สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(19 มกราคม 2567)-----นายโชติพัฒน์ พีชานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยกรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน)TGH เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 7/2566 เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2566 ได้มีมติรับทราบการจำหน่ายอสังหาริมทรัพย์รอการจำหน่ายของ บริษัทอินทรประกันภัย จำกัด (มหาชน) (“INSURE หรือ ผู้ขาย”) ให้กับบริษัท ศรัทธาทรัพย์2จำกัด (“ผู้ซือ้ ”) ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่ม ทีซีซีจากกรรมการผู้แทนที่ได้รับการแต่งตั้งตามข้อ 38(1) (ก) และ/หรือตัวแทนของบริษัทตามที่กำหนด ซึ่งบริษัทได้ดำเนินการตามที่กำหนดไว้ในข้อบังคับของบริษัทแล้วโดยมิได้มีมติอนุมัติหรือความเห็นแต่อย่างใด เนื่องจากบริษัทมีสัดส่วนการถือหุ้นทางอ้อมผ่านบริษัท รถดีเด็ด ออโต้ จำกัด (“RDD”) คิดเป็นร้อยละ 75.06 ของทุนจดทะเบียน จึงถือได้ว่ารายการดังกล่าวบริษัทเป็นผู้มีส่วนได้เสียและไม่มีสิทธิออกเสียงในเรื่องดังกล่าว ทั้งนี้ รายการดังกล่าวเข้าข่ายเป็นรายการที่เกี่ยวโยงกัน เนื่องจากผู้ซื้อเป็นนิติบุคคลที่มีผู้ถือหุ้นรายใหญ่รายเดียวกันกับบริษัท ซึ่งบริษัทมิสามารถออกเสียงในการประชุมผู้ถือหุ้นของ INSURE ได้เพื่อดำเนินการให้เป็นไปตามการกำกับดูแลกิจการที่ดี และเป็นไปตามประกาศคณะกรรมการก ากับตลาดทุนที่ ทจ.20/2551 เรื่อง หลักเกณฑ์ในการทำรายการที่มีนัยสำคัญที่เข้าข่ายเป็นการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งทรัพย์สิน และประกาศคณะกรรมการก ากับตลาดทุนที่ ทจ.21/2551เรื่อง หลักเกณฑ์ในการทำรายการที่เกี่ยวโยงกันกำหนดให้บริษัทจดทะเบียนปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด

ในการประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 1/2567เมื่อวันที่18 มกราคม 2567ได้มีมติอนุมัติให้INSURE ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทถือหุ้นทางอ้อม จำหน่ายอสังหาริมทรัพย์ และเข้าทำรายการที่เกี่ยวโยงกับ บริษัท ศรัทธาทรัพย์2 จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทหนึ่งในกลุ่ม ทีซีซีการเข้าทำรายการดังกล่าวเป็นรายการจำ หน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ตามประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน ที่ ทจ.20/2551เรื่อง หลักเกณฑ์ในการทำรายการที่มีนัยสำคัญที่เข้าข่ายเป็นการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งทรัพย์สิน (รวมทั้งที่มีการแก้ไขเพิ่มเติม)และเข้าข่ายเป็นรายการเกี่ยวโยงกันตามประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุนที่ ทจ. 21/2551เรื่อง หลักเกณฑ์ในการทำรายการที่เกี่ยวโยงกัน (รวมทั้งที่มีการแก้ไขเพิ่มเติม) ก าหนดให้บริษัทจดทะเบียนปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดนั้น โดยสรุปมีรายละเอียด ดังนี้

1. คู่สัญญาที่ทำรายการ :
ผู้ขาย : บริษัท อินทรประกันภัย จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยในกลุ่มบริษัท TGH ที่ทาง TGH ถือหุ้นทางอ้อมผ่าน บริษัท รถดีเด็ด ออโต้ จำกัด ในสัดส่วนร้อยละ 75.06
ผู้ซื้อ: บริษัท ศรัทธาทรัพย์2จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่ม ทีซีซี

