สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(15 พฤศจิกายน 2566)------------PIN เผยผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2566 ทำรายได้รวม 779 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 390% และมีกำไรสุทธิ 361 ล้านบาท เติบโตพุ่ง 2,390% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน หลังมียอดขายที่ดินให้แก่ลูกค้าเพิ่มอีก 158 ไร่ ส่งผล 9 เดือนแรกปีนี้ มียอดขายและโอนที่ดินรวม 305 ไร่ ทำกำไรสุทธิ 677 ล้านบาท พุ่งขึ้น 519% รับจังหวะนักลงทุนต่างชาติลงทุนตั้งฐานการผลิตในไทยเพื่อการส่งออก มั่นใจปีนี้ปิดการขายและโอนที่ดินเพิ่มเป็น 600 ไร่ได้ตามแผน

นายพีระ ปัทมวรกุลชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปิ่นทอง อินดัสเตรียล ปาร์ค จำกัด (มหาชน) หรือ PIN เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/2566 (กรกฎาคม-กันยายน) บริษัทฯ ประสบความสำเร็จในการสร้างการเติบโตของผลการดำเนินงานได้อย่างก้าวกระโดด โดยมีรายได้รวม 779 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 390% และมีกำไรสุทธิ 361 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,390% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ซึ่งมีปัจจัยมาจากรายได้จากการโอนขายที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมปิ่นทองในไตรมาสนี้จำนวน 158 ไร่ ให้แก่ลูกค้าที่ต้องการเข้ามาตั้งฐานการผลิตในประเทศไทย ตอกย้ำถึงความสำเร็จในการทำตลาดและสร้างการรับรู้ถึงจุดเด่นโครงการนิคมอุตสาหกรรมไปยังกลุ่มนักลงทุนต่างประเทศได้เป็นอย่างดี

ความสำเร็จดังกล่าว ส่งผลให้ผลการดำเนินงานช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ (มกราคม-กันยายน) บริษัทฯ มีรายได้รวม 1,678 ล้านบาท เติบโต 180% และมีกำไรสุทธิ 677 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 519% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา จากยอดขายการขายที่ดินในช่วงไตรมาส 3 ที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด และส่งผลให้ 9 เดือนปีนี้ มียอดขายที่ดินเพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่าตัวเป็น 305 ไร่ จากเดิม 96 ไร่ โดยเป็นผลการดำเนินงานสูงสุดนับตั้งแต่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ สะท้อนถึงความสามารถในการดำเนินงานที่แข็งแกร่งผลักดันการเติบโตในทุกกลุ่มธุรกิจ โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการย้ายฐานการผลิตจากความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างประเทศจีนกับสหรัฐฯ และการเข้ามาลงทุนในประเทศของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง

ขณะที่กลุ่มธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำและสม่ำเสมอ (Recurring Income) จากรายได้จากการให้บริการเช่าโรงงานและคลังสินค้าในนิคมอุตสาหกรรม และรายได้จากการจัดเก็บค่าบริการพื้นที่ส่วนกลางและระบบสาธารณูปโภคภายในโครงการ มีอัตราการขยายตัวได้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตามกิจกรรมการผลิตของลูกค้ารายเดิมและรายใหม่ที่เข้ามาตั้งฐานการผลิตในนิคมอุตสาหกรรมทำให้ปริมาณการใช้ระบบสาธารณูปโภคเพิ่มขึ้นตามไปด้วย

“การเติบโตอย่างก้าวกระโดดของผลงานในไตรมาส 3/2566 และ 9 เดือนแรกของปีนี้ นับเป็นการตอกย้ำถึงศักยภาพและการดำเนินธุรกิจของ PIN ได้เป็นอย่างดี ทั้งจากยอดขายที่ดินที่เพิ่มขึ้นแล้วทำให้กระแสเงินสดจากยอดขายและยอดโอนที่ดินเพิ่มขึ้น ทำให้ฐานะทางการเงินมีความแข็งแกร่ง จึงไม่ได้รับผลกระทบจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและภาวะดอกเบี้ยขาขึ้นแต่อย่างใด” นายพีระ กล่าว

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร PIN กล่าวว่า บริษัทฯ มั่นใจว่ายอดขายที่ดินได้ 600 ไร่ ตามแผน หลังจากมียอดขายที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) จำนวน 214 ไร่ และยอดจอง (Pre-sale) อีก 97 ไร่ ที่เกิดขึ้นในไตรมาส 3 จะสามารถรับรู้รายได้ทั้งหมดในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ ส่งผลให้รายได้รวมในปีนี้จะเติบโตได้อย่างโดดเด่น ประกอบกับแผนดำเนินงานที่มุ่งเสริมสร้างความแข็งแกร่งในระยะยาวจากการเพิ่มรายได้ประจำนั้น คาดว่าในไตรมาส 4 บริษัทฯ จะสามารถรับรู้รายได้ครบ 1 เมกะวัตต์ตามแผน