Today’s NEWS FEED

News Feed

HotNews : 4 โบรกเกอร์ ฟันธง ราคาเหมาะสม PLT ที่ 2.00-2.20 บาท/หุ้น

1,220

 

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (30 มีนาคม 2566)-----4 โบรกเกอร์ ฟันธง ราคาเหมาะสมของหุ้น บมจ. พีลาทัส มารีน หรือ PLT ผู้ให้บริการขนส่ง LPG ทางเรือและรถ ไว้ที่ 2.00-2.20 บาท/หุ้น ด้าน บล.ทิสโก้ เคาะเป้าสูงสุด 2.20 บาท/หุ้น เชื่อมั่นในความเชี่ยวชาญการเดินเรือ-ศักยภาพการขนส่งก๊าซที่มีมาตรฐานสูง-คู่แข่งน้อย คาดเข้าเทรดตลาด เอ็ม เอ ไอ เร็ว ๆนี้

 

บริษัท พีลาทัส มารีน จำกัด (มหาชน) หรือ PLT ผู้ประกอบธุรกิจให้บริการขนส่งก๊าซปิโตรเลียมเหลวทางเรือและธุรกิจให้บริการขนส่งก๊าซปิโตรเลียมเหลวทางรถ ได้ยื่นเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 280,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.50 บาท หรือคิดเป็น 29.17% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทภายหลังการเสนอขายหุ้น IPO และเตรียมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) โดยมี บริษัท เซจแคปปิตอล จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และบริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย

 

การระดมทุนในครั้งนี้ บริษัทมีแผนนำเงินไปใช้ตามวัตถุประสงค์ (1) เพื่อลงทุนซื้อเรือบรรทุกก๊าซ LPG และก๊าซเคมีเหลว จำนวนเงินที่ใช้ประมาณ 250-300 ล้านบาท ภายในปี 2566-2567 โดยซื้อเรือมือสองที่มีอายุไม่เกิน 20 ปี เพื่อทดแทนเรือเก่า เพื่อปรับอายุกองเรือให้มีอายุเฉลี่ยไม่เกิน 25 ปี และขยายกองเรือใหม่สำหรับการเพิ่มศักยภาพในการขนส่งสินค้าเหลวทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ ถัดมา (2) เพื่อลงทุนขยายกองรถบรรทุกก๊าซ LPG มีจำนวนเงินที่ใช้ประมาณ 65 ล้านบาท ภายในปี 2566 (3) เพื่อใช้ในการติดตั้งระบบ ERP ภายในองค์กร จำนวนเงินที่ใช้ประมาณ 15 ล้านบาท ภายในปี 2566 (4) ปรับปรุงลานจอดรถบรรทุกก๊าซ LPG และก่อสร้างโรงซ่อมบำรุงรถบรรทุกก๊าซ LPG จำนวนเงินที่ใช้ประมาณ 12 ล้านบาท ภายในปี 2566 และ (5) เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนจากจำนวนเงินที่เหลือจากทำรายการทั้งหมดตั้งแต่ปี 2566

 

ปัจจุบันกองเรือของ PLT มีจำนวน 19 ลำ มีขนาดตั้งแต่ 570-900 ตัน และรถขนส่งก๊าซปิโตรเลียมเหลว จำนวน 44 คัน ซึ่งประกอบด้วย รถ 6 ล้อ รถ 10 ล้อ รถลากจูง และรถกึ่งพ่วง ซึ่งมีลูกค้าหลักเป็นผู้จัดจำหน่ายก๊าซ LPG รายใหญ่ที่เป็นพันธมิตรที่ดีอย่าง บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR ตามด้วย บริษัทดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ WP และ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT

 

สำหรับผลดำเนินงานปี 2562 ถึงปี 2565 บริษัท มีรายได้จากการให้บริการขนส่งรวม 707.77 ล้านบาท 637.75 ล้านบาท 665.34 ล้านบาท และ 794.16 ล้านบาท ตามลำดับ และกำไรสุทธิ 69 ล้านบาท 35.93 ล้านบาท 55.07 ล้านบาท และ 62.21 ล้านบาท ตามลำดับ

 

ทั้งนี้ มีรายงานบทวิเคราะห์ของบริษัทหลักทรัพย์ 4 แห่ง ซึ่งได้ประเมินราคาเหมาะสมสูงสุดของหุ้น PLT ไว้ที่ 2.20 บาทต่อหุ้น เนื่องด้วยบริษัทฯ ยังเติบโตแข็งแกร่งจากความต้องการใช้ LPG ที่เพิ่มขึ้นและการขยายกองเรือและรถรองรับความต้องการของลูกค้า และเป็นธุรกิจที่มีรายได้และกำไรค่อนข้างสม่ำเสมอจากสัญญาระยะยาวจากลูกค้าหลัก แตกต่างกับบริษัทเดินเรือทั่วไปที่รายได้ขึ้นลงตามวัฏจักรพร้อมกับผู้เล่นในตลาดมีน้อยราย

