Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.กรุงศรี พัฒนสิน : KCS Daily Strategy

195

 


"Selective Plays"

KCS Daily Strategy: คาดตลาด "Sideways/Up" ต้าน 1620/1624จุด รับ 1602/1599จุด สินทรัพย์เสี่ยงสหรัฐฯเคลื่อนไหวในทางบวก แม้การประชุบวันที่ 2 ไม่มีการออกมาตรการกำกับธนาคารสหรัฐฯใหม่เพิ่มเติม แต่การเฝ้าระวังและติดตามเชิงลึกของความเสี่ยง ช่วยให้ตลาดมั่นใจต่อผลกระทบน่าจะกระชับอยู่ในวงจำกัด ขณะที่หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีเริ่มฟื้นตัวนำตลาด จากภาพบวกที่กลุ่ม Micron ผู้ประกอบการกลุ่มชิ้นส่วนฯ มองปัญหาสินค้าคงคลังเริ่มดีขึ้น แม้งบไตรมาส 1 นี้ อาจยังไม่เด่นมากนัก ผสานความเชื่อมั่นต่อวงจรดอกเบี้ยขาขึ้นที่ใกล้เป็นปลายทาง สอดคล้องกับผลการประชุม กนง. วานนี้ เงินเฟ้อไทยมีทิศทางลดระดับลงอย่างต่อเนื่อง ตลาดจะเบนไปให้น้ำหนักเศรษฐกิจระยะถัดไป โดย DMs หลายส่วนมีภาพอ่อนตัวลง หนุน Asia และ ไทย น่าสนใจ วันนี้มองหุ้นธนาคาร อิงเศรษฐกิจภายใน และกลุ่ม High Growth นำตลาด แนะนำ: KBANK, HANA, SCB เด่น

 

 

Daily outlook: "Sideways/Up" ต้าน 1620/1624 จุด รับ 1602/1599 จุด

What happened around the world ?

