Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.กรุงศรี พัฒนสิน : KCS Daily Strategy

342

 

"Peaking Yield Plays"

 

KCS Daily Strategy : คาดตลาด "Up" ต้าน 1425/1431จุด รับ 1410/1406จุด S&P500 ขึ้น 14 วันในรอบ 16 วันทำการ ใกล้ High ของปี ปลาย ก.ค. 23 จากวงจรดอกเบี้ยขาขึ้นสิ้นสุด และ US Bond Yield 10Yrs. ชะลอลงต่อเนื่อง 4.4% ส่วนราคาน้ำมันฟื้นวันที่ 2 เก็ง OPEC+ น่าจะขยายเวลาการปรับลดกำลังผลิตในปัจจุบันออกไป (ประชุม 26 พ.ย.) สอดคล้องกับทิศทางสหรัฐฯที่ชะลอความร้อนแรงลง คาดราคาน้ำมันดิบ Brent จะแกว่ง 80+/- เหรียญฯต่อบาร์เรล ในระยะสั้นนี้ ซึ่งเป็นระดับที่ไม่เร่งเงินเฟ้อ และหนุน มาร์จิ้น อุตสาหกรรมอื่นๆ ของไทยฟื้นตัว ส่วนภายใน GDP ไตรมาส 4 จะฟื้นจากจุดต่ำสุด 3Q23 ที่ GDP ขยายต่ำ +1.5%y-y จากการขับเคลื่อนรัฐฯ คาดกลุ่มที่ได้ประโยชน์จาก Yield ขาลง (โรงไฟฟ้า ชิ้นส่วน เช่าซื้อ Growth) และพลังงาน เด่น แนะ KCE, WHA, BE8

 

Daily outlook : "Up" ต้าน 1425/1431จุด รับ 1410/1406จุด

What happened around the world ?

• (*/+)US Stocks : ตลาดหุ้นสหรัฐปรับขึ้นต่อ Dow jones +0.58%, S&P500 0.74% Nasdaq 1.13% แรงหนุนจากมุมมองดอกเบี้ยสิ้นสุด และประเด็นเฉพาะบริษัท Sector ใน S&P500 ปรับขึ้นเกือบทุก Sector กลุ่มที่ขึ้นหลักๆคือกลุ่ม IT, ICT, Real Estate (โดยส่วนใหญ่หนุนจากหุ้น Tech อาทิ Microsoft +2.05%ทำ New high รับข่าวเปิดรับ Sam Altman (อดีต CEO ผู้ก่อตั้ง OPEN AIเข้าร่วมงาน), META +1.5%, NETFLIX +1.84%

•(*/+) China: ธนาคารกลางจีน(PBOC) เมื่อวานคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายตามคาดที่ 3.45% ผสานกับรัฐบาลเตรียมจะอัดฉีดเงินเพิ่มสภาคล่องต่อบริษัทอสังหาในจีน ล่าสุดมีรายชื่อ 50 บริษัทในจีนจะได้รับเงินทุนเพิ่ม อาทิ China Vanke, Seazen Group ฯลฯ มองเป็นปัจจัยบวกต่อภาค Property ในจีน โดยรวม KCS ยังคงมุมมองจีนภาพบวกจากทิศทางเศรษฐกิจจีนผ่านจุดที่เลวร้ายที่สุดไปแล้ว และมีแรงหนุนต่อเนื่องจากนโยบายการเงินและการคลังต่อเนื่องช่วงที่เหลือของปี 2023 มองบวกต่อหุ้น China Plays SCGP, IVL, PTTGC, DOHOME, GLOBAL

•(*/+) US GDP : 1) Fed สาขา Atlanta เผยแบบจำลอง GDP Now สหรัฐงวด 4Q23F +2.0%q-q (ทรงตัวจากปลายสัปดาห์ และชะลอจาก 3Q23 ที่ +4.9%q-q สอดคล้อง KCS ประเมินเศรษฐกิจสหรัฐดีที่สุดของปีคือ งวด 3Q23 และเริ่มชะลอจากผลกระทบของดอกเบี้ย และมองเป็น Soft Landing

