สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(18 มกราคม 2567)---นายสิทธิเดช มัยลาภ กรรมการ บริษัท สกาย ไอซีที จํากัด (มหาชน) SKY เปิดเผยว่า ตามที่ บริษัท โปร อินไซด์จํากัด (“PIS”) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท สกาย ไอซีที จํากัด (มหาชน) (“บริษัทฯ” หรือ “SKY”)ในสัดส่วนการถือหุ้นร้อยละ 91.40 ของทุนจดทะเบียนของ PIS มีความประสงค์ที่จะออกและเสนอขายหุ้นสามัญที่ออกใหม่ต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) รวมถึงการนําหุ้นสามัญของ PIS เข้าจดทะเบียนเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(“ตลาดหลักทรัพย์ฯ”) เพื่อนําเงินทุนไปใช้ในการขยายธุรกิจ และ/หรือใช้เงินทุนหมุนเวียนในการดําเนินธุรกิจ และ/หรือให้คืนเงินกู้จากสถาบันการเงิน

บริษัทฯ ขอเรียนให้ทราบว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ครั้งที่ 1/2567 เมื่อวัน 17 มกราคม 2567 ได้มีมติสําคัญ โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

1. อนุมัติการแปรสภาพ PIS จากบริษัทจํากัดเป็นบริษัทมหาชนจํากัด

2. อนุมัติการเปลี่ยนแปลงมูลค่าหุ้นสามัญของ PIS จากเดิมมูลค่าที่ตราไว้ 100 บาท (หนึ่งร้อยบาท) เป็น 0.5 บาท (ห้าสิบสตางค์) ทําให้จํานวนหุ้นทั้งหมดของ PIS เปลี่ยนแปลงจาก 2,000,000 หุ้น (สองล้านหุ้น) เป็น 400,000,000 หุ้น (สี่ร้อยล้านหุ้น)

3. อนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนของ PIS จํานวน 140,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.5 บาท เป็นจํานวนเงิน70,000,000 บาท เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญที่ออกใหม่ต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO)

4. อนุมัติแผนการนํา PIS เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ PIS ให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) โดยเป็นการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนจํานวนไม่เกิน 140,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้0.5 บาท

ทั้งนี้ การออกและเสนอขายหุ้นสามัญที่ออกใหม่ของ PIS ต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ส่งผลให้สัดส่วนการถือหุ้นของบริษัทฯ ใน PIS ลดลง รายการดังกล่าวจัดเป็นรายการจําหน่ายไปซึ่งทรัพย์สินของบริษัทฯ ตามประกาศคณะกรรมการกํากับตลาดทุน ที่ทจ. 20/2551 เรื่อง หลักเกณฑ์ในการทํารายการที่มีนัยสําคัญที่เข้าข่ายเป็นการได้มาจําหน่ายไปซึ่งทรัพย์สิน ลงวันที่ 31 สิงหาคม 2551(และที่ได้มีการแก้ไขเพิ่มเติม) และประกาศคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรื่อง การเปิดเผยข้อมูลและการปฏิบัติการของบริษัทจดทะเบียนในการได้มาหรือจําหน่ายไปซึ่งทรัพย์สิน พ.ศ. 2547 ลงวันที่ 29 ตุลาคม 2547 (และที่ได้แก้ไขเพิ่มเติม) (“ประกาศรายการได้มาหรือจําหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์”) โดยมีขนาดรายการสูงสุดเท่ากับร้อยละ 1.36 ซึ่งคํานวณจากเกณฑ์กําไรสุทธิจากการดําเนินงาน

อย่างไรก็ดี บริษัทฯ ไม่มีรายการจําหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ซึ่งเข้าข่ายต้องคํานวณรายการตามเกณฑ์กําไรสุทธิจากการดําเนินงานช่วงระหว่าง 6 เดือนก่อนวันที่ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติแผน IPO ของ PIS ในครั้งนี้ดังนั้นการเข้าทำรายการดังกล่าวจัดเป็นรายการที่มีขนาดรายการต่ำกว่าร้อยละ 15 จึงไม่เข้าข่ายในการดําเนินการตามประกาศรายการได้มาหรือจําหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์