สรุป ราคาทองคำวันนี้แกว่งตัวในกรอบ 1,804.39-1,795.2 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และยังคงแกว่งตัวไม่ไกลจากระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือนครึ่ง ท่ามกลางการคาดการณ์ที่ว่าวงจรการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ใกล้จะถึงจุดสูงสุดแล้ว อย่างไรก็ดี เนื่องจากสัญญาณทางเทคนิคบ่งชี้ว่าราคาทองคำอยู่ในภาวะซื้อมากเกินไป(Overbought) ทำให้การปรับตัวขึ้นของราคาทองคำในวันนี้เริ่มชะลอความร้อนแรงลง อีกทั้งนักลงทุนกำลังรอการเปิดเผยตัวเลขสำคัญในตลาดแรงงานของสหรัฐในช่วงเวลา 20.30 น. ของวันนี้เพื่อใช้ประเมินความแข็งแกร่งของตลาดแรงงานและอาจกระทบต่อการคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในระยะถัดๆไป ทั้งนี้ ค่ามัธยฐานในผลการสำรวจความเห็นของนักเศรษฐศาสตร์ของบลูมเบิร์กระบุว่า การจ้างงานนอกภาคเกษตรจะเพิ่มขึ้น 200,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย. หลังจากเพิ่มขึ้น 261,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค. และรายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงแรงงานจะเพิ่มขึ้น 4.6% เมื่อเทียบรายปีหลังจากเพิ่มขึ้น 4.6% ในเดือนต.ค. สะท้อนว่าตลาดแรงงานของสหรัฐมีแนวโน้มชะลอตัวลง ท่ามกลางความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยทำให้ความต้องการแรงงานลดลงตาม จึงแนะนำนักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขดังกล่าวอย่างใกล้ชิด โดยหากตัวเลขในตลาดแรงงานออกมา “ต่ำกว่าคาด” จะยิ่งกระตุ้นการคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.ซึ่งจะหนุนราคาทองคำ กลับกันหากตัวเลขออกมา “ดีกว่าคาด” จะเป็นปัจจัยที่กดดันให้ราคาทองคำเกิดการพักตัวได้
แนวโน้ม Gold Spot:
หลังจากช่วงที่ผ่านมาราคาปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง หากวันนี้ราคาทองคำยังไม่สามารถยืนเหนือโซนแนวต้าน 1,807 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของเดือน ส.ค. อาจส่งผลให้แรงซื้อยังคงถูกจำกัด สำหรับวันนี้ประเมินแนวรับระยะสั้นในโซน 1,786-1,765 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากยืนอยู่ราคาจะปรับตัวขึ้นต่อทดสอบแนวต้านถัดไปในบริเวณ 1,824 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การลงทุน:
Long Position ปิดสถานะซื้อเพื่อทำกำไรในโซน 1,807-1,824 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตัดขาดทุนหากหลุด 1,765 ดอลลาร์ต่อออนซ์
Short Position ทยอยปิดสถานะขายหากราคาอ่อนตัวลงไม่หลุดแนวรับแรกบริเวณ 1,786-1,765 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากหลุดแนวรับแรกสามารถถือต่อเพื่อรอดูแนวรับถัดไป อย่างไรก็ตามหากราคาปรับตัวขึ้นผ่าน 1,765 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ให้ตัดขาดทุน
Open New เข้าซื้อเฉพาะเมื่อตลาดปรับตัวลงมาในบริเวณแนวรับ 1,786-1,765 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากหลุด 1,765 ดอลลาร์ต่อออนซ์) ขณะที่การแบ่งขายทำกำไรอาจพิจารณาในโซน 1,807-1,824 ดอลลาร์ต่อออนซ์