CHG คำแนะนำ ถือ
ราคาปิด 3.60 บาท ราคาพื้นฐาน 3.90 บาท
เข้าสู่วัฎจักรลงทุนรอบใหม่
• ผู้บริหารให้Guidance รายได้ปี 23F ที่ 8 พันล้านบาท เทียบกับรายได้ที่รวมโควิด 1 หมื่นล้านบาท และไม่รวมรายได้โควิดที่ 7 พันล้านบาทในปี 22 ปัจจัยหนุนคือ รายได้เพิ่มจากศูนย์บริการการแพทย์ใหม่, รายได้คนไข้ต่างชาติเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะจากตลาดใหม่ คือ เมียนมาและจีน, ฐานคนไข้ประกันใหญ่ขึ้น และอัตราการชดเชยจากสำนักงานประกันสังคมสูงขึ้น
• คาดกำไรสุทธิ 1Q23F จะลดลง YoY แต่เพิ่ม QoQ โดยการลด YoY เพราะฐานรายได้ 1Q22 สูงจากมีรายได้โควิดส่วนการเพิ่ม QoQ มาจากปัจจัยฤดูกาล
• ผู้บริหารคาดว่าจะได้รับเงินชดเชยคงที่จากสนง.ประกันสังคมจะเพิ่มขึ้น 8-10% ตั้งแต่เม.ย.23 เป็นต้นไป ซึ่งรายได้จากเงินชดเชยคงที่คิดเป็นประมาณ 40-50% ของเงินชดเชยที่ได้รับจากสนง.ประกันสังคมทั้งหมด แต่รายได้เงินชดเชย IPD high-cost care (AdjRW≥2) และ OPD 26 โรคร้ายแรงไม่เปลี่ยนแปลง
• มีแผนขยายการลงทุนในเซ็นจรูี่แคร์เนิรส์ ซิ่ง โฮม จาก 70% เป็น 100% คาดว่าจะแล้วเสร็จใน 1H23ซึ่งศูนย์นี้เน้นให้บริการดูแลผู้สูงอายุที่เคยได้รับการผ่าตัด, เส้นเลือดแตก และอื่นๆ ปัจจุบันมี 5 อาคาร จำนวน 128 เตียง
• ลงทุนเพื่อการเติบโตในระยะยาว ปัจจุบันร.พ.มีแผนลงทุนสร้างร.พ.ใหม่ 3 แห่งในช่วงปี 2023-2026 (แม่สอด, เมดิคัลเซ็นเตอร์, แพรกษา สมุทรปราการ) รวม 250 เตียง จากปัจจุบันที่มีอยู่ 543 เตียง ท าให้สิ้นปี 2026 จะมีเตียงทั้งหมด793 เตียง ซึ่งการลงทุนเพิ่มนี้จะทำให้มาร์จิ้นในช่วง 2 ปีข้างหน้าลดลง เนื่องจากร.พ.ที่เปิดใหม่จะขาดทุนในปีแรกๆของการดำเนินงาน ส่งผลให้กำไรสุทธิช่วง 1-2 ปีข้างหน้าจะเติบโตจำกัด แต่ก็เป็นบวกในระยะยาว
• คงคำแนะนำถือ ให้ราคาพื้นฐาน 3.90 บาท (อิง DCF) ทั้งนี้เราปรับเพิ่มคาดการณ์กำไรสุทธิปี 23F-24F ขึ้น1%/3% สะท้อนรายได้ที่ดีกว่าคาดการณ์เดิม แต่ก็ชดเชยด้วยสมมติฐาน GPM ลดลงเพราะการเปิดร.พ.ใหม่ ปัจจัยกระตุ้นระยะสั้น คือ การได้เงินชดเชยคงที่จากสนง.ประกันสังคมเพิ่มขึ้นใน 2Q23F
นักวิเคราะห์ : ศศิกานต์ อุดมเวศย์ : sasikarnu@th.dbs.com : Tel. 02 857 7833