Today’s NEWS FEED

News Feed

HotNews: TOP ปี61โปรยเงินลงทุน 245 ล้านเหรียญฯ

997

 
 
 
 
 


HotNews:  TOP  ปี61โปรยเงินลงทุน
   245 ล้านเหรียญฯ

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์( 16 กุมภาพันธ์   2561)--------TOP  ปี61โปรยเงินลงทุน   245 ล้านเหรียญฯมองค่าการกลั่นQ1/61 ทรงตัวจากQ4/60  ,งบปี 60 กำไรโต 17%  แจกปันผล3.75 บาท/หุ้น   5  เทพหุ้น ส่อง TOP   หลังประกาศงบปี60  บล.เคจีไอ -บัวหลวง บอกTake Profit   ,กสิกรไทย  แนะถือ  , ฟิลลิป ให้ซื้อเก็งกำไรหลังราคาหุ้นอ่อนตัว  ส่วนหยวนต้าขอทบทวนประมาณการ
 
   บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP    เปิดเผยว่าสำหรับแนวโน้มอุตสาหกรรมในไตรมาส 1/60 ค่าการกลั่นมีแนวโน้มทรงตัวจากไตรมาส 4/60 จากส่วนต่างราคาระหว่างน้ำมันดีเซลและน้ำมันอากาศยานกับน้ำมันดิบที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสภาพอากาศที่หนาวกว่าปกติในช่วงฤดูหนาวโดยเฉพาะในสหรัฐฯ และเอเชียเหนือ ประกอบกับมีความต้องการใช้น้ำมันอากาศยานเพื่อเดินทางในช่วงตรุษจีน อย่างไรก็ตาม ส่วนต่างราคาระหว่างน้ำมันเบนซินกับน้ำมันดิบดูไบคาดว่าจะปรับตัวลดลง เนื่องจากอากาศที่หนาวจัดจะทำให้การขับขี่สัญจรลดน้อยลง  ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2561 คาดการณ์ค่าการกลั่นจะได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์น้ำมันสำเร็จรูปที่มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น โดยเฉพาะน้ำมันดีเซลที่จะเติบโตตามการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกและสภาพอากาศที่หนาวกว่าปกติในช่วงต้นปี ในขณะที่ความต้องการใช้น้ำมันเบนซินมีแนวโน้มเติบโตจากการขยายตัวของยอดขายรถในเอเชีย แต่ราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นอาจส่งผลให้ความต้องการใช้ไม่เติบโตมากนัก 
ทั้งนี้ค่าการกลั่นยังได้รับแรงหนุนจากอุปทานน้ำมันสำเร็จรูปที่มีแนวโน้มตึงตัวในช่วงการปิดซ่อมบำรุงของโรงกลั่นอย่างไรก็ตาม ยังต้องจับตามองการส่งออกน้ำมันสำเร็จรูปของจีนที่มีแนวโน้มสูงขึ้นหลังมีโรงกลั่นแห่งใหม่เปิดดำเนินการ 2 แห่งในช่วงครึ่งหลังของปี 2560 รวมทั้งรัฐบาลจีนประกาศเพิ่มโควต้าการส่งออก 
 สำหรับแผนการลงทุนในอนาคตของกลุ่มบริษัทในปี 61-62 เตรียมงบลงทุนรวม 315 ล้านเหรียญสหรัฐ แบ่งเป็นปี 61 ใช้งบ 245 ล้านเหรียญฯ ส่วนใหญ่ใช้ในโครงการย้ายอาคารสำนักงานและสร้างถังน้ำมันดิบใหม่ โครงการขยายท่าเทียบเรือ 7 และปรับปรุงท่าเทียบเรือ และโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานบริเวณ Site Office รองรับโครงการในอนาคต  
ทั้งนี้  TOP  รายงานผลประกอบการปี 2560 มีกำไรสุทธิ 24,856 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 21,222 ล้านบาท   ขณะที่มีรายได้จากการขาย 337,388 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 62,649 ล้านบาท ซึ่งมีปัจจัยจากราคาขายผลิตภัณฑ์เฉลี่ยที่เพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมันดิบและปริมาณวัตถุดิบที่ป้อนเข้าสู่กระบวนการผลิตของกลุ่มเพิ่มขึ้น โดยกลุ่มไทยออยล์มีกำไรขั้นต้นจากการผลิตของกลุ่มไม่รวมผลกระทบจากสต๊อกน้ำมัน 9.1 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.6 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล มี EBITDA 36,925 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4,250 ล้านบาท และมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 3,182 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,736 ล้านบาท จากค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น 3.15 บาทต่อเหรียญสหรัฐฯ จาก ณ สิ้นปี2559
นอกจากนี้คณะกรรมการบริษัทยังอนุมัติการจ่ายเงินปันผลประจำปี 60 ในอัตราหุ้นละ 5.25 บาท ซึ่งมีการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลงวดครึ่งปีแรกแล้ว ในอัตรา 1.50 บาท คงเหลือการจ่ายสำหรับผลดำเนินงานงวดครึ่งปีหลังอีกหุ้นละ 3.75 บาท โดยกำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 27 ก.พ. 2561 และกำหนดจ่าย วันที่ 27 เม.ย.2561 

