Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.เอเซีย พลัส : GPSC แนะนำ Outperform ราคาเป้าหมาย 76 บาท

504

 

ฟื้นตัวเด่นเป็นกำไรใน 1Q66 และคาดยังโตได้ใน 2Q66

คาดกำไรสุทธิงวด 1Q66 จะอยู่ราว 1.0 พันล้านบาท พลิกฟื้นจากขาดทุนสุทธิ436.4 ล้านบาทในงวด 4Q65 หนุนหลักจากผลการการดำเนินงานปกติที่คาดพลิกกลับมาเป็นกำไรราว 1.4 พันล้านบาท จากรายได้ขายไฟฟ้าโดยรวมที่คาดฟื้นตัวตามการปรับขึ้นค่า Ft และต้นทุนเชื้อเพลิงทั้งก๊าซฯและถ่านหินที่คาดจะปรับตัวลดลง QoQ ช่วงสั้นงวด 2Q65 คาดกำไรปกติยังเติบโตขึ้นได้บ้างเล็กน้อยจากส่วนแบ่งกำไร XPCL และ AEPL ที่ปรับตัวดีขึ้นตามปัจจัยฤดูกาลคงประมาณการ และมูลค่าพื้นฐาน ณ สิ้นปี 2566 ที่ 76 บาท/หุ้น ช่วงที่ผ่านมาราคาหุ้นปรับฐานลงมาระดับหนึ่ง ซึ่งคาดสะท้อน sentiment เชิงลบจากค่าไฟฟ้าที่ลดลงตามการปรับลดค่า Ft รอบใหม่ไปแล้ว ขณะที่ช่วงสั้นคาดราคาหุ้นน่าจะเห็นการปรับตัวขึ้นได้ดีกว่ากลุ่มฯ จากแนวโน้มผลประกอบการงวด 1Q66 ที่สดใส รวมถึงภาพใหญ่รายปี2566 ที่เห็นการฟื้นตัวของกำไรขึ้นชัดเจนจากต้นทุนก๊าซฯที่ลดลงให้คำแนะนำ outperform


1Q66 คาดทั้งกำไรสุทธิและกำไรปกติฟื้นตัว QOQ
ฝ่ายวิจัยคาดกำไรสุทธิงวด 1Q66 ของ GPSC จะอยู่ราว 1.0 พันล้านบาท เทีบกับงวด4Q65 ที่เผชิญเป็นขาดทุนสุทธิ 436.4 ล้านบาท หนุนหลักผลการดำเนินงานปกติที่คาดจะฟื้นตัวกลับมาเป็นกำไรราว 1.4 พันล้านบาท จากเดิมที่เป็นผลขาดทุน 217.9 ล้านบาท โดยได้รับแรงหนุนจากรายได้ขายไฟฟ้าโดยรวมที่คาดจะเพิ่มขึ้น 4.3%qoq มาอยู่ราว 3.6 หมื่นล้านบาท จากราคาขายไฟฟ้าที่ปรับตัวขึ้นตามการรับรู้ค่า Ft รอบใหม่ที่เพิ่มขึ้นอีก 61.5สตางค์/หน่วย มาอยู่ที่154.9 สตางค์/หน่วยในเดือน ม.ค.-เม.ย. 2566 ถึงแม้ว่าปริมาณขายไฟฟ้าโดยรวมคาดจะยังถูกกดดันจากโรงไฟฟ้าเก็คโค่วัน กำลังการผลิต 429 MWe ที่มีการหยุดซ่อมบำรุงใหญ่ตามแผนราว 55 วันใน 1Q66 ก็ตาม รวมถึงต้นทุนเชื้อเพลิงที่ใช้ในการผลิตไฟฟ้า ทั้งก๊าซธรรมชาติ และถ่านหิน ของ GPSC คาดจะปรับตัวลดลงราว 6.4%qoqและ 15.0%qoq มาอยู่ราว 500 บาท/ล้านบีทียู และ 367 เหรียญฯ/ตัน ตามลำดับ ส่งผลให้กำไรขั้นต้นในงวดนี้คาดจะปรับตัวเพิ่มขึ้นมีนัยฯ 655.6%qoq มาอยู่ราว 2.7 พันล้านบาท โดยอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) คาดจะอยู่ที่ 7.3% จาก 1.0% ในงวด 4Q65