•(*)Monitor : ฝั่งสหรัฐ 21 พ.ย. ยอดขายบ้านมือสอง ต.ค. ตลาดคาด 3.9 ล้านหลัง -1.5%m-m 22 พ.ย. 1) ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (U of Michigan) ครั้งสุดท้าย พ.ย. 23 ตลาดคาด 60.5 จุด vs เบื้องต้นที่ 60.4 จุด 2) ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน ต.ค. ตลาดคาด -3.1%y-y vs prev. +4.6%y-y และ 3) ยอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ยังไม่มีคาด vs prev. 2.3 แสนตำแหน่ง vs ระดับบ่งชี้เศรษฐกิจถดถอย > 4.0 แสน: 22 พ.ย. ติดตามรายงานประชุม Fed

• (*) US Bond & Dollar : แนวโน้มระยะสั้นปรับลงต่อ โดยอายุ 10 ปี ปรับลง -2 bps ปิดที่ 4.42% สวนทางกับ 2 ปีปรับขึ้น +1 bps อยู่ที่ 4.89% ส่วน Dollar Index อ่อนค่าต่อเนื่องอยู่บริเวณ 103.3+/- จุด

•(*/+) Oil : น้ำมันดิบพลิกกลับมาบวกขึ้นต่อ Brent +1.77% ปิดที่ US$ 82.04/barrelน้ำมันดิบ West Texas +2.25% ปิดที่ US$ 77.6/barrel แรงหนุนหลักมาจากฝั่ง Supply ทั้งเรื่องเดิม คือ สหรัฐ ออกมาตรการคว่ำบาตรกับบริษัทเดินเรือของรัสเซียที่ขายน้ำมันแพงเกินเพดานกลุ่ม G7 และ ตลาดเก็งการประชุม OPEC+ 26พ.ย. คาดจะเห็นการขยายการตัดลด Supply เพิ่มเติมจากการประชุมรอบก่อนที่ลดกำลังการผลิต 3.66 ล้านบาร์เรลต่อวันจนถึงสิ้นปี 2023 โดยรวมระยะสั้น จิตวิทยาบวกต่อหุ้นพลังงาน อาทิ PTT, PTTEP, TO

•(*/-)Rubber Price : ราคายาง TOCOM -9.96% ปิดที่ 252.1JPY/kg มองเป็นจิตวิทยาลบต่อหุ้นยาง อาทิ NER, STA

 

What happened in Thailand?

• (*/+) SET: SET ปิดบวกได้เป็นวันที่ 4 ที่ +0.26% กลุ่มหนุน คือ กลุ่มพลังงาน (PTT, PTTEP, TOP) ตามราคาน้ำมันที่รีบาวน์แรงเฉลี่ย 4% กลุ่มชิ้นส่วน (DELTA, KCE) มองความเชื่อมั่นวงจรดอกเบี้ยสิ้นสุดหนุน ผสาน เศรษฐกิจสหรัฐฯมีสัญญาณประคองเป็นภาพ Soft Landing ได้ กลุ่มถ่วง คือ กลุ่มค้าปลีก (CPALL, CPAXT) กลุ่มธนาคาร (KBANK, KTB, TTB) มองทั้ง 2 กลุ่มตอบรับภาพ GDP ไทยงวด 3Q23 +1.5%y-y ต่ำกว่าตลาดคาด

• (*) Flow: เงินทุนต่างชาติไหลออก ขายหุ้น -39.96 ล้านเหรียญฯ ซื้อพันธบัตร +39.3 ล้านเหรียญฯ TFEX เปิด Net Long 3,894 สัญญา เงินบาทแข็งค่า 35.17 +/- บาท