(*) U.S. FInancial Stability ในการแถลงกลุ่มที่ติดตามความเสี่ยงธนาคารสหรัฐฯ ต่อสภาคองเกรสวันที่ 2 มีความเห็นไม่ตรงกันระหว่างพรรคเดโมเครตและรีพลับลิกัน โดยทางฝ่ายเดโมแครตเห็นด้วยกับ Fed ว่าข้อบังคับหลายอย่างที่มีการผ่อนปรนในช่วงหลังวิกฤติการเงิน ปี 2008 และ 2019 ที่ทำให้ข้อกำหนดในการดำรงสภาพคล่องของธนาคารขนาด 1 - 2.5 แสนล้านเหรียญลดลงนั้น มีผลให้ไม่สามารถเข้าไปจัดการความเสี่ยงของ SVB ก่อนที่ปัญหาจะเกิดได้ จึงเห็นควรที่จะพิจารณากลับไปใช้ข้อกำหนดระดับสภาพคล่องลักษณะเดิม ในขณะที่ทางฝั่งรีพับลิกันเห็นว่าการเพิ่มความเข้มงวดในช่วงที่ระบบการเงินมีความเปราะบาง ณ ปัจจุบัน อาจทำให้เกิดปัญหาใหม่ได้ ฝ่ายวิจัย KCS เชื่อว่าประเด็นความเสี่ยงด้านเสถียรภาพธนาคารของสหรัฐได้ผ่อนคลายลงมากแล้วในระดับหนึ่ง สะท้อนจากระดับ CDS อายุ 1 ปีของธนาคารใหญ่ที่ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง แต่ยังต้องติดตามการประชุมรอบหน้าในช่วง พ.ค. 23
(*/+) Micron: หุ้น Micron ปรับตัวเพิ่มขึ้น +7.2% แม้กำไรงวดบัญชี 2Q23 ออกมาต่ำกว่าคาด แต่หุ้นปรับขึ้นจากผู้บริหารระบุว่าปัญหาสินค้าคงคลังมีสัญญาณดีขึ้น
(*/+) EV Car: กระแส EV มีภาพบวกต่อเนื่อง โดยเฉพาะส่วนประกอบหลัก Silicon Carbibe ที่มีคุณสมบัตินำส่งกระแสไฟฟ้าได้มีประสิทธิภาพกว่าวัสดุอื่นๆ อิงความต้องการ EV Car จากปัจจุบันที่จะเติบโตก้าวกระโดด และกำลังพัฒนาขึ้นต่อเนื่อง คาดบวกต่อหุ้นที่มีการเตรียมพร้อมธุรกิจดังกล่าว เช่น HANA
(*/-) US Housing: ยอดขายที่อยู่อาศัย (Pending Home Sales) ก.พ. 23 ปรับเพิ่มขึ้น +0.8%m-m ดีกว่าคาดเล็กน้อย แต่ลดลงถึง -21.1%y-y ชะลอลงชัดเจนจาก prev ที่ +8.1%m-m เป็นภาพสะท้อนให้เห็นเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง แต่ยังอยู่ในกรอบ Soft Landing ที่เรามองไว้ ซึ่งภาพดังกล่าวท้ายที่สุดจะดีต่อหุ้น Asia ที่แนวโน้มเศรษฐกิจดีกว่า
(*/+) Volatility: ระดับความผันผวนสินทรัพย์ต่างๆ มีสัญญาณดีขึ้น ดัชนี VIX Index ซึ่งเป็นดัชนีบ่งชี้ความกังวลของนักลงทุน ปรับตัวลดลง -4.26% มาสู่ 19.12 จุด ขณะที่ Move Index ซึ่งเป็นดัชนีบ่งชี้ความผันผวนฝั่งตลาดพันธบัตร ปรับตัวลดลง -5.38% สู่ระดับ 150.58 จุด ขณะที่ระดับส่วนต่างของ Libor-OIS ซึ่งชี้วัดระดับความเสี่ยงเครดิตของระบบสถาบันการเงินปรับลดลงมาที่ 38bps จาก 45 bps vs ช่วงที่มีความผันผวนสูง ซึ่งอยู่ราว 27 bps ส่วน Ted Spread ซึ่งชี้วัดระดับความเสี่ยงเครดิตของระบบสถาบันการเงินเช่นกันปรับตัวลงสู่ 33bps จาก 36bps vs ช่วงที่มีความผันผวนสูง อยู่ราว 60 bps
(*/+) Dollar&Yield: Bond yield 10ปี สหรัฐฯ -0.6bps สู่ 3.564% ขณะที่อายุ 2 ปี +1.9 bps สู่ระดับ 4.097% ส่วนค่าเงินดอลลาร์ทรงตัวโซนอ่อนค่า 102.64 จุด
(*/+) Oil: น้ำมันดิบ Brent -0.37$(-0.47%) สู่ $78.28/bbl ส่วน WTI -0.92$(-1.24%) สู่ $72.86bbl

What happened in Thailand?

