Today’s NEWS FEED

News Feed

EPG ปีบัญชี 65/66 ยอดขาย 12,084 ล้านบาท เติบโต 3% มีกำไรสุทธิที่ 1,082 ล้านบาท เตรียมจ่ายเงินปันผล 14 สตางค์ต่อหุ้น เสนอที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้น 20 ก.ค. นี้

572

 

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(29 พฤษภาคม 2566)-----รศ.ดร.เฉลียว วิทูรปกรณ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อีสเทิร์นโพลีเมอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ EPG ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์โพลีเมอร์และพลาสติกแปรรูปชั้นนำของโลก เปิดเผยว่าในปีบัญชี 65/66 (1 เม.ย.65 - 31 มี.ค.66) บริษัทมีรายได้จากการขายทั้งสิ้น 12,084 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีรายได้จากการขายอยู่ที่ 11,740 ล้านบาท จำนวน 344 ล้านบาท หรือ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 3% มีอัตรากำไรขั้นต้นที่ 33% และมีกำไรสุทธิ 1,082 ล้านบาท ปรับตัวลดลงจากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1,602 ล้านบาท จำนวน 520 ล้านบาท หรือ ปรับตัวลดลง 32.5% ทั้งนี้ เป็นผลมาจากการดำเนินงานของ 3 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่

 

            ธุรกิจฉนวนกันความร้อน/เย็น ภายใต้แบรนด์ Aeroflex มีรายได้จากการขาย 3,563 ล้านบาท หรือ เพิ่มขึ้น 14% จากปีก่อน มาจากยอดขายในสหรัฐอเมริกายังคงเติบโตต่อเนื่องจากความต้องการสินค้าฉนวนยางที่มีคุณภาพสูง อีกทั้ง บริษัทสามารถปรับขึ้นราคาตามสภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงไปได้อย่างทันท่วงที รวมถึงการขยายตลาดไปสู่กลุ่มอุตสาหกรรม Ultra Low Temperature Insulation และ ระบบ Air Ducting system ซึ่งได้รับการตอบรับจากกลุ่มลูกค้าเป็นอย่างดี ส่วนยอดขายในเอเชีย เช่น ญี่ปุ่น ปรับตัวดีขึ้น ขณะที่ยอดขายในประเทศปรับตัวดีขึ้นตามการลงทุนภาคเอกชน อย่างไรก็ตาม บริษัทได้รับผลกระทบจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศที่ปรับตัวอย่างรวดเร็วในช่วงครึ่งปีบัญชีหลัง

 

            ธุรกิจชิ้นส่วนอุปกรณ์และตกแต่งยานยนต์ ภายใต้แบรนด์ Aeroklas และ TJM มีรายได้จากการขาย 5,936 ล้านบาท หรือ เพิ่มขึ้น 2% จากปีก่อน ด้วยสถานการณ์ชิปขาดแคลน (Semiconductor Shortage) ทั่วโลกเริ่มคลี่คลายอุตสาหกรรมยานยนต์สามารถผลิตได้อย่างต่อเนื่อง Aeroklas มุ่งเน้นผลิตชิ้นส่วนอุปกรณ์และตกแต่งยานยนต์ที่มีน้ำหนักเบาซึ่งเป็นที่ต้องการในอุตสาหกรรมยานยนต์ เนื่องจากมีส่วนช่วยในการประหยัดพลังงาน ประกอบกับยานยนต์รุ่นใหม่ได้ทยอยออกสู่ตลาด ส่งผลให้ Aeroklas ได้รับคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม บริษัทได้รับผลกระทบจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศที่ปรับตัวอย่างรวดเร็วในช่วงครึ่งปีบัญชีหลัง และสภาวะเศรษฐกิจในยุโรปชะลอตัวลง

       

          สำหรับธุรกิจในออสเตรเลียยอดขายชิ้นส่วนอุปกรณ์ตกแต่งยานยนต์ ปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากบริษัทรับรู้รายได้จากการซื้อกิจการ 4 Way Suspension Products Pty. Ltd ออสเตรเลีย ทั้งนี้ ธุรกิจในออสเตรเลียต้องเผชิญกับผลกระทบจากน้ำท่วมหนักในออสเตรเลีย ภาวะเงินเฟ้อ และความล่าช้าในการส่งมอบยานยนต์เข้าสู่ตลาดในออสเตรเลีย 

 