 

บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์ต่อหุ้น PLT ประเมินราคาเหมาะสมปี 2566 ที่ 2.00-2.20 บาท ด้วยวิธี PER ที่ 18-20 เท่า ซึ่งคาดผลประกอบการของ PLT จะเติบโตเฉลี่ย 22% ต่อปีระหว่างปี 2566-2568 ด้วยกำไรสุทธิในปี 2566 อยู่ที่ 106 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 71% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ถัดไปในปี 2567 คาดมีกำไรสุทธิ 134 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และในปี 2568 คาดมีกำไรสุทธิ 157 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามลำดับ

 

ทั้งนี้ผลการดำเนินงานปรับตัวขึ้นเกิดจากการคาดการณ์รายได้ของ PLT จะเติบโตเฉลี่ย 14% ต่อปี โดยคาดว่าปริมาณการขนส่งทางเรือที่คาดจะเพิ่มขึ้นมาที่ 1.6 ล้านตัน ในปี 2566 หรือเพิ่มขึ้น 5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และคาดว่าปริมาณขนส่งทางรถในปี 2566 เพิ่มขึ้นเป็น 7.6 หมื่นตัน หรือเพิ่มขึ้น 11% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามแผนการปรับกองเรือและรถ

 

นอกจากนี้คาดอัตรากำไรขั้นต้นมีแนวโน้มดีขึ้น 22.2% จากต้นทุนพลังงานที่ปรับลดลงเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว รวมทั้งปริมาณการขนส่งและการปรับกองเรือและรถ จะทำให้ประสิทธิภาพการขนส่งเพิ่มขึ้น

 

บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ต่อหุ้น PLT ประเมินราคาเหมาะสมปี 2566 ที่ 2.00 บาท อิงจาก PE ที่ 18.0 เท่า โดยคาดในปี 2566 บริษัทจะมีกำไรสุทธิ 109 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 75% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากคาดอัตรากำไรขั้นต้นของธุรกิจขนส่งก๊าซ LPG ทางเรือสูงขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนจาก 18.5% เป็น 23.0% ในปีนี้ ซึ่งเป็นผลมาจากต้นทุนราคาน้ำมันเชื้อเพลิง HSFO ลดลง หลังจากประเทศรัสเซียส่งออกน้ำมันเตา HSFO มาทางทวีปเอเชียมากยิ่งขึ้น เนื่องจากทางทวีปยุโรปและประเทศอเมริกาเริ่มแบนน้ำมันสำเร็จรูปของรัสเซีย ตั้งแต่วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2566 เป็นต้นมา

 

พร้อมคาดรายได้ของธุรกิจขนส่งก๊าซ LPG ทางเรือจะโตขึ้น 12% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็น 833 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทมีแผนขยายกองเรือโดยซื้อเรือใหม่ 1 ลำขนาด 3,500 CBM ในช่วงกลางปี 2566 สำหรับวิ่งต่างประเทศและปริมาณขนส่ง LPG ทางเรือเพิ่มสูงขึ้นตาม การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย นอกจากนี้ ยังคาดประมาณการกำไรสุทธิปี 2567 อยู่ที่ 119 ล้านบาท โตขึ้นอีก 9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากบริษัทมีแผนขยายกองเรือโดยซื้อเรือใหม่ 2 ลำในปีหน้าประกอบด้วย 1) ขนาด 1,200 CBM สำหรับวิ่งในประเทศ และ 2) ขนาด 3,500 CBM สำหรับวิ่งต่างประเทศ ทำให้รายได้ของ ธุรกิจขนส่งก๊าซ LPG ทางเรือน่าจะโตขึ้น 14% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็น 947 ล้านบาทในปีหน้า

 

บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ต่อหุ้น PLT ประเมินราคาเหมาะสมปี 2566 ที่ 2.00 บาท อิง PER ที่ 20.0 เท่า โดยประมาณการกำไรปี 2566-2567 สำหรับในปี 2566 กำไรสุทธิจะอยู่ที่ 100 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 60% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และในปี 2567 กำไรสุทธิจะอยู่ที่ 120 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากรายได้และอัตรากำไรขั้นต้นที่จะปรับตัวดีขึ้น อีกทั้งการเติบโตในระยะยาวยังมีแนวโน้มที่ดีเนื่องจากการมีสัญญาระยะยาวถึง 15 ปี และมีโอกาสขยายธุรกิจไปต่างประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะประเทศเวียดนาม ที่ PLT ได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า

 

บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์ต่อหุ้น PLT ประเมินราคาเหมาะสมปี 2566 ที่ 2.10 บาท จากการอิง EPS ปี 2566 ที่ 0.11 บาท และ P/E ที่ 19.4 เท่า คาดแนวโน้มผลประกอบการในปี 2566 กำไรสุทธิจะอยู่ที่ 103 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตของกำไรสุทธิร้อยละ 65.6 ซึ่งเป็นผลมาจากการเพิ่มจำนวนกองเรือ กองรถ และการขยายธุรกิจไปยังประเทศเวียดนาม โดยในปี 2567 คาดกำไรสุทธิจะอยู่ที่ 121 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตของกำไรสุทธิร้อยละ 17.7 จากการเพิ่มขึ้นของกองเรือและการได้รับสัญญาธุรกิจเดินเรือในประเทศและกลุ่ม CLMV เพิ่ม

 

พร้อมระบุความน่าสนใจในการลงทุน PLT ไว้ 5 ประเด็น ได้แก่ 1. เป็นธุรกิจที่มีรายได้และกำไรอย่างสม่ำเสมอจากสัญญาระยะยาวจากลูกค้าหลัก แตกต่างกับบริษัทเดินเรือทั่วไปที่รายได้และกำไรขึ้นลงตามวัฏจักร 2. เป็นผู้นำและมีความเชี่ยวชาญในการขนส่งก๊าซ LPG ในประเทศที่ครอบคลุมทั้งทางบกและน้ำ โดยบริษัทมีประสบการณ์ในการให้บริการขนส่ง LPG นานกว่า 10 ปีมีความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าและมีประสบการณ์ในการดำเนินธุรกิจกับ CLMV 3. Barrier to entry สูง และมีผู้เล่นในตลาดน้อยราย เนื่องจากเป็นธุรกิจที่ต้องใช้เงินลงทุนสูง ต้องมีความชำนาญและประสบการณ์ 4. ผู้ใช้ LPG ปลายทางมาจากโรงบรรจุก๊าซหุงต้ม LPG ตามด้วยโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งโตตาม GDP ของประเทศ และ LPG มีแนวโน้มความต้องการมากขึ้นตามการขยายตัวทางเศรษฐกิจของกลุ่ม CLMV ต่างจากอุตสาหกรรม LPG แก๊สรถยนต์ที่โตช้าลง และ 5. ได้ร่วมลงนาม MOU กับผู้นำเข้าและจำหน่ายก๊าซ LPG รายใหญ่ในประเทศเวียดนาม คาดว่าเริ่มดำเนินธุรกิจได้ช่วงครึ่งหลังของปี 2566

 

