• SPA : การฟื้นตัวพิสูจน์ได้เร็วกว่าที่คาดไว้
กำไรหลักสำหรับ 2H อยู่ที่ 58 ล้านบาท ; ซึ่งสูงกว่าประมาณการของเราและที่คาดไว้
SPA รายงานกำไรสุทธิ 60.1 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการของเรา และ Bloomberg Consensus 34% และ 23% ตามลำดับ กำไรหลักอยู่ที่ 58 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 36% QoQ โดยสาเหตุหลักมาจาก i) ดอกเบี้ยจ่ายต่ำกว่าคาด และ ii) ยอดขายและอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ดีกว่าคาดเล็กน้อย ทั้งนี้ เราปรับประมาณการผลประกอบการขึ้น 13%/23% สำหรับปี 2023/24F เพื่อสะท้อนการเพิ่มขึ้นดังกล่าว เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” โดยมีมูลค่าที่เหมาะสมที่ปรับใหม่เป็น 14.90 บาท

นับเป็นช่วง Low season ที่มีกำไรสูง
รายได้สูงกว่าประมาณการของเรา 4% ที่ 356 ล้านบาท (+169% YoY, +11% QoQ) ใกล้เคียงกับระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ของ SPA ที่ 368 บาทใน 3Q19 ซึ่งแรงหนุนมาจากนักท่องเที่ยวที่แข็งแกร่ง โดย SSG อยู่ที่ 12% QoQ และ 142% YoY โดยมีพนักงานอยู่ที่ 90% ของระดับก่อนโควิดจากพนักงานนวด 1,200 คน ต่อมา GPM ขยายตัวเป็น 29.3% (เทียบกับ 28.8% ที่ประมาณการไว้) จาก 27.6% ใน1Q23 จากการประหยัดต่อขนาดและการเจรจาเช่าที่ดีขึ้น ในขณะเดียวกัน ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร (SG&A) ต่อการขาย สะท้อนประสิทธิภาพที่ดีขึ้นที่ 10.4% ลดลง 50bps QoQ ยิ่งไปกว่านั้น เนื่องจาก SPA ได้ชำระคืนเงินกู้ไปแล้วกว่า 357 ล้านบาท YTD ดอกเบี้ยจ่ายจึงลดลงเหลือ 12 ล้านบาทใน 2Q (เทียบกับ 15 ล้านบาทใน 1Q23) ทำให้อัตรากำไรหลักอยู่ที่ 16.2% ใกล้เคียงกับระดับปกติที่ 18-20% ก่อนหน้านี้

แนวโน้ม 2H23F ยังคงสดใส
เรายังคงมีมุมมองที่ดีต่อแนวโน้มผลประกอบการของ SPA เนื่องจากการฟื้นตัวน่าจะดำเนินต่อไปใน 2H23F โดยเฉพาะใน 4Q ซึ่งเป็นช่วง high season ของการท่องเที่ยว SPA มีแผนที่จะดึงดูดอุปสงค์โดยการเพิ่มสาขาอีก 4 แห่ง : 1) สีลมเอดจ์, 2) เรดิสัน บลู, 3) สุรวงศ์, และ 4) ลานแมริออท ขณะที่เรามั่นใจในสภาพคล่องมากขึ้นเนื่องจากอัตราส่วน D/E ปัจจุบัน (ไม่รวม TFRS16) ลดลงเหลือ 0.97 เท่าจาก 1.42 เท่าใน 4Q22

เรากำหนดมูลค่าที่เหมาะสมของเราบน DCF
เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” โดยมีมูลค่าเหมาะสมที่ปรับใหม่ที่ 14.90 บาท ตามวิธี DCF (WACC ที่ 7.4% และมีอัตราการเติบโตของธุรกิจที่ 2.5%)