Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ภาวะตลาดหุ้นรายวัน

283

Market Wrap-Up

  • SET วันที่ 20 พ.ย.66 ปิด +3.66 จุด อยู่ที่ 1,419.44 จุด มูลค่าการซื้อขาย 37,420 ลบ.ต่างชาติขาย 1,405 ลบ.สถาบันซื้อ 452 ลบ.พอร์ตโบรกซื้อ 86 ลบ. NVDR มียอดซื้อสุทธิอยู่ที่6 ลบ. มียอดซื้อสุทธิในหุ้น KBANK,CPN,TOP,PTTEP,PTT และมียอดขายสุทธิ BH,CPALL,BGRIM,EA,KTC มูลค่า Short Sales อยู่ที่ระดับ 3,843 ลบ. หุ้นที่มีปริมาณ Short สูงคือ KSL,TCAP,TISCO-R โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Long ใน Index Futures จำนวน 3,894 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Short สุทธิรวม 272,713 สัญญา นักลงทุนต่างชาติซื้อพันธบัตรจำนวน 1,383 ลบ.
  • ตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA +0.58%, S&P500 +0.74%, Nasdaq +1.13% ได้แรงหนุนจากกลุ่มเทคโนโลยีสื่อสาร +1.5% นำโดย Microsoft +2.05% หลังนาย Altman อดีต CEO Open AI เข้ามาทำงานพัฒนา AI ให้กับ Microsoft ขณะที่ Boeing +4.6% รับคำสั่งซื้อเครื่องบินเพิ่มขึ้นในงานโชว์ที่ดูไบ ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 ได้แรงหนุนจากกลุ่มพลังงาน +1.3% และกลุ่มธนาคารอิตาลี หลัง Moody’s ปรับเพิ่มเครดิตตอบรับรัฐบาลใหม่ของจอร์เจีย เมโลนี  

 Market View

  • ตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ได้แรงหนุนจากกลุ่มเทคโนโลยี, บริการสื่อสาร นำโดย Microsoft หลังนาย Alman อดีต CEO OpenAI ที่ถูกคณะกรรมการขับออกจากตำแหน่ง ได้เข้ารับงานกับ Microsoft เพื่อพัฒนาระบบ AI กอปรกับรอรายงานกำไร Q3/66 ของ Nvidia ซึ่งคาด EPS ที่ $3.36 +25% QoQ, +480% YoY จากอุปสงค์ชิป AI ประเด็นเศรษฐกิจค่ำวันนี้ติดตาม Fed Minutes 1 พ.ย. เพื่อจับทิศทางดอกเบี้ยสหรัฐ โดย CME Fed คาดเฟดจะคงดอกเบี้ยที่ 5.25 – 5.50% ในการประชุม ธ.ค./ ม.ค., มี.ค. 67 และคาดมีโอกาส 47.2% จะลดดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุม 1 พ.ค.67 สัปดาห์นี้ตลาดหุ้นสหรัฐจะปิดในวันพฤหัส Thanksgiving และวันศุกร์เปิดทำการครึ่งวัน และติดตามยอดซื้อสินค้าในช่วง Black Friday ส่วนตลาดหุ้นยุโรปวานนี้ได้แรงหนุนจากคาดการณ์ ECB จะลดดอกเบี้ยถึง 1 % ในปีหน้า และจะเริ่มลดดอกเบี้ยใน เม.ย.67 เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจยูโรโซนมีโอกาสเกิด Technical Recession ได้ในช่วง Q4 นี้ หลัง GDP ยูโรโซน Q3/66 หดตัว -0.10% QoQ ฝั่งเอเชียวานนี้ดัชนีนิเกอิ -0.59% ถูกแรงขายจากกลุ่มส่งออกหลังค่าเงินแข็งค่า ส่วนดัชนีเซี่ยงไฮ้ – ฮั่งเส็งปรับขึ้น แม้ว่า ธ.กลางจีนจะคงดอกเบี้ย LPR ที่ระดับเดิม แต่รัฐบาลจีนให้คำมั่นจะออก ม.กระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม โดยล่าสุดมีรายชื่อบริษัทอสังหา ฯ จีน 50 แห่ง คาดได้รับ ม.ช่วยเหลือด้านการเงิน สำหรับดัชนี SET วานนี้ +0.26% ปริมาณการซื้อขาย 3.74 หมื่น ลบ. ต่างชาติขาย 1.4 พัน ลบ. สถาบันซื้อ 452 ลบ. รายย่อยซื้อ 865 ลบ. โดยได้แรงหนุนจากกลุ่มอิเล็ก ฯ +1.63% และอสังหา +1.6% เป็นกลุ่มที่ประโยชน์จากคาด ธ.กลางหลัก ๆ อาจเริ่มลดดอกเบี้ยในปีหน้า ขณะที่กลุ่มพลังงาน, โรงไฟฟ้า, ปิโตรเคมี และ รพ. ได้แรงหนุนจากเม็ดเงินกองทุน TESG เริ่มเข้าซื้อสะสมก่อนจะเริ่มเปิดกองทุนในเดือนหน้า โดยช่วงเช้าดัชนีผันผวนหลังสภาพัฒน์เผย GDP ไทย Q3/66 +1.5% ต่ำกว่าคาดที่ 2 – 2.0% QoQ สาเหตุหลักมาจากส่งออกหดตัวต่อเนื่อง 4 ไตรมาส ส่งผลให้สภาพัฒน์คาด GDP ไทยปีนี้ขยายตัวที่ 2.5% และปีหน้าคาดที่ 3.2% ซึ่งยังไม่รวม ม.ดิจิทัลวอลเล็ต       