บล.บัวหลวง  ออกบทวิเคราะห์หลักทรัพย์ เปิดเผยว่า   บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP     รายงานกำไรสุทธิ 4Q60 เท่ากับ 6,927 ล้านบาท (+19.4% YoY, -8.9%QoQ) ใกล้เคียงคาดที่ตลาดเฉลี่ย 6,658 ล้านบาท (เราคาด 7,078 ล้านบาท) หากไม่รวมรายการพิเศษ และผลสุทธิจากสต๊อก (4,206 ล้านบาท) กำไรจากการดำเนินงานเท่ากับ 3,623 ล้านบาท (-3.7% YoY, -39.3% QoQ) ต่ำกว่าคาดการณ์ของเราที่ 4,184 ล้านบาท และตลาดที่ 5,078 ล้านบาท เนื่องจาก Market GIM ที่ต้ำกว่าคาด กำไรจากการดำเนินงานอ่อนตัวตาม Market GIM ที่ลดลง 18.6% QoQ เป็น 8.3 เหรียญต่อบาร์เรล และการใช้กำลังการผลิตโรงกลั่นที่ลดลงจาก 114% ใน 3Q60 เป็น 112% ใน 4Q60 ธูรกิจโรงกลั่นมี Market GRM เท่ากับ 6.0 เหรียญต่อบาร์เรล ลดลง 26.3% QoQ  เมื่อรวมกำไรสต๊อก 3.6 เหรียญต่อบาร์เรล Accounting GIM เท่ากับ 11.8 เหรียญต่อบาร์เรล (+2.6% YoY, -5.6% QoQ) รายการพิเศษอื่นนอกจากผลจากสต๊อกที่สำคัญได้แก่ กำไร FX 677 ล้านบาท รายจ่ายด้อยค่าธุรกิจเรื่อขนส่ง (TOP Marine) 577 ล้านบาท และการกลับรายการปรับราคาผลิตภัณฑ์เป็นต้นทุน (Adjusted product stock to cost) 865 ล้านบาท 
  แนวโน้มผลประกอบการปกติ (ไม่รวมสต๊อก) 1Q61 คาดอ่อนตัวลง QoQ ตามค่าการกลั่นอ้างอิงสิงคโปร์ที่ปรับลดลง 10% QoQ รวมถึง Murban Crude Premium ที่เพิ่มขึ้นเป็น 3.6 เหรียญต่อบาร์เรลในเดือน ม.ค. 2561 จากเฉลี่ย 2.9 เหรียญต่อบาร์เรลใน 4Q60 แต่มีโอกาสได้ชดเชยบางส่วนจากส่วนต่างอะโรเมติกส์ที่เพิ่มขึ้น 13-15% QoQ และส่วนต่างน้ำมันหล่อลื่นพื้นฐานเพิ่มขึ้น 5.4% QoQ ขณะที่กำไรสต๊อกจำนวนมากคาดไม่เกิดซ้ำ ผลประกอบการสุทธิจึงมีโอกาสอ่อนตัวลงแรง QoQ 
   ราคาหุ้นจะอ่อนตัวลง 8% จากจุดสูงสุด จนปัจจุบันมี Upside 3% แต่จากแนวโน้มผลประกอบการ 1Q61 ที่ยังไม่โดดเด่น จากแรงกดดันนทุนน้ำมันดิบที่เพิ่มสูงขึ้น เรายังคงแนะนำ Take Profit ราคาเป้าหมาย 103 บาท อ้างอิง PBV 1.6 เท่า (ค่าเฉลี่ย+1.0SD) เราชอบกลุ่มน้ำมันต้นน้ำ ได้แก่ PTT ที่ได้ประโยชน์จากการเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันมากกว่า ขณะที่ในกลุ่มโรงกลั่น เราชอบ IRPC ที่มีการเพิ่มขึ้นของการใช้กำลังการผลิตและโครงการปรับปรุงคุณภาพช่วยเพิ่มมาร์จิ้น TOP ประกาศจ่ายปันผล 2H60 ที่ 3.75 บาทต่อหุ้น คิดเป็นผลตอบแทน 3.75% XD วันที่ 27 ก.พ. 2561
ความเสี่ยง ราคาน้ำมันและราคาผลิตภัณฑ์ที่ผันผวนการหยุดเดินเครื่องนอกแผน

