สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(29 พฤศจิกายน 2566)--- ในยุคที่เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) หรือ AI ได้เริ่มเข้ามามีส่วนสำคัญในการดำเนินชีวิตของมนุษย์ทั้งทางตรงและทางอ้อมนั้น ล่าสุด บริษัท โมโน เน็กซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ MONO ผู้นำในการสร้างสรรค์สื่อและธุรกิจด้านความบันเทิงแบบครบวงจร เล็งเห็นความสำคัญของเทคโนโลยี AI ที่สามารถนำมาใช้งานได้จริงในอุตสาหกรรมบันเทิง โมโนจึงผนึกกำลังพันธมิตรร่วมกับ บอทน้อยกรุ๊ป (Botnoi Group) ผู้นำด้านเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ AI เพื่อเพิ่มศักยภาพธุรกิจขององค์กรและขีดความสามารถให้ธุรกิจ ในโครงการความร่วมมือระยะยาวของโปรเจกต์ "AI-Power สำหรับวงการบันเทิง เร็ว แรง"
คุณปฐมพงศ์ สิรชัยรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โมโน เน็กซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ MONO กล่าว "โมโนมีการพัฒนาไม่หยุดยั้ง นอกจากการผลิตหนังและซีรีส์แล้ว เราเชื่อว่ายุคนี้ ควรใช้ AI เป็นตัวช่วยในการทำงานควบคู่ไปกับทีมงานเดิมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ลดระยะเวลาและขั้นตอนในการทำงาน นอกจากนี้ยังสามารถนำมาวิเคราะห์ข้อมูลและให้บริการลูกค้าในมุมต่างๆ ซึ่งเชื่อว่าจะทำได้แม่นยำและรวดเร็วยิ่งขึ้น จึงเป็นที่มาในการเป็นพันธมิตรกับบอทน้อยกรุ๊ป ผู้นำด้านเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์
สำหรับเทคโนโลยี AI จะนำมาประยุกต์ใช้ในสองธุรกิจหลักของโมโน คือ MONOMAX ที่จะมีระบบการแปลภาษาที่รวดเร็วขึ้นด้วย AI ทำให้ผู้ชมที่รอคอยซีรีส์ต่างประเทศได้ชมของใหม่ๆ ได้เร็วขึ้น รวมทั้งลูกค้าของโมโนแมกซ์ที่ต้องการชมเป็นภาษาอื่นๆ เราก็จะมีภาษาซับไตเติ้ล และการพากย์เสียงโดยใช้ AI อีกหนึ่งธุรกิจ คือ ช่อง MONO29 จะนำร่องในรายการข่าวและรายการบันเทิงต่างๆ ของทางสถานีฯ ซึ่งการนำ AI มาเสริมจะสามารถทำให้การนำรายการไปเผยแพร่ช่องทางออนไลน์ครอบคลุมได้หลายภาษามากยิ่งขึ้น ดังนั้นแฟนรายการชาวต่างประเทศ หรือ แฟนรายการจากประเทศเพื่อนบ้านก็สามารถรับชมและเข้าใจคอนเทนต์ของทางสถานีเราได้อย่างรวดเร็ว"
"โดยในเฟสแรกนี้ เราได้เริ่มทดลองในส่วนของรายการข่าวเช้าและรายการกอสซิปสตาร์บันเทิง (online) รวมถึงคลิปพยากรณ์ดวงชะตาของอาจารย์คฑา ชินบัญชร เพื่อสามารถรองรับแฟนคลับสายมูทั่วเอเชีย ซึ่งเดิมยังมีข้อจำกัดในเรื่องของการเข้าถึงเนื้อหา และเรายังมองการขยายครอบคลุมไปถึงซีรีส์และภาพยนตร์ที่ผลิตโดย MONO Original ที่สามารถช่วยให้การทำตัวอย่างหนังและเบื้องหลังการถ่ายทำออกมาในหลายภาษาและหลายเวอร์ชันได้ สำหรับในเฟสแรกนี้จะมีการทดสอบแบบเบต้า ครอบคลุมภาษาอังกฤษ จีน ญี่ปุ่น เวียดนาม พม่า อินโดนีเซีย และในเฟสต่อไปจะครอบคลุมคอนเทนต์ที่มากขึ้น พร้อมกับการพัฒนาการแปล การพากย์ ร่วมกับบอทน้อย เพื่อที่จะได้อารมณ์ใกล้เคียงมนุษย์มากที่สุด"