            ธุรกิจบรรจุภัณฑ์พลาสติก ภายใต้แบรนด์ EPP มีรายได้จากการขาย 2,585 ล้านบาท หรือ ลดลง 7% จากปีก่อน เนื่องจากยอดสั่งซื้อบรรจุภัณฑ์พลาสติกประเภทกล่องใส่อาหารชะลอตัวลง แต่บรรจุภัณฑ์ประเภทถ้วยน้ำดื่มเริ่มปรับตัวดีขึ้น บริษัทยังเน้นการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายโดยเฉพาะกลุ่มบรรจุภัณฑ์ประเภทถ้วยน้ำดื่ม บริษัทอยู่ระหว่างดำเนินการปรับกลยุทธ์และกระบวนการผลิต พร้อมพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้มากขึ้นในอนาคต

 

            บริษัทมีต้นทุนขายสินค้า เพิ่มขึ้น 1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นอัตราที่ต่ำกว่าการเพิ่มขึ้นของยอดขาย บริษัทได้จัดหาวัตถุดิบจากแหล่งผลิตในหลายประเทศเพื่อให้ต้นทุนเฉลี่ยจากราคาวัตถุดิบมีราคาเหมาะสม สำหรับค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเพิ่มขึ้น 23% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน มาจากค่าขนส่งและค่าเช่าคลังสินค้าของธุรกิจฉนวนกันความร้อน/เย็น ในสหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้น การปรับอัตราการจ้างพนักงานตามตลาดแรงงานในสหรัฐอเมริกา และ ออสเตรเลีย การจ้างพนักงานเพิ่มเติมเพื่อขยายร้านค้าสาขา TJM ออสเตรเลีย และ ค่าโฆษณาสินค้า กิจกรรมเพื่อประชาสัมพันธ์ และ ค่าพัฒนาระบบ IT ของออสเตรเลีย รวมทั้ง รับรู้ค่าใช้จ่ายของ 4 Way Suspension Products Pty. Ltd ออสเตรเลีย เป็นต้น

 

            นอกจากนี้ บริษัทได้รับส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมและการร่วมค้าที่ 243 ล้านบาท จากการ ปรับตัวดีขึ้นของกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์

 

รศ.ดร.เฉลียว กล่าวต่อว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติให้เสนอที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 66 เพื่อขออนุมัติการจ่ายเงินปันผลประจำปีให้กับผู้ถือหุ้นของบริษัท ในอัตราหุ้นละ 0.14 บาท (สิบสี่สตางค์) รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 392 ล้านบาท ซึ่งกำหนดให้มีการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นปี 2566 ในวันที่ 20 ก.ค. 66 และหากที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นฯ มีมติอนุมัติให้จ่ายเงินปันผล จะกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่จะมีสิทธิได้รับเงินปันผล (Record Date) ในวันที่ 2 ส.ค. 66 และกำหนดจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นภายในวันที่ 18 ส.ค. 66

 

            ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 8 ธ.ค.65 บริษัท ได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลให้กับผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 0.11 บาท (สิบเอ็ดสตางค์) หากรวมกับการปันผลในครั้งนี้อีก 0.14 บาทต่อหุ้น (สิบสี่สตางค์) จะทำให้บริษัทมีการจ่ายเงินปันผลรวม 0.25 บาทต่อหุ้น (ยี่สิบห้าสตางค์) คิดเป็นร้อยละ 61 ของผลกำไรสุทธิ (Payout ratio)

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

แนวรบเก็งกำไร By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ แม้สภาพตลาดหุ้นไทย นักลงทุน ยังไม่กลับมา แต่สำหรับแนวรบ หุ้นเก็งกำไร ......

พีทีจี เอ็นเนอยี ส่ง ออโต้แบคส์ เข้าร่วมงานมอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 45 เตรียมประกาศความพร้อมการแข่งขัน PT Maxnitron Racing Series 2024

พีทีจี เอ็นเนอยี ส่ง ออโต้แบคส์ เข้าร่วมงานมอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 45 เตรียมประกาศความพร้อมการแข่งขัน PT Maxnitron Racing..

มัลติมีเดีย

NER กางปีก..รับราคายางพาราพุ่ง - สายตรงอินไซด์ - 18 มี.ค.67

NER กางปีก..รับราคายางพาราพุ่ง - สายตรงอินไซด์ - 18 มี.ค.67

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้