นอกจากนี้คาดยังมีแรงหนุนบางส่วนจากค่าใช้จ่าย SG&A ที่ปรับตัวลดลง 41.0%qoq มาอยู่ราว 436.4 ล้านบาท เนื่องจากคาดจะไม่มีค่าใช้จ่ายค่าโบนัสพนักงานดังที่เกิดขึ้นในช่วงปลายปี อีกทั้งคาดจะมีการบันทึกเงินปันผลรับจากบริษัทราชบุรีเพาเวอร์ จำกัด (RPCL)เพิ่มขึ้นเล็กน้อย 2.6%qoq มาอยู่ราว 80.0 ล้านบาทแต่อย่างไรก็ตาม คาดส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมจะปรับตัวลดลง 58.6%qoq มาอยู่ที่136.2 ล้านบาท กดดันหลักจากผลประกออบการของโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำไซยะบุรี(XPCL)ที่ปรับตัวลดลง QoQ ตามการเข้าสู่ช่วงฤดูแล้งใน 1Q66 ถึงแม้คาดว่าโรงไฟฟ้า solarIndia (AEPL) จะรับรู้ผลประกอบการดีขึ้น จากการทยอย COD โครงการใหม่ๆ และค่าความเข้มแสงที่เพิ่มขึ้นหลังจากผ่านพ้นช่วง low season ของกลุ่ม solar มาแล้วใน 4Q65ก็ตาม แต่ชดเชยได้ไม่หมด

ในส่วนของรายการพิเศษในงวดนี้ สุทธิแล้วคาดบันทึกเป็นผลขาดทุนเพิ่มขึ้น 83.0%qoqมาอยู่ที่ 399.9 ล้านบาท ประกอบด้วย 1) ค่าตัดจำหน่ายสินทรัพย์สุทธิ GLOW และโครงการ AEPL รวม 498.0 ล้านบาท และ 2) กำไรจาก Fx และการวัดมูลค่าเครื่องมือทางการเงิน สุทธิ 98.1 ล้านบาท เทียบกับงวด 4Q65 ที่ประกอบด้วย 1) ค่าตัดจำหน่ายสินทรัพย์สุทธิ GLOW และโครงการ AEPL รวม 506 ล้านบาท, 2) กำไรจาก Fx และการวัดมูลค่าเครื่องมือทางการเงิน สุทธิ 372.5 ล้านบาท, 3) ค่าตัดจำหน่าย (write off)โครงการ GLOW Energy phase 2 270 ล้านบาท, 4) รายได้ค่าสินไหมประกันของโรงไฟฟ้า GLOW Energy phase 5 และ เก็คโค่วัน หลังหักภาษี รวม 408 ล้านบาท, และ5) รายการปรับปรุงค่าใช้จ่ายอื่นๆ 223 ล้านบาทโดยรวมแล้วคาดกำไรปกติงวด 1Q66 คิดเป็นสัดส่วนราว 23.3% ของกำไรปกติทั้งปี 2566ที่ฝ่ายวิจัยประเมินไว้

คงประมาณการ... 2Q66 คาดกำไรปกติปรับตัวดีขึ้นได้บ้างเล็กน้อย QOQ
เบื่องต้น ฝ่ายวิจัยยังคงประมาณการกำไรปกติทั้งปี 2566 ไว้ที่ราว 6.0 พันล้านบาท หนุนหลักจากราคาต้นทุนเชื้อเพลิง ทั้งก๊าซธรรมชาติ และถ่านหินของ GPSC ที่คาดจะเริ่มปรับตัวลดลงจากปี 2565 ตามการเข้าสู่สมดุล demand และ supply ที่แท้จริงในระยะยาว รวมถึงโครงการใหม่ๆที่คาดจะทยอยเข้ามาตามการขยายตัวของ platform ของsolar India (AEPL)

