• PYLON : ดีขึ้น แต่ก็ยังไม่น่าสนใจ

ผลประกอบการจะเพิ่มขึ้นในปี 2024F
ข้อมูลจากการประชุมครั้งล่าสุดกับ PYLON ชี้ให้เห็นว่าผลประกอบการ 3Q23F ของบริษัทน่าจะดีขึ้นเล็กน้อย QoQ โดยจะเติบโตต่อไปใน 4Q เนื่องจากอัตราการใช้กำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นจะช่วยเพิ่มรายได้และอัตรากำไรขั้นต้น อย่างไรก็ตาม Backlog ปัจจุบันของบริษัทไม่มากนัก แต่คาดว่าจะขยายตัวในปี 2024 เมื่อเราคาดว่าอุตสาหกรรมจะได้รับแรงผลักดัน ดังนั้น เราจึงคงคำแนะนำ "ถือ" เพื่อคาดการณ์ผลประกอบการฟื้นตัวในปี 2024F

Backlog ที่น้อยลงน่าจะเติบโตขึ้นตามอุตสาหกรรมที่ค่อยๆ ฟื้นตัว
Backlog ในปัจจุบันของ PYLON (ไม่รวมรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน) อยู่ที่ 644.8 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นโครงการขนาดเล็กถึงขนาดกลางที่มีอัตรากำไรขั้นต้นไม่มากเนื่องจากการแข่งขันที่รุนแรง อย่างไรก็ตาม เราเชื่อว่าบริษัทจะสามารถดำเนินโครงการใหม่ได้ โดยเฉพาะในปี 2024 เมื่อเราคาดว่าอุตสาหกรรมจะดีขึ้นเนื่องจากแนวโน้มเศรษฐกิจได้รับทิศทางที่ชัดเจนยิ่งขึ้นจากรัฐบาลใหม่ การที่รัฐบาลเข้ามาทำงานควรจุดประกายให้เกิดการฟื้นตัวของการลงทุนทั้งภาครัฐและเอกชน

คาดว่า 3Q จะดีขึ้นจาก 2Q ที่ย่ำแย่ และมีการเติบโตต่อไปใน 4Q
ผลประกอบการใน 2Q ของ PYLON อ่อนแอเนื่องจากความไม่ตรงกันระหว่างความสำเร็จของโครงการ (โครงการ Northpole และ AIA) และการเริ่มโครงการใหม่ เนื่องจากโครงการใหม่เพิ่งเริ่มต้น เราคาดว่ารายได้ใน 3Q จะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย QoQ และเพิ่มขึ้นอีกใน 4Q เนื่องจากการก่อสร้างเพิ่มขึ้น อัตรากำไรขั้นต้นควรเพิ่มขึ้นด้วย (เนื่องจากอัตราการใช้กำลังการผลิตที่สูงขึ้น) แต่ยังคงไม่น่าตื่นเต้น เนื่องจากโครงการส่วนใหญ่มีอัตรากำไรขั้นต้นไม่มากเนื่องจากการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น โดยสรุปผลประกอบการน่าจะเพิ่มขึ้น QoQ ใน 3Q และขยายตัวเพิ่มเติมใน 4Q อย่างไรก็ตาม การฟื้นตัวของผลประกอบการไม่น่าจะเกิดขึ้นจนกว่าจะถึงปี 2024

คงคำแนะนำ “ถือ” ด้วยมูลค่าที่เหมาะสมที่ 3.08 บาท
ประมาณการของเรายังคงเดิม ดังนั้นมูลค่าที่เหมาะสมของเราเมื่อพิจารณาจาก PER ปี 2023F ที่ 20 เท่า (มาจาก -0.5 stdev ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต 5 ปี) จึงยังคงอยู่ที่ 3.08 บาท เมื่อพิจารณา upside เพียง 2% เราจึงคงคำแนะนำ “ถือ”ไว้ ซึ่งความเสี่ยงที่สำคัญคือ การขาดแคลนแรงงาน ความล่าช้าในการก่อสร้าง โครงการใหม่น้อยกว่าที่คาด และต้นทุนวัสดุ และค่าแรงที่เพิ่มขึ้น