ดร. วินน์ วรวุฒิคุณชัย ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) บอทน้อยกรุ๊ป กล่าว "บอทน้อยรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับความไว้วางใจจากทางโมโน ในการให้เป็นผู้นำระบบ AI มาใช้ในธุรกิจคอนเทนต์บันเทิง โดยถือได้ว่าเป็นโปรเจกต์สำคัญที่ทีมงานเราตั้งใจทำโปรแกรมขึ้นมา เพื่อรองรับคอนเทนต์สื่อบันเทิงโดยเฉพาะ ซึ่งการนำเทคโนโลยี Speech Recognition ตัวช่วยในการแปลงเสียงบทสนทนาเป็นข้อความหรือการแปลงข้อความเป็นเสียงจากวิดีโอหรือไฟล์เสียงที่มีความเป็นธรรมชาติคล้ายมนุษย์ด้วยโปรแกรม Text to Speech, Speech to Text, Machine Translation, Machine Dubbing และ Machine Subtite ซึ่งสามารถนำทั้งหมดมาทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพอย่างแน่นอน ทั้งในการแปลการพากย์ และการทำซับไตเติ้ลแบบดั้งเดิม รวมทั้งการแปลงบทพากย์หรือข้อความให้กลายเป็นเสียงพากย์ในภาษาต่าง ๆ เพื่อรองรับการใช้งานครอบคลุมหลากหลายภาษาในเอเชีย พร้อมทั้งสามารถเลือกเสียงพูดได้จากหลายหมวดหมู่ ไม่ว่าจะเป็นเพศ วัย สำเนียง หรือสไตล์การพากย์เพื่อให้เหมาะสมกับตัวละครแต่ละตัว
ที่ผ่านมา Botnoi ประสบความสำเร็จในการใช้ AI เพื่อการบรรยายเชิงข้อมูล สารคดี ข่าว แต่สำหรับครั้งนี้พิเศษมากขึ้น เพราะได้ร่วมมือกับโมโน ผู้มีความชำนาญและเข้าใจในธุรกิจบันเทิง มาช่วยยกระดับการพัฒนาและนำ AI มาใช้ให้เหมาะสมกับธุรกิจภาพยนตร์และซีรีส์ในแง่อารมณ์ของตัวละคร รัก โกรธ เสียงเข้ม เสียงตะโกน ซึ่งเมื่อพากย์เสียงภาษาอื่นๆ ด้วย AI แล้วก็ต้องพยายามรักษาอารมณ์ให้ตรงแต่ละบทบาทได้ตามต้นฉบับ หรือเหมือนมนุษย์ให้มากที่สุด ที่สำคัญคือช่วยลดต้นทุนด้านเวลาและทรัพยากรอื่น ๆ อีกทั้งช่วยผลิตคอนเทนต์ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งบอทน้อยเชื่อว่าการร่วมมือครั้งนี้ จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ AI ในวงการบันเทิงกลายเป็นจุดเปลี่ยนต่อไปในอนาคต เพราะ AI ไม่ได้มาทดแทนคน แต่จะมาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการและข้ามขีดจำกัดด้านกำแพงภาษา เปิดโอกาสให้คอนเทนต์บันเทิงเข้าถึงผู้คนใหม่ๆ ในภูมิภาคต่างๆ ได้หลากหลายยิ่งขึ้น ตามกระบวนการ Machine Learning นั้นยิ่งเชื่อมั่น ยิ่งใช้งาน AI ก็จะยิ่งฉลาดและเหมือนมนุษย์มากขึ้น"