Today’s NEWS FEED

News Feed

HotNews: 4 เทพหุ้น ส่องราคาเป้าหมาย AAI ที่ 7.37-7.76 บาท

5,493


สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(27 ตุลาคม 2565)-------- 1 พ.ย. 65 นี้ หุ้นไอพีโอ บริษัท เอเชี่ยน อะไลอันซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) (AAI) จะเข้ามาโลดแล่นในตลาดหุ้นทุนไทย ทีมข่าวหุ้นอินไซด์นำความเห็นของ บริษัทหลักทรัพย์ 4 แห่ง ที่มีต่อหุ้นไอพีโอ AAI มาดูกันว่าทั้ง 4 โบรกเกอร์จะวิเคราะห์แนวโน้มการเติบโตและให้ราคาเป้าหมายหุ้น AAI อย่างไรบ้าง


บล.ทิสโก้ คาดผลงาน AAI
ใน 3 ปีข้างหน้าโตเฉลี่ยปีละ15%

บริษัทหลักทรัพย์ทิสโก้ ออกบทวิเคราะห์เปิดเผยว่า บริษัท เอเชี่ยน อะไลอันซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) (AAI) เป็นหนึ่งในผู้รับจ้างผลิตผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยง (Pet Food) และผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมทานบรรจุภาชนะปิดผนึก (Human Food) ชั้นนำของประเทศ ดำเนินธุรกิจมามากกว่า15 ปี จนเป็นที่ยอมรับจากลูกค้าเจ้าของแบรนด์ผลิตภัณฑ์และผู้บริโภคในระดับสากล นอกจากนี้ บริษัทมีแผนกลยุทธ์ในการยกระดับจากการเป็นผู้ร่วมพัฒนาผลิตภัณฑ์ (Co-developer) ในปัจจุบัน เป็นคู่ค้าเชิงกลยุทธ์ (Strategic Partner) เราคาดผลประกอบการใน 3 ปีข้างหน้า (2022-24F) จะเพิ่มขึ้นได้เฉลี่ยปีละ 15% (CAGR3Y)


*แนวโน้มผลประกอบการ AAI เติบโตจากความนิยมสัตว์เลี้ยงหมาและแมวโลกเพิ่มขึ้น*
เราคาดผลประกอบการ AAI จะเติบโตอย่างยั่งยืน จากปัจจัยบวก 1) ความนิยมในการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงและการดูแลเอาใจใส่สุขภาพของสัตว์เลี้ยงเพิ่มมากกขึ้นในปัจจุบัน สอดคล้องกับตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงของโลกพัฒนาและเติบโตต่อเนื่อง 2) ประเทศไทยมีการส่งออกอาหารสัตว์เลี้ยงเป็นอันดับ 3 ของโลกและข้อได้เปรียบในการแข่งขัน 3) บริษัทมีลูกค้ารายใหญ่ในอเมริกา อังกฤษ และญี่ปุ่น ซึ่งเป็นตลาดใหญ่และมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง 4) บริษัทสร้างแบรนด์อาหารสัตว์เลี้ยงของตนเองครอบคลุมทุกกลุ่มโดยเน้นตลาดในประเทศไทยและประเทศจีน 5) AAI เป็นผู้รับจ้างผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงที่มีการวิจัยและพัฒนาสูตรอาหารสัตว์เลี้ยงต่อเนื่องให้ตรงตามความต้องการลูกค้าจากการร่วม Co-development และมีแผนพัฒนาเป็น Strategic Partner ทั้งในธุรกิจต้นน้ำและธุรกิจปลายน้ำ 6) บริษัทมีแผนขยายกำลังการผลิตรองรับการเติบโตของธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง


*คาดกาไรสุทธิปี 2022-24F เติบโตเฉลี่ยปีละ 15% (CAGR3Y)*
เราคาดผลประกอบการของ AAI ปี 2022-24F เติบโตเฉลี่ยปีละ 15% (CAGR3Y) โดยคาดสัดส่วนรายได้อาหารสัตว์เลี้ยงจะเพิ่มขึ้น มีการเติบโตสอดคล้องกับภาพรวมอุตสาหกรรมอาหารสัตว์เลี้ยงโลกและการขยายกำลังการผลิตของบริษัทรองรับตลาดที่ใหญ่และเติบโตต่อเนื่อง จากการขยายกำลังการผลิตต่อเนื่องทุกปีรวมประมาณ 40,000 ตัน ตั้งแต่ปี 2022-26F รองรับลูกค้ารายใหญ่ปัจจุบันที่มีสัญญาซื้อขายระยะยาว 5 ปี และรองรับลูกค้าปัจจุบันรวมถึงเพิ่มโอกาสในการรับลูกค้ารายใหม่มากขึ้น และคาดสัดส่วนรายได้จากแบรนด์อาหารสัตว์เลี้ยงของบริษัทเองเพิ่มขึ้น จากการพัฒนาสินค้าและทำการตลาดครอบคลุมตลาดทุกกลุ่มตั้งแต่ตลาดสินค้าพรีเมี่ยมจนถึงตลาดที่มีกำรแข่งขันด้านราคาเป็นหลัก (Low-end market) ปัจจุบันแบรนด์สินค้าของบริษัทมีสัดส่วนประมาณ 3% ของรายได้รวม


*ประเมินมูลค่า*
เราประเมินมูลค่าตลาดที่เหมาะสมปี 2023 ของ AAI ที่มูลค่าตลาด 15,900-17,700 ล้านบาท จากการประเมินวิธี PER23F +1SD ที่เฉลี่ย 18.6X ของค่าเฉลี่ยหุ้นกลุ่มผลิตภัณฑ์ทูน่าในประเทศ เทียบเท่า PEG23F ที่ 1.2X และจากการประเมิน PER23F เฉลี่ยที่ 20.7X ของตลาดในประเทศภูมิภาค และจากการประเมินด้วยวิธี EV/EBITDA ของตลาดประเทศภูมิภาคอยู่ที่ 14X ได้มูลค่าตลาดที่ 17,200 ล้านบาท โดยหำกเทียบเท่า PEG จะอยู่ที่ 1.3X-1.4X ตามลำดับ โดยคาด net profit growth 15% (CAGR3Y)

 


บล.ยูโอบี ส่องราคาพื้นฐานAAI ที่ 7.60 บาทต่อหุ้น
ผู้ผลิต Pet Food เตรียมขยายกำลังผลิต รับการเติบโต


บริษัทหลักทรัพย์ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์หลักทรัพย์ว่าฝ่ายวิจัยประเมินมูลค่าพื้นฐาน AAI ที่ 7.60 บาท ภายใต้วิชี PE ที่ 19.6 เท่า อิงค่าเฉลี่ยกลุ่มที่ทำธุรกิจและมีสินค้าใกล้เคียงกัน โดย AAI เป็นผู้ผลิตอาหารสัตว์เลี้ยง OEM ให้กับ Brand ชั้นนำทั่วโลกโดยจะเข้าระดมทุน IP0 เพื่อขยายธุรกิจจับตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงที่เติบโต ผ่านทั้งการขยายกำลังผลิต, สร้างคลังสินค้าอัดโนมัติแห่งที่ 2 เพื่อรองรับคำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้น และจะเริ่มเห็นการเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ลงทุนอย่างมีนัยฯในปี 2024 ประเมินกำไรปี 2022-24 จะเติบโต 14.3% CAGR

*ประเด็นการลงทุน*
-กระแสเลี้ยงสัตว์ที่เพิ่มขึ้น เติบโตระยะยาวมั่นคง กระแสเลี้ยงสัตว์ทั่วโลกที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่องโดยเฉพาะหลังจากช่วงระบาด COVID-19 หนูนคาดการณ์มูลค่าตลาดเติบโต 5% ต่อปี CAGR ในปี2022 -29F ประกอบกับ จุดแข็งของทยที่เป็นฐานผลิตส่งออกอันตับ 3 ของโลก จะช่วยหนุนการ
เติบโตไปกับตลาดสัตว์เลี้ยงได้อย่างต่อเนื่อง โดย AAI ยังมีจุดแข็งเตรียมต่อสัญญาคู่ค้รายใหญ่ 5 ปีรองรับคำสั่งซื้อมั่นคง นอกจากนี้ จากการรวบรวมข้อมูลพบว่าแม้ฐานยอดขาย AAI ยังต่ำกว่ากลุ่ม แต่ในส่วนของ GPM ยังอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกันที่ 20% เทียบกลุ่มที่ 22 -23% สะท้อนอำนาจต่อรองและประสิทธิภาพการผลิตที่ทำได้ดี ประกอบกับ เงินทุน IP0 ที่จะเข้ามาช่วยเสริมความแข็งแกร่ง ทั้งการเพิ่มกำลังผลิตในปี 2024 เป็น 7.1 จากปัจจุบัน 4.2 หมื่นตัน/ปี., สร้างคลังสินค้าอัตโนมัติแห่งที่2 และชำระเงินกู้สริมสภาพคล่อง จะช่วยหนุนศักยภาพแข่งขันเพิ่มมากขึ้นอีก


