พีทีที โกลบอล เคมิคอล

ประเด็นสำคัญจากการประชุมนักวิเคราะห์
ประเด็นหลัก: แนวโน้มตลาดปิโตรเคมีทั้งสายโอเลฟินส์ (PE, PP, MEG), สายอะโรเมติกส์ (PX, Benzene), และกลุ่มผลิตภัณฑ์ performance chemicals อุปสงค์เริ่มฟื้นตัวหลังจากจีนเปิดประเทศแต่อยู่ในลักษณะค่อยเป็นค่อยไป สำหรับธุรกิจในต่างประเทศ (เช่น Allnex, Vencorex, Natureworks) ปริมาณขายใน 2Q23 คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่อง QoQ และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนใน 2H23 หนุนโดยอุปสงค์ที่ดีขึ้น ในขณะที่ส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ของ Allnex มีแนวโน้มทรงตัวอยู่ในระดับสูงต่อเนื่อง แนวโน้มค่าการกลั่นในปีนี้คาดว่าจะอ่อนตัวลง YoY (แต่น่าจะยังสูงกว่าระดับก่อนโควิด)โดยได้รับแรงกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจโลกถดถอย, อุปทานดีเซลจากรัสเซียที่มากกว่าคาด, และการเริ่มดำเนินงานของโรงกลั่นใหม่ บริษัทยังคงแสวงหาโอกาสในการลงทุนในผลิตภัณฑ์/ธุรกิจที่มีมูลค่าเพิ่มสูงอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าหมายสัดส่วนผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่มสูง 56% ของ portfolio ในปี 2030 ในขณะที่สัดส่วนผลิตภัณฑ์กลุ่ม commodity จะลดลงเหลือ 44% ในปี 2030 สถานะทางการเงินของ PTTGC ยังคงแข็งแกร่ง โดยมีเงินสดในมือ+เงินลงทุนระยะสั้น 3.6 หมื่นล้านบาท และอัตราส่วน Net D/E ที่เพียง 0.8 เท่า ณ สิ้น 1Q23

คำแนะนำพื้นฐาน: แนวโน้มผลการดำเนินงานหลักที่ดีขึ้นในช่วง 2H23 และมูลค่าหุ้นที่ยังต่ำน่าจะช่วยจำกัดความเสี่ยงขาลงของราคาหุ้น สำหรับในระยะยาวการเข้าซื้อกิจการ Allnex จะเป็นก้าวแรกของ PTTGC ในการเปลี่ยนพอร์ตโฟลิโอให้มีผลิตภัณฑ์ชนิดพิเศษมากขึ้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสามารถในการทำกำไรและผลประกอบการในระยะยาว เราจึงคงคำแนะนำ “ถือ”