AT THE OPEN (#ATO)
SET Index ค่อยๆ ขึ้น
กลยุทธ์เลือกหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว
Market Strategy
คาด SET Index แกว่ง Sideway Up ตามกรอบ 1410-1430 จุด แรงหนุนยังเชื่อว่ามาจากกลุ่มพลังงานหลังจากราคาน้ำมันดิบวานนี้ปรับขึ้นได้ต่อ 2% บนความคาดหวังการประชุม OPEC+ ในวันที่ 26 พ.ย. จะมีการขยายระยะเวลาการควบคุมการผลิตออกไปจากเดิมที่จะสิ้นสุดในสิ้นปี ขณะที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังปรับขึ้น 0.6-1.13% ตามความเชื่อว่าดอกเบี้ยฯ จบรอบขาขึ้นซึ่งมองเป็นบวกกลุ่มชิ้นส่วนฯ ของในวันนี้เรา
การรายงาน GDP 3Q66 ของไทยขยายตัว 1.5%YoYต่ำกว่าตลาดคาดที่ 2.4%YoY แรงกดดันจากภาคส่งออกและการใช้จ่ายของรัฐฯที่หดตัว โดยสภาพัฒฯมีการปรับลดคาดการณ์ GDP66F ที่ 2.5%YoY จากเดิม 2.75%YoY และ GDP67F คาดขยายตัวในช่วง 2.7-3.7%YoY ในระยะถัดไปเชื่อว่ามีความเสี่ยงสำนักเศรษฐกิจต่างๆทยอยปรับลด GDP ปีนี้และปีหน้าลง
สำหรับประเด็นอื่นๆ วันนี้ติดตามการประชุม ครม. ต่อการพิจารณาการออกกองทุน TESG กลยุทธ์การลงทุนเลือกหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว
Market Summary
SET Index ปรับขึ้น 0.26% ด้วยมูลค่าการซื้อขายเบาบาง 3.74 หมื่นล้านบาท โดยกลุ่มพลังงานดันตลาดตามทิศทางราคาน้ำมันดิบ PTTEP 1% TOP +2.5% และ BCP + 3.5% สวนทางกลุ่ม Domestic ที่ปรับลงหลัง GDP 3Q66 ออกมาต่ำกว่าคาด กดดันหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ -0.5% กลุ่มค้าปลีก -0.99% นักลงทุนต่างชาติพลิกขายสุทธิ 1,405 ล้านบาท
ATO Daily Stock Picks
แนะนำ CPN, SCGP
SCGP อีก 1 ตัวเต็งของกอง TESG
-คาดกำไร 4Q66 โต QoQ และ ปี 2567 คาดกำไรฟื้นตัว 24% YoY แรงสนับสนุนจากรัฐบาลจีนออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ราคาหุ้นปัจจุบันมี P/BV 1.4 เท่า (-1.8 SD)
-ได้รับ ESG Rating ระดับ AA มี market cap. และสภาพคล่องสูง ผสานกับเป็นหนึ่งในหุ้นที่ราคา underperform ดัชนีในช่วงก่อนหน้าค่อนข้างมาก (ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี -33% เทียบกับ SET Index ที่ -13%) จึงคาดเป็นหนึ่งในเป้าหมายของกองทุน TESG ที่คาดจะเริ่มจัดตั้งในเดือนหน้า (ธ.ค. 66)
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 45.00 บาท
CPN Earning Upgrade จะหนุนราคา
-คาดการณ์กำไรสุทธิเติบโต 40% ในปี 2566 และ 5% ในปี 2567 โดยประมาณการกำไรปี 2566/67 ของเราสูงกว่าที่ตลาดคาดถึง 15%/6% ทั้งนี้จากผลประกอบการ 3Q66 ที่แข็งแกร่ง (เติบโต 45%YoY และ 13%QoQ สูงกว่าตลาดคาด 10%) เราจึงคาดว่าตลาดจะปรับประมาณการกำไรเพิ่มขึ้นเร็วๆ นี้
-ในช่วง 1-2 เดือนจากนี้เชื่อว่าจะได้ Sentiment บวกหนุนจากความคืบหน้าของโครงการ e-Refund ที่คาดเตรียมเริ่มตั้งแต่ ม.ค. 67 ขณะที่หุ้นราคาถูก (PE ปี 67 ที่ 19 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีของ Forward PE ล่วงหน้า 1 ปีที่ 25 เท่าอยู่ 26%)
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 75.00 บาท
KEY FACTOR
GDP 3Q66 ของไทย +1.5% YoY และ +0.8% QoQ ต่ำกว่าที่ Consensus คาดที่ +2.2% YoY และ +1.3% QoQ และชะลอตัวลงจาก +1.8% ในไตรมาสก่อนหน้า เป็นผลมาจากการส่งออกสินค้าที่หดตัว -3.1% และการใช้จ่ายภาครัฐที่ชะลอตัว อย่างไรก็ตามทิศทางตลาดหุ้นน่าจะให้น้ำหนักต่อการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ การผ่านงบประมาณ ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่ช่วยฟื้นเศรษฐกิจไทยปลายปี และต่อเนื่องปี 2567 (สภาพัฒน์ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยปีหน้าจะฟื้นตัว 2.7% - 3.7% จากแรงหนุนการบริโภคและลงทุนภาครัฐ รวมถึงการส่งออก) ที่จะทยอยมีออกมาเพิ่มเติม วันนี้ติดตามลุ้น ครม. อนุมัติ 1) กองทุนเพื่อนความยั่งยืน (TESG) และการหารือแนวทางการแก้หนี้ ก่อนนำเข้า ครม. ในช่วงถัดไป
Eyes on
21 พ.ย. ประชุม ครม. อนุมัติ TESG
22 พ.ย. รายงานการประชุม FOMC, ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐฯ
23 พ.ย. ดัชนี PMI ภาคการผลิตและบริการของ Eurozone
24 พ.ย. S&P Global PMI ภาคการผลิตและบริการของสหรัฐฯ
นักกลยุทธ์ : ธีรเศรษฐ์ พรหมพงษ์, ชาญชัย พันทาธนากิจ