สำหรับทิศทางกำไรในช่วงสั้น 2Q66 คาดกำไรปกติจะปรับตัวดีขึ้นได้บ้างเล็กน้อย QoQโดยคาดมีแรงนุนจากส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วม XPCL ที่คาดจะเริ่มออกสู่ช่วง low season ของฤดูแล้ง และ AEPL ที่คาดเข้าสู่ช่วง high season ของการใช้ไฟฟ้าสูงสุดตามการเข้าสู่ช่วงฤดูร้อนในประเทศอินเดีย อย่างไรก็ตามคาดจะไม่มีการบันทึกเงินปันผลรับของ บริษัทราชบุรีเพาเวอร์ จำกัด (RPCL) ดังที่เคยเกิดขึ้นในงวดนี้ รวมถึงราคาขายไฟฟ้าให้แก่กลุ่มลูกค้าอุตสหกรรมทั้งในประเทศไทยจะปรับตัวลดลงตามค่า Ft ในงวดพ.ค.-ส.ค. ที่ประกาศปรับลดลง 63.65 สตางค์/หน่วย มาอยู่ที่ 91.27 สตางค์/หน่วย แต่คาดจะถูกชดเชยได้จากต้นทุนก๊าซธรรมชาติจะทยอยปรับตัวลดลงตามไปด้วย ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นโดยรวมคาดจะยังทรงตัวอยู่ในระดับใกล้เคียงเดิม QoQแนวทางประกอบธุรกิจตามหลักความยั่งยืน (ESG) ของ GPSCด้านสิ่งแวดล้อม (Environment) : แสวงหาการเติบโตอย่างต่อเนื่องในการเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน ซึ่งที่ผ่านมาได้เข้าลงทุน 41.6% ในบริษัท Avaada เพื่อพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศอินเดีย รวมทั้งเข้าลงทุน 25% ในโครงการการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลมนอกชายฝั่ง ในไต้หวัน Changfang และ Xidao (CFXD)ส่งผลให้ GPSC มีกำลังการผลิตพลังงานหมุนเวียนเพิ่มขึ้นเป็น 2.6 พันเมกะวัตต์ คิดเป็น37% ของกำลังการผลิตทั้งหมด 7.1 พันเมกะวัตต์ นอกจากนี้ยังมุ่งเน้นพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยีโดยเปิดโรงงานผลิตหน่วยกักเก็บพลังงานด้วยเทคโนโลยี SemiSolid แห่งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กำลังการผลิต 30 เมกะวัตต์ชั่วโมงต่อปีรวมกับ PTTด้านสังคม (Social) : ช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ COVID-19 ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2562 จนถึงปัจจุบัน โดยได้แบ่งการดำเนินกิจกรรมออกเป็น 4 รูปแบบหลัก

คือ 1) การบริจาคเงินสนับสนุนเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยติดเชื้อ COVID-19 2) บริจาคอุปกรณ์ทางการแพทย์และสิ่งของจำเป็น 3) การสนับสนุนนวัตกรรมต่างๆ เพื่อช่วยเหลือและบรรเทาการระบาดของ COVID และ 4) การดำเนินโครงการหรือกิจกรรมฟื้นฟูเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ นอกจากนี้ GPSC ยังได้ร่วมกับกลุ่ม ปตท. ขับเคลื่อนโครงการ SMARTFarming นำนวตักรรมและเทคโนโลยีของกลุ่ม ปตท. มาใช้ยกระดับกระบวนการเพาะปลูกและการพัฒนาผลิตผลทางการเกษตร อีกทั้งยังมีโครงการอื่นๆ เช่น โครงการ Light for aBetter Life โครงการติดตั้งระบบไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในพื้นที่ห่างไกล เป็นต้นธรรมาภิบาล (Governance): ได้รับการประเมินผลสำรวจการกำกับดูแลกิจการของบริษัทจดทะเบียนไทยปี 2564 อยู่ในระดับ “ดีเลิศ” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 และได้รับการต่ออายุการรับรองเป็นสมาชิกแนวร่วมปฏิบัติของภาคเอกชนไทยในการต่อต้านการทุจริต อีกทั้งยังได้รับการยอมรับและได้รับรางวัลทั้งจากในประเทศและระดับสากล เช่น รางวัลระดับสากลจากงาน 11th Asian Excellence Awards 2021 รางวัล Rising Star SustainabilityAwards กลุ่มรางวัล Sustainability Excellence จากเวที SET Awards 2021 และยังได้รับเลือกให้อยู่ในรายชื่อหุ้นยั่งยืน หรือ Thailand Sustainability Investment (THSI)ประจำปี 2564 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 เป็นต้น

ประเด็นความเสี่ยง
1. โครงการโรงไฟฟ้าที่กำลังก่อสร้างอาจไม่สามารถผลิตเชิงพาณิชย์ได้ตามแผน (Construction risk)
2. การหยุดซ่อมฉุกเฉินของโรงไฟฟ้า (Unplanned shutdown)
3. กลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมไม่ต่อสัญญาซื้อไฟฟ้ากับ BGRIM
4. ความเสี่ยงจากความผันผวน Fx และอัตราดอกเบี้ย เพราะBGRIM กู้เงินลงทุนโรงไฟฟ้า บางส่วนด้วยสกุลเงินต่างประเทศ

ที่มา: สายงานวิจัย บล. เอเซีย พลัส ที่มา: สายงานวิจัย บล. เอเซีย พลัส

บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส
นลินรัตน์ กิตติกำพลรัตน์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 018350
ธัญญา อุดม
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 066756

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

บทความล่าสุด

FTI จัดงานประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2567 ผถห.อนุมัติจ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น

FTI จัดงานประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2567 ผถห.อนุมัติจ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น

ได้เวลาซื้อหุ้น By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ เห็นหุ้นตก หุ้นร่วง ณ จุด นี้ ด้วยข่าวอิสราเอลได้เปิดปฏิบัติการโจมตีอิหร่าน.. ขอมองต่าง

มัลติมีเดีย

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้