***ก.ล.ต. นับหนึ่งไฟลิ่ง PLT เตรียมขาย IPO 280 ล้านหุ้น***

นางสาวรัชนี ชาติบัญชาชัย รองกรรมการผู้จัดการบริษัท เซจแคปปิตอล จำกัดในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินบริษัท พีลาทัส มารีน จำกัด (มหาชน) หรือPLTผู้ประกอบธุรกิจขนส่งก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ทางเรือและทางรถบรรทุก เปิดเผยว่า ขณะนี้ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้เริ่มนับหนึ่งแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์และร่างหนังสือชี้ชวน(Filing)ของPLTเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
โดยPLTได้ยื่นเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO)จำนวน280,000,000หุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ0.50บาท หรือคิดเป็น29.17% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัท ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนครั้งนี้ และเตรียมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) โดยใช้ชื่อย่อPLTในกลุ่มธุรกิจขนส่งก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ทางเรือและรถบรรทุก โดยมี บริษัท เซจแคปปิตอล จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
บริษัท พีลาทัส มารีน จำกัด (มหาชน) หรือPLTเป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจให้บริการขนส่งก๊าซปิโตรเลียมเหลวทางเรือ และธุรกิจให้บริการขนส่งก๊าซปิโตรเลียมเหลวทางรถ ก่อตั้งโดยกลุ่มตระกูลฉิมตะวัน เมื่อปี2553ปัจจุบัน บริษัทมีเรือขนส่งก๊าซปิโตรเลียมเหลว จำนวน19ลำ มีขนาดตั้งแต่570- 900ตัน และรถขนส่งก๊าซปิโตรเลียมเหลว จำนวน44คัน (รถ6ล้อ รถ10ล้อ รถลากจูง และรถกึ่งพ่วง) ทั้งนี้ ในการให้บริการขนส่งก๊าซปิโตรเลียมเหลวทางเรือ จะใช้เส้นทางเรือกลเดินทะเลเฉพาะเขตครอบคลุมประเทศไทย (ฝั่งอ่าวไทย) และเรือกลเดินทะเลใกล้ฝั่ง (Near-coastal) ได้แก่ ประเทศกัมพูชาและเวียดนามโดยลูกค้ารายใหญ่ของบริษัทและบริษัทย่อยในธุรกิจขนส่งก๊าซปิโตรเลียมเหลวทางเรือ คือ กลุ่มบริษัทที่เป็นผู้ผลิตและ/หรือจำหน่ายก๊าซLPGรายใหญ่ในประเทศไทย เช่น บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) นอกจากนี้PLTมีบริษัทลูก "บริษัท เวิลด์ไวด์ ทรานสปอร์ต จำกัด" หรือWWTเพื่อให้บริการขนส่งก๊าซปิโตรเลียมเหลวทางเรือ โดยทำการว่าจ้างเรือขนส่งก๊าซปิโตรเลียมเหลวจากบริษัทในลักษณะสัญญาเช่าเหมาเรือแบบระยะเวลา (Time Charter)เป็นเวลา10ปี ในการให้บริการขนส่งก๊าซปิโตรเลียมเหลวแก่กลุ่มลูกค้า โดยPLTถือหุ้น99.99 %
ส่วนการขนส่งก๊าซปิโตรเลียมเหลวทางรถ ใช้เส้นทางในประเทศและต่างประเทศในภูมิภาคอาเซียนในการบริการขนส่งโดยมีกลุ่มลูกค้าหลัก เป็นกลุ่มผู้ค้ามาตรา7,สถานีบริการก๊าซปิโตรเลียมเหลว (ปั๊มLPG),โรงบรรจุก๊าซหุงต้ม และโรงงานอุตสาหกรรม
" หลังจากนี้PLTเตรียมนำเสนอข้อมูลรายละเอียดหลักทรัพย์แก่นักลงทุน (โรดโชว์) ผ่านระบบออนไลน์ และการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ (mai)ครั้งนี้ จะทำให้PLTเข้าถึงแหล่งเงินทุน เพื่อนำมาต่อยอดธุรกิจให้เติบโตในอุตสาหกรรมได้อย่างมั่นคงมากยิ่งขึ้น" นางสาวรัชนี กล่าว
ด้าน นายวราวิช ฉิมตะวัน กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีลาทัส มารีน จำกัด (มหาชน) หรือPLTกล่าวถึงแผนการเข้าระดมทุนและจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์maiในครั้งนี้ ว่าบริษัทฯ เตรียมนำเงินที่ได้ไปใช้ลงทุนในการขยายกิจการ โดยซื้อเรือทดแทนเรือที่ถึงกำหนดปลดระวาง ขยายกองเรือบรรทุกก๊าซLPGและก๊าซเคมีเหลว ขยายกองรถบรรทุกก๊าซLPG พร้อมติดตั้งระบบERPภายในองค์กร ปรับปรุงลานจอดรถบรรทุกก๊าซLPGก่อสร้างโรงซ่อมบำรุงรถบรรทุก และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ นับเป็นการสร้างโอกาสในการขยายธุรกิจให้เติบโตตามเป้าหมาย เพื่อให้บริษัทสามารถขยายตัวพร้อมรองรับการเติบโตในอนาคตและผลักดันผลการดำเนินงานให้เติบโตอย่างยั่งยืน
สำหรับผลดำเนินงานปี2562ถึงปี2565บริษัท มีรายได้จากการให้บริการขนส่งรวม707.77ล้านบาท637.75ล้านบาท665.34ล้านบาท และ794.16ล้านบาท ตามลำดับ และกำไรสุทธิ69ล้านบาท36.31ล้านบาท55.07ล้านบาท และ62.21ล้านบาท ตามลำดับ โดยเพิ่มขึ้นตามการฟื้นตัวของภาวะเศรษฐกิจ
"การเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai)นับเป็นก้าวสำคัญในการขยายธุรกิจของบริษัทให้มีความแข็งแกร่ง และเพิ่มโอกาสการลงทุนโครงการในอนาคตให้เติบโตได้อย่างมีประสิทธิภาพและมั่นคงในระยะยาว" นายวราวิชกล่าว
ทั้งนี้ ผู้ลงทุนและผู้สนใจ สามารถดูรายละเอียดจากหนังสือชี้ชวนของบริษัท ที่เว็บไซต์ของสำนักงาน ก.ล.ต.www.sec.or.thและเว็บไซต์บริษัทwww.pilatusmarine.co.th

 


---จบ---

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

บทความล่าสุด

ตามผลงาน By : นายกล้วยหอม

นายกล้วยหอม วันนี้ จะเล่น จะเทรดหุ้นเก็งกำไร ก็ควรเลือกหุ้น ตัวที่มีผลกำไรดีกว่าตลาดคาด เหนือกว่าตลาดหวัง .....

NER พบนักลงทุนในงาน Opportunity Day ประจำไตรมาส 1/2567

NER พบนักลงทุนในงาน Opportunity Day ประจำไตรมาส 1/2567

มัลติมีเดีย

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้