สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(16 มกราคม 2567)-----นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) TU เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2567ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 1/2567 ได้พิจารณาอย่างรอบคอบและตัดสินใจประกาศแผนถอนการลงทุนจากการลงทุนส่วนน้อยใน Red Lobster Master Holdings, L.P. (RLMH) บริษัทร่วมของบริษัทฯ ที่ถือหุ้นโดยบริษัท Thai UnionInvestment North America LLC (TUINA) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทฯ ถือหุ้นทั้งหมดในประเทศสหรัฐอเมริกา
บริษัทฯ เข้าเป็นผู้ถือหุ้นส่วนน้อยและพันธมิตรทางธุรกิจกับ Red Lobster ตั้งแต่ปี2559 โดยในช่วงหลายปีที่ผ่านมาธุรกิจ Red Lobster ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Covid-19) ผลกระทบด้านลบในภาคอุตสาหกรรม อัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น ต้นทุนวัตถุดิบและค่าแรงที่ปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งก่อให้เกิดผลกระทบในด้านลบต่อบริษัทฯ และผู้ถือหุ้นมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งบริษัทฯ และ Red Lobster ได้ทบทวนแผนธุรกิจของ Red Lobster
เพื่อหาแนวทางปรับปรุงการดำเนินงานทั้งในด้านการปฏิบัติการและด้านการเงินมาอย่างต่อเนื่องหลังจากพิจารณาอย่างถี่ถ้วน คณะกรรมการบริษัทมีความเห็นว่า ธุรกิจ Red Lobster ซึ่งมีความต้องการใช้เงินสูง ไม่สอดคล้องกับแผนการจัดสรรเงินลงทุนของบริษัทฯ และเห็นควรถอนการลงทุนจากการลงทุนส่วนน้อยใน RedLobster ซึ่งในระหว่างที่บริษัทฯ ศึกษาช่องทางที่เป็นไปได้ในการถอนการลงทุนนี้ บริษัทฯ จะบันทึกรายการด้อยค่าที่ไม่ใช่เงินสดครั้งเดียว จำนวนประมาณ 18,500 ล้านบาท (ประมาณ 530 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ) ในไตรมาสที่ 4 ของปี2566
คณะกรรมการบริษัท มีความเห็นว่า บริษัทฯ มีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งและการบันทึกรายการด้อยค่าที่ไม่ใช่เงินสดครั้งเดียวนี้ จะไม่มีผลกระทบในทางลบอย่างมีนัยสาระสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจ ทรัพย์สิน หรือสภาวะทางการเงินของบริษัทฯ อย่างไรก็ตามรายการดังกล่าวส่งผลกระทบต่ออัตราส่วนความสามารถในการชำระดอกเบี้ย และข้อจำกัดการจ่ายเงินปันผลซึ่งเป็นข้อกำหนดภายใต้หุ้นกู้บางชุดที่ออกโดยบริษัทก่อนหน้านี้ซึ่งบริษัทฯ จะดำเนินการเพื่อผ่อนผันเงื่อนไขดังกล่าวกับผู้ถือหุ้นกู้ก่อนการประกาศผลประกอบการในเดือนกุมภาพันธ์นี้
บริษัทฯ ขอเรียนให้ทราบว่าบริษัทยังคงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาความสามารถในการทำกำไร และเพิ่มอัตรากำไรในธุรกิจหลัก โดยบริษัทฯ อยู่ในระหว่างการจัดทำ แผนกลยุทธ์สำหรับปี 2573 (Corporate Strategy 2030) ซึ่งจะมุ่งเน้นที่ธุรกิจหลักคือ อาหารทะเลแปรรูปบรรจุกระป๋อง อาหารแช่แข็ง แช่เย็น และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มในระยะยาวให้กับผู้ถือหุ้นของบริษัทต่อไปในอนาคต
ทั้งนี้บริษัทฯ จะนำเสนอข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวผ่านเว็บไซต์ของบริษัท www.thaiunion.com ก่อนเวลา 21.00 น. ของวันนี้