      บล.หยวนต้า (ประเทศไทย)  ระบุในบทวิเคราะห์หลักทรัพย์ว่า   TOP  ประกาศกำไรสุทธิ 4Q60 ที่ 6.9 พันล้านบาท หดตัว -9% QoQ แต่ +19% YoY ใกล้เคียงที่ Bloomberg consensus คาด ผลประกอบการ 4Q60 ถือว่าไม่โดดเด่นนัก โดย margin ของ 3 ธุรกิจหลัก (GIM) เท่ากับ US$8.3/bbl (-19% QoQ, +4% YoY) เพราะถูกกดดันจากธุรกิจโรงกลั่นตามการเพิ่มของปริมาณอุปทานน้ำมันสำเร็จรูปในตลาดโดยเฉพาะการส่งออกน้ำมันสำเร็จรูปจากจีน รวมถึงการกลับมาผลิตของโรงกลั่นในสหรัฐ และ ยุโรป ทำให้ market GRM ปรับตัวลง -26% QoQ และ ทรงตัว YoY อย่างไรก็ตาม มีกำไรพิเศษจากสต๊อกน้ำมัน 4.2 พันล้านบาท เข้ามาช่วย เพิ่มขึ้นจากช่วง 3Q60 และ 4Q59 ที่กำไร 1.4 พันล้านบาท และ 3 พันล้านบาท ทำให้ Accounting GIM ไม่ลดลงมาก (-6% QoQ, +3% YoY) ทั้งปี 2560 กำไรสุทธิเท่ากับ 2.5 หมื่นล้านบาท (+17% YoY) สูงสุดตั้งแต่เข้าตลาด ประกาศจ่ายเงินปันผล 2H60 ที่ 3.75 บาท คิดเป็น Yield 3.8% XD วันที่ 27 ก.พ. จ่ายเงินวันที่ 27 เม.ย. 2561
What's next? ปัจจุบันเราอยู่ระหว่างทบทวนประมาณการ และ ราคาเหมาะสม เบื้องต้นคาดแนวโน้มกำไรสุทธิปี 2561 จะหดตัว YoY จาก 1) margin ของธุรกิจโรงกลั่น และ อะโรมาติกส์ 2) crude premium ที่ปรับตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และ 3) กำไรสต๊อกลดลง
   What to do? อ้างอิงราคาเหมาะสม Bloomberg consensus ที่ 100 บาท แม้ upside ปัจจุบันยังจำกัด อย่างไรก็ตาม หุ้นมีปัจจัยหนุนระยะสั้นจากค่าการกลั่นสิงคโปร์ที่สามารถยืนเหนือ US$7/bbl ได้อีกครั้งตั้งแต่ต้นเดือนก.พ. ประกอบกับมีแรงพยุงจากเงินปันผลงวด 2H60 ที่น่าสนใจ

