Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.เอเซีย พลัส : Market Talk

442

 

สัปดาห์หน้า หวังว่าจะดีกว่าสัปดาห์นี้4 วันทำการที่ผ่านมาของสัปดาห์นี้ SET Index ผันผวน และ ปรับลดลงราว2.22% ทั้งนี้ภายใต้แรงกดดันของ การเมืองในประเทศหลังการเลือกตั้งซึ่งผลที่ออกมาเหนือความคาดหมายทำให้เกิดความกังวลในการโหวตเลือกนายก ส่วนในต่างประเทศก็มีเรื่องการขยายเพดานหนี้ของสหรัฐที่หาข้อสรุปไม่ได้ อย่างไรก็ตามจากพัฒนาการของเหตุการณ์ จนถึงวันนี้พอจะคาดหวังถึงทิศทางที่ดีขึ้นในสัปดาห์หน้าได้มากขึ้น โดยในส่วนของการขยายเพดานหนี้สหรัฐจะมีการเจรจาระหว่างฝ่ายบริหารและสภาฯ ในวันอาทิตย์ที่ 21 พ.ค. ซึ่งเริ่มเห็นสัญญาณเชิงบวกออกมาสะทัอนผ่าน CDS ที่ลดระดับลง ส่วนการเมืองในบ้านเรา แม้วานนี้ ไม่ได้มีการเปิดเผย MOU แต่การเจรจาและแถลงข่าวของพรรคร่วมที่ออกมา ก็น่าจะบ่งชี้ว่าน่าจะได้ข้อสรุปที่เป็นกลางในการจัดตั้งรัฐบาล คาดลงนาม 22 พ.ค.66หลังผ่านสัปดาห์แห่งความผันผวนนี้ไป เชื่อว่าความกังวลของสถานการณ์ต่างๆ จะเริ่มคลายตัวลงทำให้SET Index ลดความผันผวนวันนี้คาดแนวรับบริเวณ 1507-1520 จุด แนวต้าน 1545 จุด Top Pick เลือก BEM, GULF และ TTCL


ดีลขยายเพดานหนี้สหรัฐใกล้จบ หนุนตลาดหุ้นเข้าโหมด RISK ON
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังคงดีดตัวต่อเนื่อง โดยวานนี้ปิดตัวในแดนบวกราว +0.3% ถึง +1.5%หลังตลาดคลายความกังวลจากการเจรจาขยายเพดานหนี้ในสหรัฐใกล้ได้ข้อสรุป โดยประธาน สส. เควิน แมคคาร์ธีเชื่อมั่นว่าสหรัฐจะไม่ผิดนัดชำระหนี้และคาดว่าจะบรรลุข้อตกลงเพิ่มเพดานหนี้ภายในวันอาทิตย์นี้ (21 พ.ค.) ก่อนสภาคองเกรสจัดโหวตช่วงสัปดาห์หน้าส่งผลให้ CDS สหรัฐฯ 1 ปีปรับตัวลดลงจากจุดสูงสุดกว่า 15% ภายในเพียงแค่ 1 สัปดาห์

ขณะเดียวกันแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯ ยังเป็นประเด็นที่ต้องติดตาม เนื่องจากวานนี้
Bond Yield สหรัฐฯ 2 ปี และ 10 ปี ปรับตัวขึ้นราว 2.5% ขานรับดอกเบี้ยสหรัฐฯอาจจะขยับขึ้นได้ ท่ามกลางความกังวลว่าเงินเฟ้อสหรัฐฯ อาจชะลอตัวได้ช้ากว่าคาดหลังตลาดแรงงานยังแข็งแกร่งสะท้อนจากตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานที่รายงานล่าสุด 242,000 ตำแหน่ง ปรับตัวลดลงจากสัปดาห์ก่อนและต่ำกว่าคาด บวกกับกับประธาน Fed สาขาดัลลัสและสาขาแอตแลนตาสนับสนุนให้Fed เดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือน มิ.ย. ส่งผลให้ Fed Watch Tool ลดโอกาสที่ Fed จะคงดอกเบี้ยในการประชุมครั้งถัดไปส่วนในวันนี้รอจับตาการกล่าวสุนทรพจน์ของนายเจอโรม พาวเวล ประธาน Fed ในงาน
เสวนา Thomas Laubach Research Conference ว่าด้วยนโยบายการเงิน ที่กรุงวอชิงตัน ดีซี

สรุป ตลาดคลายความกังวลจากการเจรจาขยายเพดานหนี้ในสหรัฐใกล้ได้ข้อสรุปภายในสัปดาห์นี้ ก่อนสภาคองเกรสจัดโหวตช่วงสัปดาห์หน้า หนุน Fund Flow ไหลเข้าสินทรพย์เสี่ยงมากขึ้นเซ็น MOU 22 พ.ค.66 คาดเห็นการขับเคลื่อนประเทศไทยที่ชัดเจนขึ้นตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงตั้งแต่หลังเลือกตั้ง 4 วันติดต่อกันกว่า 34.6 จุด หรือ -2.2% ล่าสุดอยู่ที่ระดับ 1526.69 จุด สาเหตุหลักมาจากความกังวลหลังจากเกิดการสลับขั้วการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งนับจากนี้เริ่มเห็นสัญญาณที่ดีของการจัดตั้งรัฐบาล และขับเคลื่อนประเทศ โดยมีรายละเอียด ดังนี้


• การโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี จะผ่านการคัดเลือกต้องได้เสียงเกินกึ่งหนึ่งของรัฐสภา ซึ่งประกอบด้วย ส.ส. 500 คน และ ส.ว. 250 คน รวม 750 คนหมายความว่าต้องได้คะแนนเสียงสนับสนุน 376 คน ขึ้นไป ขาดอีก 63 เสียง(ปัจจุบันพรรคก้าวไกล รวมเสียงสส.พรรคร่วมรัฐบาล 313 เสียง) ท่าทีล่าสุดของหลายพรรคที่ไม่ได้ร่วมจัดตั้งรัฐบาล และ สมาชิกวุฒิสภาบางท่าน (9 ท่าน) เริ่มแสดงท่าทีที่คล้อยตามกับหลักประชาธิปไตยมากขึ้น ทำให้โอกาสโหวตนายพิธา
ลิ้มเจริญรัตน์เป็นนายกรัฐมนตรีมีมากขึ้น


• พรรคร่วมรัฐบาล เตรียมลงนาม MOU 22 พ.ค.66 (ปิดฉากเหตุยึดอำนาจรัฐประหาร 22 พ.ค.57) วันที่ 8 พ.ค.66 พรรคก้าวไกล พร้อมหัวหน้าพรรค -เลขาธิการพรรคทั้ง 8 พรรคการเมือง ร่วมแถลงจัดตั้งรัฐบาล โดยทุกพรรคจะร่วมการจัดทำข้อตกลงร่วม หรือ MOU มีหัวข้อกว้างๆ 6-7 ข้อ กรอบที่คาดการณ์ประกอบด้วย ประชาธิปไตยเต็มใบ - รัฐสวัสดิการ - เกษตรก้าวหน้า -กระจายอำนาจ - สิทธิเสรีภาพและความเท่าเทียม - การศึกษา - สาธารณสุข -
ความสงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ - นวัตกรรมและเทคโนโลยี - ปราบทุจริตและยาเสพติด - สิ่งแวดล้อมและอากาศ - พลังงานและพลังทดแทน ซึ่งเนื้อหาของ MOU จะเน้นไปที่ปากท้องของประชาชน และการลดความเหลื่อมล้ำของสังคมไทยเป็นหลัก

สรุปตลาดหุ้นไทยยังอยู่ในช่วงรอความชัดเจนในมุมการจัดตั้งรัฐบาล - โหวตเลือกนายกรัฐมนตรีรวมถึงรายละเอียดของการเดินหน้านโยบายต่างๆ ที่ได้หาเสียงไว้ทำให้เกิดความผันผวนในช่วงสั้น อย่างไรก็ตามสัปดาห์หน้าจะเริ่มเห็นความชัดเจนมากขึ้น หลังมีรายละเอียดของ MOU วันที่ 22 พ.ค.66 คาดทำให้ SET Index ดีดตัวขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ระดับ 1545 จุดได้สำเร็จ

หวังสัปดาห์หน้า…ตลาดหุ้นไทยดูผ่อนคลายมากขึ้น
ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นถูกกดดันจากประเด็น Debt Ceiling ในสหรัฐ ขณะที่ในไทยถือเป็นสัปดาห์แห่งการเปลี่ยนผ่านทางการเมือง หลังจากได้แกนนำจัดตั้งรัฐบาลที่พลิกทุกสำนักผลโพล ทำให้เกิดความกังวลต่อความไม่แน่นอนในช่วงรอยต่อ กดดันให้หุ้นปรับฐานลงมา 35 จุด หรือ 2.2%wtd
แต่ในสัปดาห์ตลาดหุ้นน่าจะดูดีขึ้น หลังสหรัฐผ่านดีลเพดานหนี้ในวันอาทิตย์นี้ หนุนหุ้นสหรัฐอย่าง NASDAQ เริ่มฟื้นกลับมาทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบ 1 ปี(NASDAQ +21%ytd, SET -8.5%ytd)

ขณะที่ในไทยน่าจะเห็นรายละเอียด MOU ของรัฐบาลใหม่ และแนวโน้มที่ สว. เริ่มออกความเห็นว่าในการโหวตนายกฯ ฝั่งประชาธิปไตยมากขึ้น คาดหวัง Fund Flow ที่ไหลมารออยู่ในตลาดตราสารหนี้กว่า 4.7 หมื่นล้านบาท (mtd) และเป็นตราสารหนี้ระยะสั้น4.6 หมื่นล้านบาท (mtd) มีโอกาสไหลเข้ามาในตลาดหุ้นไทยในระยะถัดไป

สรุปตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์หน้ามีทิศทางที่ผ่อนคลายมากขึ้น ประเมิน SETเคลื่อนไหว 1520 – 1545 จุด แนะนำ Trading หุ้นที่ลงมาลึกเกินไป จากตอบรับความกังวลเรื่องนโยบายใหม่จากรัฐบาลมาในระดับหนึ่งแล้ว และใกล้เข้าสู่แนวรับสำคัญทางเทคนิค และ Upside เปิดกว้างขึ้น อย่าง GULF, BEM และยังชื่นชอบTTCL เป็น 3 หุ้น Top pick ในวันนี้


เทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน และทางเทคนิค
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 004132
ภราดร เตียรณปราโมทย์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 075365
ภวัต ภัทราพงศ์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 117985
สิริลักษณ์ พันธ์วงค์
ผู้ช่วยนักวิเคราะห์

 

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

NER ผู้ถือหุ้นเคาะปันผล 0.34 บาท/หุ้น ออกวอร์แรนท์ NER-W2 แจกในอัตรา 6 :1

NER ผู้ถือหุ้นเคาะปันผล 0.34 บาท/หุ้น ออกวอร์แรนท์ NER-W2 แจกในอัตรา 6 :1

ดัชนีฯแกว่งตัว By : นายกล้วยหอม

นายกล้วยหอม วันนี้ ตลาดหุ้นไทย ดัชนีตลาด ยังคงแกว่งตัวไปมา ซ้าย ขวา บนความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อตลาดหุ้น....

มัลติมีเดีย

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้