• (*/+) TH Bond: นักลงทุนต่างชาติเร่งกลับสถานะตลาดพันธบิตร วานนี้ซื้อ 1.38 พันล้านบาท ทำให้ Bond Yield ไทยอายุ 10 ปียังทรงตัวต่ำที่ 2.99% ปรับลงจากจุดสูงสุดรอบนี้ราว 40 bps ซึ่งตามผลศึกษาของ KCS ที่พบว่า ทุก -10 bps ที่ปรับลงจะบวกต่อ SET ราว 25 +/- จุด โดยรวมประเมินผลบวกต่อตลาดควรอยู่ในระดับ 100 +/- จุด ทำให้เรามองตลาดยังไม่ตอบรับภาพดังกล่าว หากอิงภาพตลาดที่เพิ่งปรับขึ้นจากจุดต่ำสุดราว 53 จุด รวมถึงตลาดหุ้นต่างประเทศหลักๆส่วนใหญ่ที่กลับไปในระดับก่อนกังวลภาพ Higher for Longer อย่างมากในช่วง ก.ย. - ต.ค. แล้ว เรามองโซนปัจจุบันยังน่าสะสมหุ้นได้รับประโยชน์ Yield ผ่านจุดพีค ได้แก่ ชิ้นส่วน KCE เช่าซื้อ MTC โรงไฟฟ้า GULF, GPSC และกลุ่ม High Growth BE8, BBIK

• (*) TH GDP: GDP ไทยงวด 3Q23 อยู่ที่ +1.5%y-y, +0.8%q-q ต่ำกว่าตลาดคาด y-y เติบโตจากการท่องเที่ยวและอุปสงค์ในประเทศ และดุลการค้าขยับขึ้น แต่ถ่วงจากการใช้จ่ายภาครัฐฯและการเปลี่ยนแปลงสินค้าคงเหลือ หลังรายงานสภาพัฒน์ทบทวน GDP ปี2023 เหลือ 2.5% แต่สะท้อนว่าช่วง 4Q23 จะเติบโตแรง +4.1%y-y และเพิ่มอีก 2.7-3.7% ในปี 2024 (สมมติฐานหลัก เงินเฟ้อทั่วไป 1.7-2.7%, ราคาน้ำมันดิบดูไบ 80-90 เหรียญฯ, นักท่องเที่ยวต่างชาติ 35 ล้านคน) โดยยังไม่รวมผลนโยบาย Digital Wallet

กลยุทธ์ เราเชื่อว่า SET สะท้อนภาพ GDP ที่มีความเสี่ยงแย่กว่าคาดไปแล้วระดับหนึ่งตั้งแต่ช่วงการรายงานกำไร บจ. งวด 3Q23 ผสานภาพจากนี้ที่ GDP จะเร่งชัดนับจาก 4Q23 จาก ภาคท่องเที่ยว บริโภค ดุลการค้าเร่งจะภาคส่งออกฟื้นตัว +การนำเข้าพลังงานลดลงตามราคา (ราคาน้ำมัน ต.ค. ปรับลง -10%m-m และ พ.ย. ลดลงอีก -6.9%m-m) ทิศทางดังกล่าวเรามองเน้นหุ้นกลุ่มจะได้ประโยชน์ภาพใหญ่ บริโภค CPALL, CPAXT, CRC, DOHOME, GLOBAL ท่องเที่ยว AOT, ERW ส่งออก KCE ต้นทุนพลังงานลดลง GULF, GPSC

• (*/+) TH Tourism: โมเมนตัมภาคท่องเที่ยวยังเป็นไปในทางบวก ยอดผู้ใช้บริการสนามบินเดินทาง ตปท. 1-16 พ.ย. ยังทรงตัวสูง 81.8% vs วันที่ 1-11 พ.ย. 82% vs ต.ค. 23 ที่ 74.6% ของช่วง Pre COVID บ่งชี้นักท่องเที่ยว พ.ย. ระดับ 2.75-2.8 ล้านคน +20-22%m-m หนุนนักท่องเที่ยว 11M23F คาดอยู่ในระดับ 25 +/- ล้านคน อิงค่าเฉลี่ยนักท่องเที่ยว ธ.ค. vs พ.ย. ปี 2016-19 จะเพิ่มเฉลี่ยอีกราว 20%m-m โดยรวมมองนักท่องเที่ยว ธ.ค. เร่งสู่ 3.3-3.4 ล้านคน นักท่องเที่ยวปี 23F มองระดับ 28-29 ล้านคน ผสาน ภาพ กพท. เปิดเผยมี 9 สายการบินสัญชาติไทยจดทะเบียนใหม่ ภายใต้มุมองปี 2024F เป็นปีแห่งการฟื้นตัว มองจำนวนผู้ใช้บริการในประเทศเติบโต +14.9% ระหว่างประเทศ +40.5% จะเป็นภาพนักท่องเที่ยวปี 2024F พุ่งสู่ระดับใกล้เคียง 40 ล้านบาท > ตลาดมอง 35-37 ล้านคน และเชื่อว่ายังไม่รวม Upside เพิ่มฟรี วีซ่ายุโรป เน้นกลุ่มท่องเที่ยว+กลุ่มอิงภาคบริการที่จะเร่ง AOT, ERW, CPALL, CPAXT, CRC