บล.เคจีไอ(ประเทศไทย)  ออกบทวิเคราะห์เปิดเผยว่า   กำไรสุทธิของ TOP ใน 4Q60 อยู่ที่ 6.9 พันล้านบาท     (+19% YoY, -9% QoQ) สูงกว่า Bloomberg consensus 4% และสูงกว่าประมาณการของเรา 6% โดยมีสาเหตุสำคัญมาจากกำไรจากสต็อก 3.3 พันล้านบาท (เราคาดไว้แค่ 1.5 พันล้านบาท) ในขณะที่กำไรที่เพิ่มขึ้น YoY มีสาเหตุสำคัญมาจากกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 677 ล้านบาท จากที่มีผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน 870 ล้านบาทใน 4Q59 แต่อย่างไรก็ตาม กำไรที่ลดลง QoQ เนื่องจากค่าใช้จ่าย SG&A สูงขึ้นจากทั้งการบันทึกผลขาดทุนจากการด้อยค่าของเรือบรรทุกน้ำมันหนึ่งลำ 547 ล้านบาทและการจ่ายโบนัสพนักงาน ซึ่งถึงแม้ว่ากำไรสุทธิ 4Q60 จะดีกว่าทั้ง Blomberg consensus และประมาณการของเรา แต่เรายังคงคำแนะนำถือ TOP และให้ราคาเป้าหมายปี 2561 ที่ 95.00 บาท อิงจาก EV/EBTIDA ที่ 6.5x  เราประเมินว่ากำไรสุทธิของ TOP จะลดลงใน 1H61 เนื่องจาก i) ต้นทุน Murban crude premium มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ii) น่าจะมีขาดทุนจากสต็อกใน 1Q61 และ iii) spread ของผลิตภัณฑ์จากการกลั่นมักจะลดลงในไตรมาสที่สองจากอุปสงค์ที่ต่ำตามฤดูกาล ซึ่งจากปัจจัยลบระยะสั้นดังกล่าว เราจึงแนะนำให้ขาย TOP เพื่อทำกำไรไปก่อน
ถึงแม้ว่ากำไรสุทธิ 4Q60 จะดีกว่าทั้ง Blomberg consensus และประมาณการของเรา แต่เรายังคงคำแนะนำถือ TOP และให้ราคาเป้าหมายปี 2561 ที่ 95.00 บาท อิงจาก EV/EBTIDA ที่ 6.5x เราประเมินว่ากำไรสุทธิของ TOP จะลดลงใน 1H61 เนื่องจาก i) ต้นทุน Murban crude premium เพิ่มขึ้นเป็น US$3.6/bbl ในเดือนมกราคม (จาก US$2.9/bbl ใน 4Q60) ii) บริษัทน่าจะมีกำไรจากสต็อกใน 1Q61 น้อยลงมากหลังจากที่ราคาน้ำมันดิบปรับลดลงมาในขณะนี้ และ iii) spread ของผลิตภัณฑ์จากการกลั่นมักจะลดลงในไตรมาสที่สองจากอุปสงค์ที่ต่ำตามฤดูกาล ซึ่งจากปัจจัยลบระยะสั้นดังกล่าว เราจึงแนะนำให้ขาย TOP เพื่อทำกำไรไปก่อน
บล.กสิกรไทย  แนะนำ "ถือ"  TOP    ราคาเป้าหมาย 100.5 บาท/หุ้น   TOP รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 4/2560 ที่ 6.9 พันลบ. (EPS ที่ 3.40 บาท) เพิ่มขึ้น 19% YoY แต่ลดลง 9% QoQ สอดคล้องกับที่เราคาดการณ์ไว้ อย่างไรก็ดี กำไรปกติของ TOP ในไตรมาส 4/2560 อยู่ที่ 2.8 พันลบ. ต่ำกว่าที่เราคาดการณ์ไว้ 600 ลบ. หรือ 18% เนื่องจากมีการรับรู้ค่าช้จ่ายด้อยค่าสินทรัพย์ของธุรกิจเรือน้ำมันจำนวน 540 ลบ. ที่ไม่ได้คาดการณ์ไว้ ดังนั้น กำไรสุทธิรวมในปี 2560 จึงอยู่ที่ 2.49 หมื่นลบ. เพิ่มขึ้น 17% YoY และคิดเป็น 100% ของประมาณการรวมทั้งปีของเรา ทั้งนี้ เราคาดว่าบรรยากาศการลงทุนของหุ้น TOP จะถุกกดดันในระยะสั้น จากกำไรปกติที่ปรับลดลงในไตรมาส 4/2560 ดังที่ได้กล่าวมาข้างต้น ประกอบกับ GRM ก็ถูกกดดันมากขึ้นจาก crude premium ที่สูงขึ้น ขณะที่ราคาหุ้น TOP ในขณะนี้ซื้อขายด้วย PER ปี 2561 ที่ 12.0 เท่า ซึ่งสูงที่สุดเป็นอันดับ 2 ในหุ้นกลุ่มโรงกลั่นปิโตรเคมีทั้ง 5 ตัวที่เราวิเคราะห์อยู่ และด้วย upside ที่จำกัดต่อราคาเป้าหมายของเรา ดังนั้น เรายังคงคำแนะนำ "ถือ" ด้วยราคาเป้าหมายปี 2561 ที่ 100.5 บาท  