-ฐานยอดวายโตต่อเนื่อง และ GPM ผันผวนต่ำ ฝ่ายวิจัยประเมินยอดขาย AAI ปี 2022-24 จะเติบโต13.6% ต่อปี CAGR หนุนจากยอดขายธุรกิจหลักอาหารสัตว์เลี้ยง ที่จะเติบโตหนุนจากทั้ง

1) ตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงที่ขยายตัว ซึ่งไทยถือเป็นหนึ่งในฐานผลิตสำคัญ,
2) คู่ารายใหญ่ 1 ราย ซึ่งเตรียมต่อสัญญา 5 ปี รวมถึง
3) คำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้นจากฐานลูกค้ารายเดิม และคู่ค้ารายใหม่ๆ ประกอบกับปัญหาการขนส่งที่จะเริ่มคลี่คลาย ขณะที่แนวโน้ม GPM แม้ฝ่ายวิจัยกำหนด ปี 2022 ที่ 19.3% ลดลงจาก 21.5% ในปี 2021 จากตันทุนผสิต, พลังงาน ที่เพิ่มขึ้น และปี 2023 ที่ 17.7% ยังลดลงจากการรับรู้คำเสื่อมการลงทุนเพิ่มกำลังผลิต และคลังสินค้าแห่งที่ 2 แต่จะกลับมาเพิ่มเป็น 18.6% ในปี2024 หลังรับรู้ค่าเสื่อมเต็มปี และฐานยอดขายขยายตัวต่อเนื่อง


-กำไรสุทธิปี 2022-24 คาดโต 14.3 % CAGR ฝ่ายวิจัยประเมินกำไรสุทธิปี 2022 โต 19.3% yoyหนุนจากยอดขายที่ขยายตัว และการควบคุม SG&A/Sales ได้ดี (ไม่รวม FX loss) ขณะที่ปี 2023 แม้เติบโตไม่สูงราว 8.8% yoy หนุนจากยอดขายที่ขยายตัว แต่หักล้างจากการรับรู้ค่าเสื่อมรอบลงทุนใหญ่กดดัน GPM ลดลง ทั้งนี้ คาดจะกลับมาเติบโตสูง 20% ในปี 2024 หลังผ่านรอบลงทุน และจะเริ่มเก็บเกี่ยวประโยชน์ จากทั้งฐานยอดขายใหม่ที่เพิ่มขึ้น และ GPM ฟื้นตัว


-ประเมินมูลค่าพื้นฐานที่ 7.60 บาท ภายใต้วิธี PE Valuation อิงกำไรต่อหุ้นปี 2023 ที่ 0.39 บาท/หุ้น อิง Forward PE ปี 2023 หุ้นที่ทำธุรกิจใกล้เคียงกับ AAI ทั้ง 0EM และมีสินค้ากึ่งจำเป็น เช่น ของว่าง, snack และอาหารสัตว์เลี้ยง และธุรกิจที่มีสัดส่วนรายได้จากอาหารสัตว์เลี้ยง TU และ ASIAN ไต้ค่าเฉลี่ย Forward PE'23 ที่ 19.6 เท่า จึงกำหนด Forward PE อิงกลุ่มตังกล่าว ได้มูลค่าพื้นฐานปี2023 ที่ 7.60 บาท โดยแม้ AAI จะเข้าสู่รอบการลงทุนในปี 2023 แต่จากแนวโน้มที่จะพลิกกลับมาโตสูงในปี 2024 จากการเก็บเกี่ยวประโยชน์ลงทุน จึงเชื่อว่า Forward PE ดังกล่าวยังอยู่ในระดับที่สมเหตุสมผล และยัง Discount จาก Forward PE Band ย้อนหลัง 5 ปี ของกลุ่มอาหารและเครื่องดื่มอยู่

 