Daily Strategy

  • ประเมินดัชนี SET มีโอกาส Sideway Up โดยมีแนวรับ 1,410 แนวต้าน 1,425 – 1,430 ได้แรงหนุนจากคาด ธ.กลางหลัก ๆ ยุติขึ้นดอกเบี้ย แนะนำซื้อ BCP,TOP,IVL,STA ได้ประโยชน์ ม.กระตุ้นเศรษฐกิจจีน/ ค้าปลีก CPALL,CPAXT,CPN,ILM (+ม.กระตุ้นกำลังซื้อ )/เก็งกำไร SINGER,SGC,EPG,NSL มีสัญญาณบวกทางเทคนิค    
  • CPN* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 81.50 บาท) กำไรสุทธิ 3Q66 อยู่ที่ 1 พันล้านบาท เติบโต QoQ, YoY มีปัจจัยหนุนจากธุรกิจศูนย์การค้าแม้เป็นช่วง Low season แต่ Traffic ยังดี ทำให้รายได้เช่าบริการขยับขึ้น ด้านธุรกิจอสังหาฯ รายได้เติบโตจากการโอนโครงการแนวราบและคอนโดฯ ใหม่ ส่วนธุรกิจโรงแรมรายได้เติบโตจากการเปิดโรงแรมใหม่ 2 แห่ง ส่วน GPM ดีขึ้นจาดการคุมค่าใช้จ่ายและประหยัดต่อขนาด ทั้งนี้แนวโน้ม 4Q66 ยังคงเป็นภาพที่สดใส YoY เพราะเข้าช่วงเทศกาลปลายปีและ High Season ท่องเที่ยว (QoQ อาจอ่อนตัวบ้างจากค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นเป็นปกติ) รวมถึงมีการเปิด Central Westville ราชพฤกษ์พื้นที่เช่า 3.2 หมื่นตร.ม.ในเดือน พ.ย. และโรงแรม Centara อยุธยา อิง Consensus ตลาดคาดกำไรปี 66 ตลาดคาดกำไรอยู่ที่ 1.4 หมื่นล้านบาท +32%YoY และปี 67 อยู่ที่ 1.53 หมื่นล้านบาท +9%YoY
  • BCH (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย 22.00 บาท) กำไรสุทธิงวด 3Q66 อยู่ ที่ 441 ลบ. (จากขาดทุน 3Q65 ที่ -403 ลบ., +55%QoQ) อยู่ในเกณฑ์ดีเทียบ PreCovid-19 แม้ยังมีปัจจัยกดดันจาก 1.ผลต่างการรับชำระเงินเคส Covid-19 น้อยกว่าที่ accrual ไว้ -19.3 ลบ. และ2.ขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินกีบ(ร.พ.เกษมราษฎ์ เวียงจันทร์) -53.7 ลบ. ส่วนการดำเนินงานช่วงถัดไป เราคาดว่าจะกลับมาเป็น + ต่อเนื่อง YoY ในช่วง 4Q66 นี้ และไปจนถึงปี67 หน้าด้วย 1.Capacity ที่สูงขึ้นจากร.พ.ใหม่ๆ 2.กลุ่มผู้ป่วยต่างชาติFly-in ปกติที่กลับเข้ามาในไทย การขึ้นค่าประกันสังคมเหมาหัวเป็น 1,808 บาท/ราย ในพ.ค.66 4.ความผันผวนจากค่าเงินกีบ ซึ่งคาดว่า ร.พ.จะสามารถจัดการความเสี่ยงนี้ในปี67ได้ดีขึ้นจากปีนี้ 5.รายการพิเศษผลต่างการรับชำระเงินเคส Covid-19 น้อยกว่าที่ accrual ไว้ที่ทะยอยหมดไป

 

Analysts

Apichai Raomanachai  

Fundamental and Technical Investment Analysis ID No.  002939

Tel  02-829-6999  Ext  2200

Email : apichai.ra@kfsec.co.th

Nopporn Chaykaew     

Fundamental Analysis ID No.  043964

Tel  02-829-6999  Ext  2203

Email : noppoen.ch@kfsec.co.th

Nattawat Poosunthornsri  

Fundamental Analysis ID No.  087077

Tel  02-829-6999  Ext  2204

Email : nattawat.po@kfsec.co.th

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

ดีดกลับ By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ เช้านี้หุ้นไทย รีบาวน์ ดีดกลับ ใกล้ 1300 จุด ขานรับตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP)

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้