NSL : มุมมองเชิงบวกเล็กน้อยจาก Opportunity Day

• อัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ที่อ่อนแอใน 3Q23 ที่ 17.7% เทียบกับ 18.4% ใน 3Q22 เนื่องมาจาก 1) ต้นทุนค่าแรงที่สูงขึ้น 2) การปรับกระบวนการผลิต และ 3) ผลิตภัณฑ์ใหม่อยู่ในช่วงเริ่มต้นของการผลิต (การประหยัดต่อขนาดที่ลดลง) อย่างไรก็ตาม ผู้บริหารคาดว่า GPM จะฟื้นตัวสู่ระดับปกติ (สูงกว่า 18% ในมุมมองของเรา) ในปี 2024F หลังจากที่การจัดตั้งสายการผลิตสำหรับผลิตภัณฑ์ฮาลาลเสร็จสมบูรณ์

• ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร (SG&A) ที่สูงขึ้นเกิดจากการส่งเสริมการขายผลิตภัณฑ์แบรนด์ของตัวเองที่เพิ่มขึ้น และการรวมบัญชี NSL กับ Bake a Wish

• ผลิตภัณฑ์ใหม่และช่องทางการจัดจำหน่ายยังคงมีแรงผลักดันที่ดีใน 4Q23F รวมถึงเบอร์เกอร์ข้าวและมาการอง ขณะที่ข้าวแท่งได้จำหน่ายให้กับสายการบินไลอ้อนแอร์ (เส้นทางอินเดีย) แล้ว ส่วนร้านกาแฟพันธุ์ไทยจะเริ่มจำหน่ายในเดือนธันวาคม 2023

• NSL x Bake a Wish (ถือหุ้น 60%) จะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่มากมายใน 7-eleven ร้านค้าปลีก และตลาด HoReCa อย่างไรก็ตาม แม็คโครเตรียมเปิดตัวแบรนด์ย่อยใหม่ 'Make A Wish' สำหรับผลิตภัณฑ์เค้กแช่แข็ง

• การส่งออกสินค้าชิ้นแรกของ NSL Intertrade (ถือหุ้น 80%) จะเริ่มในเดือนธันวาคม โดยเน้นสินค้าประเภทของหวาน

• ผู้บริหารตั้งเป้ารายได้ปี 2024 เติบโต 19-20% YoY (เทียบกับประมาณการของเราที่ 13% YoY) จากทุกกลุ่ม ในขณะที่ยังคงเป้าหมายรายได้ปี 2023F ที่ 4.7 พันล้านบาท (เทียบกับประมาณการของเราที่ 4.67 พันล้านบาท) ซึ่งสัญญา MOU ที่สำคัญกับ 7-eleven มีแนวโน้มที่จะต่ออายุในช่วงกลางเดือนธันวาคมไปอีก 5 ปี (ถึงปี 2031F)

• ทั้งนี้ เรางคงคำแนะนำ “ซื้อ” สำหรับ NSL โดยมูลค่าที่เหมาะสมเท่ากับ 25.25 บาท