street ฯลฯ โดยคาดว่าจะส่งผลกระทบต่อราคาหุ้นรายตัว หากกำไรออกมาดีหรือแย่กว่าคาดการณ์
+/-US: จับตารายงานดัชนีวัดความเชื่อมั่น Michigan Consumer Sentiment เดือน ม.ค. คาดเพิ่มขึ้นเป็น 70 (Vs เดือน ธ.ค. 69.7) ส่วนคาดการณ์เงินเฟ้อช่วง 1 ปีข้างหน้า อยู่ที่ระดับเดิม 3.1% เช่นเดียวกับคาดการณ์ เงินเฟ้อ 5 ปีข้างหน้า อยู่ที่ระดับเดิม 2.9%
+/-US: ยอดขายบ้านเดิมเดือน ธ.ค. Consensus คาดเพิ่มขึ้นเล็กน้อย +0.3% MoM เป็น 3.82 ล้านหลัง (Vs เดือน พ.ย. +0.8% MoM เป็น 3.82 ล้านหลัง)

กลยุทธ์ลงทุน แนะนำ หุ้นบลูชิพที่มีรายได้แน่นอน ได้แก่ BEM AMATA SISB

 


Strategic daily picks


BEM ปิด 7.55 บาท/แนวรับ 7.40 บาท แนวต้าน 8.00 บาท
ภาพรวมปี 2024 มีแนวโน้มเติบโตดี ด้วยแนวโน้มรายได้จากธุรกิจรถไฟฟ้าเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง ขณะที่ธุรกิจทางด่วนเติบโตสู่ระดับปี 2019 ที่มีปริมาณรถเฉลี่ยวันละ 1.2 ล้านคันแล้ว รวมถึงรายได้จากการรับจ้างเดินรถและซ่อมบำรุงระบบโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่-เตาปูน ทั้งนี้ คาดปี 2024 จะสามารถส่งต่องานให้กับ CK รวมมูลค่าราว 2 แสนล้านบาท Bloomberg Consensus ประมาณการกำไรสุทธิปี 2023 ที่ 3.5 พันล้านบาท (+43.64% YoY) และมูลค่าเหมาะสมที่ 10.35 บาท


AMATA ปิด 22.90 บาท/แนวรับ 22.20 บาท แนวต้าน 23.80 บาท
คาดมีนักลงทุนต่างชาติ รวมถึงจีนสนใจเข้ามาสร้างฐานการผลิตในไทยเพิ่มขึ้น ซึ่งมีโรงงานผลิตและส่งออกรถยนต์ของจีนในที่ดินนิคมอมตะมากกว่า 200 โรงงาน ขณะเดียวกันบริษัทยังคงเป้าหมายรายได้รวมเติบโตทำสถิติสูงสุดใหม่ และคาดยอดขายที่ดินจะทำได้ที่ระดับ 1.7-2 พันไร่ (ต่ำกว่าเป้า 2.5 พันไร่) Bloomberg Consensus ประมาณการกำไรสุทธิปี 2023 ที่ 1.99 พันล้านบาท (-15.12% YoY) และมูลค่าเหมาะสมที่ 29.93 บาท


SISB ปิด 36.00 บาท/แนวรับ 33.75 บาท แนวต้าน 38.00 บาท
ปี 2024 ตั้งเป้าจำนวนนักเรียนเพิ่มขึ้นเป็น 4.7 พันคน (คาดปี 2023=4.2 พันคน) ช่วยหนุนรายได้รวมของบริษัทเติบโต 30% และระดับอัตราการทำกำไรเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 30% พร้อมขยายจำนวนที่นั่งในโรงเรียนสาขาเดิมรวมกว่า 1.5 พันที่นั่ง ขณะที่ในปี 2025-26 จะมีจำนวนนักเรียนเพิ่มขึ้นมากกว่าเป้าหรือเพิ่มเป็น 5 พันคน และ 5.4 พันคน ตามลำดับ Bloomberg Consensus ประมาณการกำไรสุทธิปี 2023 ที่ 640.29 ล้านบาท (+73.39% YoY) และมูลค่าเหมาะสมที่ 40.35 บาท


World Market Summary
• ตลาดหุ้นไทย ร่วงต่อเป็นวันที่ 4 ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.1 หมื่นล้านบาทจากแรงขายต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 ของนักลงทุนต่างชาติ นำลงโดยกลุ่ม ปิโตรฯ ท่องเที่ยว ค้าปลีก เนื่องจากยังไร้ปัจจัยใหม่เข้ามาหนุน
• ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวก โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้น Apple +3.26% หลังจาก Bank of America ปรับเพิ่มคำแนะนำเป็น Buy และการปรับขึ้นของหุ้นกลุ่มผุ้ผลิตชิพและบริษัทที่พัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หุ้น TSMC +10.08% รายงานกำไรสูงกว่าคาดและส่งสัญญาณบวกต่อแนวโน้มอุตฯในอนาคต
• ตลาดหุ้นยุโรป ปิดบวก โดย STOXX600 +0.59% ดีดตัวขึ้น หลังจากปรับตัวลง 3 วันติดต่อกัน และได้แรงหนุนจากการเปิดเผยผลประกอบการที่สดใสของบริษัทจดทะเบียน นำโดยกลุ่มสินค้าหรู Richmond +10.4% LHMV +2.5% กลุ่มสันทนาการ กลุ่มเทคฯ
• ราคาน้ำมัน ปิดบวก หลังจากสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ปรับเพิ่มคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันดิบปีนี้ สูงขึ้นจาก 1.06 เป็น 1.24 ล้านบาร์เรล/วัน และกลุ่มโอเปกปรับเพิ่มจาก 1.85 เป็น 2.25 ล้านบาร์เรล/วัน รวมถึง สต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ สัปดาห์ที่แล้วลดลงกว่าคาด เป็น -2.5 ล้าน Vs คาดลดลง -3.13 แสนบาร์เรล
• ราคาทองคำ กลับมาปิดบวก เนื่องจากนักลงทุนช้อนซื้อเก็งกำไร หลังจากราคาทองคำร่วงลงอย่างหนักติดต่อกัน 2 วันทำการ นอกจากนี้ สถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางยังเป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

หุ้นใหญ่ฟื้น By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ มองเห็นหุ้นใหญ่หลายตัว ฟื้นตัว เนื้อตัวเต็มไปด้วยแสง สีเขียว ตามตลาดสหรัฐบวก ....

มัลติมีเดีย

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้