SET สัปดาห์หน้า 4-8 ธันวาคม 2566 มีไฮไลท์สำคัญๆดังนี้

วิเคราะห์ด้วย Fibonacci Time & Price คือใช้แกน เวลา และ ราคา มาหาแนวรับ-ต้านที่สอดคล้องกัน
แกนเวลา จะได้ว่า 6 ธ.ค.66 เป็นแนวรับของเวลา ความหมายคือ หากตลาดลงมาก่อนหน้านั้น ช่วง 6 ธ.ค.66 ตลาดจะมีโอกาสดีดตัวขึ้น
แกนราคา แบ่งเป็น 2 โซนดังนี้
โซนบน ดัชนี 1384-1396
โซนล่าง ดัชนี 1373-1380

เมื่อหาความสัมพันธ์ร่วมระหว่าง เวลา และ ราคา จะได้ว่า ตลาดหุ้นไทยจะมีโอกาสฟื้นตัว ก็ต่อเมื่อ
1. ราคาปิดในกรอบ 1384-1396
2. หากราคาปิดในกรอบข้างต้น ช่วงเวลาที่ตลาดฟื้นตัว ก็แถวๆ 6 ธันวาคมเป็นต้นไป
3. สิ่งที่พิจารณาประกอบ กระแสเงินในตลาดฟิวเจอร์ แนวโน้มค่าเงินบาท ท่าทีของ FED ในการประชุมที่จะมาถึง 12-13 ธ.ค.66

โดยมีข้อมูลเพิ่มเติมดังนี้ สำหรับท่าทีของ FED (อ้างอิง คลาสสิก ออสสิริส )
การจ้างงานในสหรัฐฯมีแนวโน้มชะลอตัว
ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรลดลง และอัตราการว่างงานกำลังเพิ่มขึ้น
ค่าจ้างเฉลี่ยรายชั่วโมงยังปรับขึ้นไม่มาก ทำให้การใช้จ่ายในสหรัฐฯมีแนวโน้มทรงตัว ส่วนเงินเฟ้อ ด้านอุปสงค์ (Demand-Pull Inflation) เพิ่มขึ้นเล็กน้อย

สรุปการประชุม FOMC ในวันที่ 13 ธ.ค. 66 จากอัตราเงินเฟ้อยังไม่ต่ำกว่าอัตราเงินเฟ้อที่ FED ตั้งไว้ที่ 2%
น่าจะเห็นการคงดอกเบี้ยแตะ 5.25-5.50% และมีโอกาสที่ FED จะส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยในปีหน้า นับเป็น sentiment เชิงบวกต่อตลาดหุ้นทั่วโลก