• (*/+) TH Tourism: โมเมนตัมท่องเที่ยวยังไปในทางบวก ผู้ใช้บริการสนามบินเดินทาง ตปท. 1-16 พ.ย. ทรงตัวสูง 81.8% vs 1-11 พ.ย. 82% vs ต.ค. 23 ที่ 74.6% ของช่วง Pre COVID บ่งชี้นักท่องเที่ยว พ.ย. 2.75-2.8 ล้านคน +20-22%m-m หนุนนักท่องเที่ยว 11M23F คาดอยู่ในระดับ 25 +/- ล้านคน อิงค่าเฉลี่ยนักท่องเที่ยว ธ.ค. vs พ.ย. ปี 2016-19 จะเพิ่มเฉลี่ยอีกราว 20%m-m โดยรวมมองนักท่องเที่ยว ธ.ค. เร่งสู่ 3.3-3.4 ล้านคน นักท่องเที่ยวปี 23F มองระดับ 28-29 ล้านคน ผสาน ภาพ กพท. เปิดเผยมี 9 สายการบินสัญชาติไทยจดทะเบียนใหม่ ภายใต้มุมองปี 2024F เป็นปีแห่งการฟื้นตัว มองจำนวนผู้ใช้บริการในประเทศเติบโต +14.9% ระหว่างประเทศ +40.5% จะเป็นภาพนักท่องเที่ยวปี 2024F พุ่งสู่ระดับใกล้เคียง 40 ล้านบาท > ลาดมอง 35-37 ล้านคน และเชื่อว่ายังไม่รวม Upside เพิ่มฟรี วีซ่ายุโรป เน้นกลุ่มท่องเที่ยว+กลุ่มอิงภาคบริการที่จะเร่ง AOT, ERW, CPALL, CPAXT, CRC

• (*/+) Household Debt+Gov Stimulus Plan: นายกฯ เตรียเปิดเผยแพ็คเกจแก้หนี้ทั้งใน-นอกระบบ แถลงมาตรการ 28 พ.ย.นี้ แถลงฝั่งหนี้นอกระบบ ส่วน 12 ธ.ค. จะเป็นการแถลงในส่วนหนี้ในระบบ มองมีโอกาสเป็นจิตวิทยาบวกต่อกลุ่มเช่าซื้อ เน้น MTC นอกจากนี้ รัฐฯ จ่อออกแพ็คเกจกระตุ้นท่องเที่ยว คาดชงครม.สัปดาห์หน้า พร้อมยืนยันมีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่อง มองบวกต่อกลุ่มอิงภายใน ทั้งท่องเที่ยวและการบริโภค

• (*/+) Smart Cities: กระทรวงดิจิตอลเปิดเผยแผนที่ผลักดันให้เกิด Smart Cities ทั่วประเทศ โดยมีแนวคิดหลักขับเคลื่อน ได้แก่ Smart Environment, Smart Energy, Smart Mobility, Smart Economy, Smart Living, Smart Governance และ Smart People โดยทั้งจะต้องมีรวบรวม Data ด้านต่างๆสร้าง Platform เชื่อมข้อมูล โดยแต่ละจังหวัดอาจจะเลือกจุดเด่นที่เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมตนเอง โดยรัฐฯจะช่วยให้การสิทธิ์ประโยชน์ทางภาษี หากมีการซื้อและสินค้า+บริการจากบัญชีบริการดิจิทัล และการลงทุนเกี่ยวกับ Digital มองบวกต่อทิศทางเม็ดเงิน Digital Transfromation ที่ทยอยเข้ามาจากภาครัฐฯ ลดความกังวลตลาดก่อนหน้าที่เม็ดเงินชะลอ มองบวกต่อหุ้นที่มีโอกาสได้ประโยชน์ อาทิ BE8, BBIK