2. ความสัมพันธ์ระหว่างกัน
INSURE เป็นบริษัทในกลุ่ม TGH และ บริษัท ศรัทธาทรัพย์2จำกัด เป็นบริษัทในกลุ่ม ทีซีซีซึ่งมีผู้ถือหุ้นรายใหญ่รายเดียวกันกับบริษัท

3. ประเภทและลักษณะทั่วไปของรายการ:
ทรัพย์สินที่ซื้อ: ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง ของ บริษัท อินทรประกันภัย จำกัด (มหาชน)
ที่ตั้ง : 364/29 ถนนศรีอยุธยาแขวงถนนพญาไท เขตราชเทวีกรุงเทพมหานคร
โฉนดที่ดิน : เลขที่3017จำนวน 1แปลง เนื้อที่0-1-68.0ไร่ หรือ168.0 ตารางวา
รายละเอียดสิ่งปลูกสร้าง : อาคารสำนักงาน 6ชั้น จ านวน 1 หลัง พื้นที่ใช้สอยประมาณ 1,930 ตารางเมตร
มูลค่าตามบัญชี: ณ วันที่30 กันยายน 2566 ประมาณ 19,259,662.13 บาท
การประเมินมูลค่าทรัพย์สิน : ประเมินราคาโดยผู้ประเมินมูลค่าทรัพย์สินที่ได้รับความเห็นชอบจากสำนักงาน ก.ล.ต.จ านวน 2 ราย ซึ่งผู้ประเมินทั้ง 2 ราย ไม่มีความเกี่ยวข้องกับบริษัทในกลุ่มไทยกรุ๊ป และบริษัทในกลุ่ม ทีซีซี โดยสรุปผลการประเมินมูลค่าทรัพย์สิน มีดังนี้

ราคาเสนอซื้อ: เท่ากับราคาประเมิน ของ บริษัท ทีเอพีแวลูเอชั่น จำกัด เป็นเงิน 121,911,000. บาท (หนึ่งร้อยยี่สิบเอ็ดล้านเก้าแสนหนึ่งหมื่นหนึ่งพันบาทถ้วน)

ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการของ TGH ครั้งที่ 1/2567เมื่อวันที่ 18 มกราคม 2567 ไม่รวมกรรมการที่ส่วนได้เสียและผู้ที่เกี่ยวข้องที่ซึ่งได้แก่ คุณเจริญ สิริวัฒนภักดี คุณฐาปน สิริวัฒนภักดี คุณโชติพัฒน์ พีชานนท์ คุณอาทินันท์พีชานนท์และ คุณสิทธิชัย ชัยเกรียงไกร ได้พิจารณาแล้วเห็นว่า รายการดังกล่าวมีความสมเหตุสมผล ราคาจำหน่ายทรัพย์สินเป็นราคาที่เหมะสม เป็นประโยชน์ และมีมติอนุมัติให้บริษัท อินทรประกันภัย จำกัด (มหาชน)จ าหน่ายอสังหาริมทรัพย์ได้แก่ ที่ดินรวมสิ่งปลูกสร้าง ตามโฉนดที่ดินเลขที่3017จำนวน 1แปลง เนื้อที่0-1-68.0ไร่ หรือ168.0 ตารางวา พร้อมสิ่งปลูกสร้าง อาคารสำนักงาน 6ชั้น เลขที่364/29 ถนนศรีอยุธยา แขวงถนนพญาไท เขตราชเทวีกรุงเทพมหานคร ให้กับ บริษัท ศรัทธาทรัพย์2 จำกัด ในราคา 121,911,000.- บาท (หนึ่งร้อยยี่สิบเอ็ดล้านเก้าแสนหนึ่งหมื่นหนึ่งพันบาทถ้วน) โดยมีมูลค่าราคาขายเท่ากับราคาประเมิน ทั้งนี้ค่าธรรมเนียมในการโอน ผู้ซื้อและผู้ขายรับผิดชอบคนละครึ่ง สำหรับค่าภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย และค่าภาษีธุรกิจเฉพาะ ค่าอากรผู้ขาย เป็นผู้รับผิดชอบ