(*/+) Fund Flow: วานนี้ต่างชาติพลิกมาซื้อตราสารหนี้ไทย +51.2 ล้านเหรียญฯ ขณะที่ขายหุ้นไทยเล็กน้อย -0.4 ล้านเหรียญ โดยรวมสลับมาเป็นภาพเงินทุนไหลเข้า ด้านค่าเงินบาทเคลื่อนไหวสวนทางแข็งค่ามาอยู่บริเวณ 34.2 +/- บาทต่อเหรียญฯ
(*/+) BOT Meeting: กนง. ปรับเพิ่มดอกเบี้ย 25 bps สู่ 1.75% ขณะที่ให้มุมมองเป็นกลาง-บวกเล็กน้อย คือ ยังไม่ส่งสัญญาณการหยุดขึ้นดอกเบี้ยอย่างชัดเจน แต่อิงภาพเงินเฟ้อทั่วไปคาดจะกลับสู่กรอบเป้าหมายไม่เกิน 3% ใน 2Q23 และปรับลดคาดการณ์เงินเฟ้อปี 23 ลงเหลือ 2.9% จากเดิม 3.0% และความเสี่ยงที่ BOT กังวลอยู่ที่เงินเฟ้อที่อาจจะเพิ่มขึ้นระยะถัดไปจากแรงส่ง Demand หากการฟื้นตัวนักท่องเที่ยวแรงกว่าคาด แต่บนกรอบที่ BOT คาดนักท่องเที่ยวปี 2023 ที่ 28 ล้านคนที่เป็นกรอบบน Consensus มองแล้ว เราเชื่อว่ามีความเสี่ยงจำกัด และประเมินการขึ้นดอกเบี้ยรอบนี้จะเป็นช่วงปลายวงจร สอดคล้องมุมมองกรุงศรี มองภาพโอกาสคงดอกเบี้ยในรอบประชุมหน้า หรือหากปรับขึ้นก็อาจเพิ่มอีกเล็กน้อย สะท้อนวงจรดอกเบี้ยขาขึ้นไทยที่เป็นปลายทาง
ขณะที่คาดการณ์ GDP ปี 2023-24 คาดเติบโต 3.6% และ 3.8% ปรับลดลงเล็กน้อยจากเดิม เป็นการปรับลดภาคส่งออกลง แต่เริ่มสัญญาณฟื้นตัวและน่าจะชัดขึ้นใน 2H23 แต่ปรับเพิ่มคาดการณ์นักท่องเที่ยวขึ้นเป็น 28 จากเดิม 25 ล้านคน ส่วนปี 2024 เป็น 35 จาก 34 ล้านคน หนุนหุ้นกลุ่มอิงเศรษฐกิจภายใน อาทิ ธนาคาร ค้าปลีก ท่องเที่ยว เช่าซื้อ อสังหาฯ เน้น BBL, KBANK, SCB, CPALL, MAKRO, BJC, CENTEL, AOT, SAWAD

(*) TFEX: วันนี้วันสุดท้ายของการเทรด S50H23 สถานะสะสมล่าสุดตั้งแต่วันที่ 30 ธ.ค. – 29มี.ค. ดังนี้ ต่างชาติ -123918 สัญญาม, สถาบัน +41862 สัญญา, นักลงทุนทั่วไป +82056 สัญญา, S50H23 OI เหลือ 267592 สัญญา
(*/-) MPI: ดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรมงวด 1Q23 หดตัวลง -2.71%y-y เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจยังคงเปราะบาง โดยเฉพาะเศรษฐกิจประเทศคู่ค้า เช่น สหรัฐฯ และยุโรป อุตสาหกรรมที่เน้นตลาดในประเทศ รวมถึงที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวหลายอุตสาหกรรมยังขยายตัวได้ดี
(*/+) Digital Tech: Manpower บริษัทผู้เชี่ยวชาญ HR solution เปิดเผยว่า ปัจจุบันสายงานที่หา "บุคลากร" ยากที่สุด คือ สายงานไอที (IT) เนื่องจากจำนวนนักศึกษาจบใหม่ไม่พอกับความต้องการนายจ้าง ทำให้ตลาดแรงงานไทยในกลุ่มดังกล่าวมีความจำเป็นต้องนำเข้าบุคลากรจากต่างประเทศ สะท้อนภาพบวกความต้องการธุรกิจ Digital tech consult ที่สูง และบริษัทในตลาด (BE8, BBIK และ IIG) ที่มีการควบรวมกิจการขยายความเชี่ยวชาญ+บุคลากรต่อเนื่อง จากข้อจำกัดบุคลากรเชื่อว่ามีโอกาสได้รับประโยชน์ ผสานวงจรดอกเบี้ยขาขึ้นโลกที่เป็นปลายทาง มองราคาหุ้นในกลุ่มที่ยังขยับขึ้นไม่มากเป็นโอกาสทยอยลงทุน