• (*/+) IE: ปัจจัยหนุนการดึงเงินลงทุน หลังนายก Roadshow บ.Global ให้ความสนใจทั้ง ไมโครซอฟท์ กูเกิล และล่าสุด วันที่ 28 พ.ย. ผบ. TESLA จะมาดูพื้นที่ในไทย เป็นสัญญาณบวกต่อกลุ่มฯและผู้ประกอบการที่มีศักยภาพ ทั้ง WHA AMATA

 

Daily Strategy : KCE, WHA, BE8

ระยะสั้น วันนี้มองภาพตลาด "Sideways/Up" หนุนหลักภาพตลาดความเชื่อมั่นวงจรดอกเบี้ย สิ้นสุด+เศรษฐกิจสหรัฐฯคาดประคอง Soft Landing ได้ มองหนุนหุ้นได้ประโยชน์ Yield ผ่านพีค อาทิ โรงไฟฟ้า GULF, GPSC กลุ่ม Growth อาทิ BBIK, BE8 ชิ้นส่วนฯ KCE ผสาน กลุ่มพลังงานได้ภาพบวกราคาน้ำมันแกว่งขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 2

หุ้นที่อยู่ในกลุ่ม THAIESG Index จะน่าสนใจขึ้น และมีโอกาสถูก Active Fund ในประเทศดึงสถานะกลับก่อน เน้นในกลุ่ม i) ราคาลงแรงกว่า THAIESG Index -14%YTD ii) ถูก Short sales สูง หุ้นในกลุ่มดังกล่าวที่น่าจะเป็นเป้าหมายกองทุน ได้แก่ CPALL, GULF, CRC, GPSC, PTTGC, IVL, SCGP, OR, CBG, HMPROหุ้นได้รับประโยชน์มาตรการฟรี วีซ่าจีน รัสเซีย ไต้หวัน อินเดีย (AOT, ERW, CENTEL, ADVANC, CPAXT, CPALL, CRC)
หุ้นกลุ่มเก็งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรัฐบาลใหม่ Digiial Wallet+E-Refund, เร่ง FDI และ สร้าง S Curve จาก Soft Power (CPAXT, CPALL, CRC, DOHOME, GLOBAL, ADVANC, , WHA, AMATA, MAJOR)
หุ้น China Plays ที่เริ่มเห็นการกระตุ้นเศรษฐกิจแรงขึ้นและเริ่มเห็นการฟื้นตัวภายใน (PTTGC, IVL, SCGP, DOHOME, GLOBAL)
หุ้นได้ประโยชน์ภาคผลิตโลกเริ่มฟื้น และพอประคองได้ (HANA, KCE, IVL)
กลุ่มได้ประโยชน์ที่วงจรดอกเบี้ยสิ้นสุด และ Bond Yield เป็นปลายทาง (GULF, GPSC, BE8, MTC, KCE, HANA)
กลุ่มที่ได้ประโยชน์น้ำมันแกว่ง 80 +/- เหรียญฯ ภายใต้ภาพความกังวลเศรษฐกิจสหรัฐเริ่มโตแผ่ว จีนฟื้นตัวค่อยเป็นค่อยไป ขณะที่ OPEC+ คุมซัพพลายต่อเนื่อง มองเป็นระดับที่ต่อการทำกำไร Real Sector (SCGP, GULF, GPSC, IVL, TASCO, CPAXT)
• Nov 23 Best Picks : MAJOR, SCGP, GULF, GPSC, KCE, ERW, CPALL

• 4Q23 Stock Picks : AOT, ERW, CPAXT, BCH, WHA, SCB, KCE, PTT, SCGP, IVL, JMT Mid-Small Cap Play : SPA, BE8, GLOBAL, TNP

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้