      บล.ฟิลลิป   ออกบทวิเคราะห์เปิดเผยว่า    แนะนำ "ซื้อเก็งกำไร"  TOP  ราคาเป้าหมาย 105 บาท/หุ้น กำไร 4Q60ลดลง 8.9%q-q:ประกาศกำไร 4Q60 ออกมาใกล้เคียงกับที่ตลาดคาด ที่ 6,927 ลบ. แบ่งเป็นi) ธุรกิจโรงกลั่นอ่อนตัวลงจากค่าการกลั่นที่ลดลง 2.1 เหรียญ มาที่ 6.0 เหรียญต่อบาร์เรล ตามสเปรดน้ำมันสำเร็จรูปที่ปรับลดลงตามอุปทานที่เพิ่มขึ้นจากสหรัฐและยุโรป ชดเชยกับกำไรจากสต๊อคน้ำมัน 3.3 พันล้านบาท จากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวสูงขึ้น ii) ธุรกิจอะโรเมติกส์ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดย PTFเพิ่มขึ้นมาที่ 93 เหรียญต่อตัน (เทียบ 84 เหรียญต่อตันใน 3Q60) ตามสเปรดสารเบนซีนและพาราไซลีนที่เพิ่มขึ้นจากอุปทานที่ตึงตัวในสหรัฐiii) ธุรกิจน้ำมันหล่อลื่นอ่อนตัวลง จากอุปสงค์ภาคการเกษตรที่ลดลงiv) กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน  677 ล้านบาท จากค่าเงินบาทที่แข็งค่า  โดยบริษัทประกาศจ่ายปันผล 2H60ที่ 3.75 บาท (ขึ้น XD27 ก.พ. 61 และจ่าย  27  เม.ย. 61) 
แนะนำ"ซื้อเก็งกำไร"ราคาพื้นฐาน 105 บาท :ด้านแนวโน้ม 1Q61คาดอ่อนตัวเทียบ q-qแม้การใช้กำลังการผลิตของโรงกลั่นยังอยู่ในระดับสูง และสเปรดอะโรเมติกส์ที่ยังทรงตัว แต่ค่าการกลั่นมีแนวโน้มลดลง โดยค่าการกลั่นSingaporeGRM 1Q61TDลดลงมาที่ 6.6 เหรียญต่อบาร์เรล (จาก 4Q60 ที่ 7.2 เหรียญต่อบาร์เรล) โดยหลักจากMurbancrudepremiumซึ่งเป็นต้นทุนในการกลั่นปรับตัวเพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมันดิบ ขณะที่โครงการ CFP คาดมีการตัดสินใจขั้นสุดท้าย(FID)ในช่วง 1H61และจะเริ่มดำเนินการได้  ปี 65  ด้านราคาหุ้นที่อ่อนตัวลง แนะนำ "ซื้อเก็งกำไร" ประเมินราคาพื้นฐานปี 61 ที่ 105 บาท   (ที่มา: SET)                                                                      


---จบ--- 
 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

บทความล่าสุด

พระโค By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ วันนี้ วันพืชมงคล พระโค กินน้ำ หญ้าและเหล้า ส่วนตลาดหุ้นไทย วันนี้ ยังคงซึม ท่ามกลาง ....

IND เยี่ยมชมโครงการก่อสร้างทางรถไฟ เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ

IND เยี่ยมชมโครงการก่อสร้างทางรถไฟ เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ

มัลติมีเดีย

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้