Daily Strategy : HANA, KBANK, SCB

ระยะสั้น วันนี้มองภาพตลาด "Sideways/Up" คาด SET เคลื่อนไหวทางบวกได้ต่อ จาก ปัญหาสถาบันการเงินในสหรัฐฯ ที่ผ่อนคลาย โดยแม้ไม่มีแนวทางกำกับเพิ่มเติมจากทางการ แต่ให้ความสำคัญความเสี่ยงช่วยให้ CDS 1 ปีของธนาคารใหญ่ในสหรัฐฯปรับตัวลงต่อเนื่อง นอกจากนี้ หนุนจากหุ้นเทคโนโลยีที่เริ่มเห็นสัญญาณปัญหาสินค้าคงคลังเริ่มดีขึ้น อิงความเห็น Micron และความเชื่อตลาดที่มองวงจรดอกเบี้ยเป็นปลายทาง สอดรับภาพในไทย ขณะที่หลังจากนี้ตลาดจะติดตามทิศทางเศรษฐกิจรายภูมิภาค เชื่อไทยยังเด่นจากการเติบโตจากเศรษฐกิจภายใน ผสาน จิตวิทยาการเดินหน้าสู่เลือกตั้งใหญ่ในประเทศ วันนี้ลุ้น SET Sideways/Up หลังวานนี้ปรับตัวขึ้นผ่านบริเวณ 1600 จุด มองหุ้นอิงเศรษฐกิจภายในพลังงาน และ China Plays จะหนุนตลาดวันนี้ บวกกับ ปัจจุบัน SET มี Valuation มีค่า PER2023 เหลือเพียง 15.7 เท่า (เทียบค่าเฉลี่ย 17.3 เท่า) จะเป็นแรงหนุน SET Index เดินหน้าสู่เป้าปี 2023 ที่ 1800จุด ทั้งนี้ อิง ERP เฉลี่ย 3.06% โดยปัจจุบันยังให้ลงทุนหุ้นไทยน้ำหนัก 80% แนะนำ

1) หุ้นกลุ่มได้ประโยชน์ China Reopening ที่ลุ้น Upside เพิ่มเติมต่อเศรษฐกิจไทยจากความขัดแย้งที่เกิดขึ้นมาตรการจำกัดการเดินทางชาวจีนของบางประเทศ คาดจะนำตลาดได้ต่อ ( AMATA, WHA, ERW, CENTEL, SNNP, DOHOME, MC, SISB, PLANB, PTTGC, SCGP)

2) หุ้นกลุ่มเก็งกำไรมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรัฐฯ ผสานหุ้น Consumer พื้นฐานมั่นคง (CRC, HMPRO, CPALL, BJC, ADVANC, AMATA, SAPPE, ICHI, BBL, KBANK, SCB)

3) Election Play (ADVANC, INTUCH, PR9, PLANB)

4) Summer Play (OSP, ICHI, SAPPE, DOHOME, HMPRO, CRC, CENTEL)

5) หุ้นกลุ่ม High Growth (BE8, BBIK, SAWAD, HANA)

6) หุ้นกลุ่ม Anti-Commodities (GULF, GPSC, BGRIM)

7) หุ้นกลุ่มโรงกลั่นที่กำไร 1Q23 ลุ้นภาพดีกว่าตลาดกังวล ขณะที่หุ้นอยู่ในโซนมี Upside ในด้าน Valuation (TOP, PTTGC, BCP)

 

• March 23 Stock Picks: AMATA, CRC, GULF, ICHI, SAPPE, SCB, BE8

• 2023 Stock Picks : AAV, AOT, AMATA, CPALL, CRC, GPSC, GULF, SCGP, CBG, BAM, BBL ส่วน Mid-Small Cap Play : SPA, ICHI, SAPPE, BE8, ONEE, MC

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

ยืนได้ By : แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ เห็นหุ้นหลายตัว ยืนได้ เปล่งประกายลำแสงสีเขียว ได้ต่อเนื่องหรือไม่ บ่ายวันนี้ มาจับตามอง ....

PTG จัดแคมเปญเติมน้ำมัน-LPG รับมะม่วงแฟนซี ฟรี!

PTG จัดแคมเปญเติมน้ำมัน-LPG รับมะม่วงแฟนซี ฟรี!

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้