คงมุมมองเชิงบวก แนะนำ “ซื้อ”
จากการเข้าฟัง SET Opportunity Day ของ SABINA เรายังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อครึ่งปีหลังของบริษัท จาก 1) เราคาดกำลังซื้อจะปรับตัวดีขึ้นในครึ่งปีหลัง จากช่วง high season ใน 4Q23F และคาดจะมีเม็ดเงินจากมาตรการรัฐเข้ามาช่วยกระตุ้นในปีหน้า 2) ผลจากสินค้า OEM เลื่อนมายังใน 3Q-4Q คาดจะรับรู้รายได้มากยิ่งขึ้น 3) โอกาสการเติบโตในฟิลิปปินส์ ด้วยฐานประชากรและแผนการขยายสาขาเพิ่มขึ้น และ 4) บริษัทเน้นอัตรากำไรสุทธิ คาดจะเพิ่มขึ้นจากแนวโน้มต้นทุนและค่าใช้จ่ายสาธารณูปโภค ค่าไฟ ที่ปรับลดลง และแผนการบริหารตามช่องทางจำหน่าย ดังนั้น เรายังคงแนะนำ “ซื้อ” ด้วยมูลค่าเหมาะสม 30 บาท

บริษัทคงเป้ารายได้เติบโต 10-15%
บริษัทยังคงเป้าหมายการเติบโตรายได้ และคาดครึ่งปีหลังมีแนวโน้มที่ดีขึ้น จาก 1) บริษัทตั้งเป้าหมายที่ท้าท้ายสำหรับ 3Q23F ที่จะสร้างกำไรสุทธิสูงกว่า 1Q23 และ 3Q19 (117 ล้านบาท) 2) บริษัทจะใช้ Solar roof เริ่มใน 3Q23F จะเข้ามาช่วยลดค่าใช้จ่าย 3) Sabina Shop (สัดส่วน 64%) คาดจำนวนสาขาอยู่ที่ 520-525 สาขา และไม่มีแผนปิดเพิ่ม 4) OEM (สัดส่วน 9%) ลูกค้ามีการเลื่อนรับมอบใน 2Q23 มาเป็น 3Q-4Q23 แต่มีสัญญาณที่ดีขึ้นเริ่มมีการสั่งซื้อในปลาย 3Q23 และยอดถึงเดือน พ.ย. แล้ว 5) ต่างประเทศ : ปัจจุบันมี 93 สาขาคาดจะเพิ่มเป็น 100 สาขาในสิ้นปีนี้ สำหรับฟิลิปปินส์ ครึ่งปีแรกรายได้ 23 ล้านบาท(+42% YoY) แต่ด้วยฐานที่ยังต่ำ บริษัทจะเพิ่มการเข้าถึงมากขึ้น โดยการเพิ่มสาขามากขึ้นจาก 38 สาขาในปัจจุบัน มองมีศักยภาพในการเติบโตได้สูงจากฐานประชากรที่มากและการสร้างพื้นฐานการทำตลาด 6) บริษัทคาดความสามารถในการทำกำไรเพิ่มขึ้น โดย 1H23 อัตรากำไรสุทธิที่ 13.3%
คาดอ่อนตัวใน 3Q23F จากปัจจัยฤดูกาล

ด้วยรายได้ OEM ที่ชะลอตัวลงใน 2Q23 จากลูกค้าชะลอการรับสินค้า เราคาดจะมีการเลื่อนการส่งมอบมาใน 3Q23F ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีออเดอร์ล่วงหน้าไปถึง 4Q23F แล้ว ด้วยปกติ 3Q23F จะอ่อนตัวลงตามปัจจัยด้านฤดูกาล เราคาดผลประกอบการใน 3Q23F จะอ่อนตัวลงเล็กน้อย QoQ แต่ยังเติบโต YoY และคาดจะเติบโตมากขึ้น QoQ และ YoY ใน 4Q23F จากเข้าสู่ฤดูกาลจับจ่ายสินค้าทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ดังนั้น เรายังคงประมาณการเดิมของเรา

มูลค่าเหมาะสม 30 บาท ยังคงแนะนำ “ซื้อ”
เราประเมินมูลค่าที่เหมาะสมอยู่ที่ 30 บาท อิงจาก 20 เท่าปี 2024F ราคาหุ้น SABINA ปรับตัวลดลงในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ปัจจุบันซื้อขายอยู่ที่ PER 17 เท่าปี 2023F ดังนั้น เรายังคงแนะนำ “ซื้อ” จากคาดยังรักษาระดับการเติบโตที่มากกว่า 10% ต่อปีผนวกกับหุ้นที่มีการปันผลสูงต่อเนื่องด้วย Payout ratio 100% และแนวโน้ม ROE ที่ปรับตัวสูงอย่างต่อเนื่องมาที่ 25-28% ปัจจัยเสี่ยงมาจากการฟื้นตัวของรายได้ อัตรากำไรขั้นต้นและการควบคุมค่าใช้จ่ายที่แย่กว่าคาด