บล.เมย์แบงก์ ส่องเป้า AAI 7.37-7.76 บาท
พร้อมเติบโตจากการปรับกลยุทธ์ธุรกิจ


บริษัทหลักทรัพย์เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) เปิดเผยในบทวิเคราะห์หลักทรัพย์ว่า AAI มีศักยภาพเติบโตในระยะยาวด้วยการปรับกลยุทธ์จากการเป็นผู้ร่วมพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้กับลูกค้า ไปเป็นคู่ค้าเชิงกลยุทธ์ ซึ่งจะทำให้รายได้เติบโตอย่างต่อเนื่องภายใต้การวางแผนการผลิตอย่างมีประสิทธิภาพ ประกอบกับการขยายกำลังการผลิตอย่างมีนัยสำคัญรองรับคำสั่งซื้อจากลูกค้าและการขยายตัวของอุตสาหกรรมอาหารสัตว์เลี้ยงจะผลักดันการเติบโตของผลประกอบการ เราคาดการณ์อัตราการเติบโตเฉลี่ยของกำไรในช่วง 3 ปีข้างหน้าที่ 14.3% โดยประเมินราคาเหมาะสมที่ 7.37-7.76 บาท/หุ้น อิง PE23 ที่ 19-20 เท่าซึ่งดีสเคาน์จากบริษัทผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงในต่างประเทศยกระดับจากการเป็นผู้ร่วมพัฒนาผลิตภัณฑ์ไปเป็นคู่ค้าเชิงกลยุทธ์


AAI เป็นหนึ่งในผู้ประกอบธุรกิจชั้นนำของไทยในการรับจ้างผลิตอาหารสัตว์เลี้ยง โดยบริษัทมีแผนจะยกระดับจากการเป็นผู้ร่วมพัฒนาผลิตภัณฑ์ (Co-developer) ให้กับลูกค้าซึ่งเป็นเจ้าของแบรนด์ผลิตภัณฑ์ ไปเป็นคู่ค้าเชิงกลยุทธ์ (Strategic Partners) ซึ่งจะส่งผลให้รายได้ของบริษัทมีการเติบโตอย่างมีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้น โดยเป็นการเติบโตไปพร้อมกับลูกค้า ภายใต้การมีทีมผู้บริหารที่มีประสบการณ์และมีความเชี่ยวชาญในธุรกิจ รวมทั้งทีมวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีความแข็งแกร่ง

บริษัทจะขยายกำลังการผลิตอาหารสัตว์เลี้ยง 95% ตลอดช่วง 4 ปีข้างหน้า เพื่อรองรับกับการเติบโตของตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงตามกระแสความนิยมการเลี้ยงสัตว์เหมือนเป็นสมาชิกครอบครัว (Pet Humanization) ประกอบกับได้ทำสัญญาซื้อขายระยะยาว5 ปี กับลูกค้ารายใหญ่รายหนึ่ง ซึ่งเป็นเจ้าของแบรนด์อาหารสัตว์เลี้ยงที่มีชื่อเสียงในระดับสากล รวมทั้ง เน้นผลิตอาหารสัตว์แบบเปียกและทยอยเพิ่มรายได้ผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ของตนเองซึ่งมีอัตรากำไรสูง เราคาดการณ์อัตราการเติบโตเฉลี่ยของกำไรสุทธิต่อปี (CAGR) ในช่วง 3 ปีข้างหน้าที่ 14.3%


เราประเมินว่า AAI สมควรจะมี PE พรีเมียมเมื่อเทียบกับกลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรมเกษตรและอาหารใน SET ซึ่งผลประกอบการมีความผันผวนสูงตามการเปลี่ยนแปลงของราคาเนื้อสัตว์และสัตว์นำ ขณะที่AAI มีศักยภาพเติบโตอย่างมีเสถียรภาพจากการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพและมีการขยายกำลังการผลิตผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยงซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มเติบโตดี เราจึงประเมินมูลค่า AAI โดยดีสเคาน์จากบริษัทในต่างประเทศซึ่ง ประกอบธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงที่มีฐานลูกค้ากว้างกว่า ซึ่งมี PE23เฉลี่ยที่ 21.4 เท่า โดยอิง PE23 ที่ 19-20 เท่า ได้ราคาเหมาะสม 7.37-7.76 บาท


อนึ่งคำชี้แจงที่สำคัญ : บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) อาจเป็นผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหลักทรัพย์ของ บมจ. เอเชี่ยน อะไลอันซ์อินเตอร์เนชั่นแนล (AAI)

 

 

 


บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ตีมูลค่าเหมาะสมAAI ปี 2566 ที่ 7.50 บาท


บริษัทหลักทรัพย์เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุว่า บริษัท เอเชี่ยน อะไลอันซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) (AAI) จะเสนอขายหุ้นแก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวนไม่เกิน 637.50 ล้านหุ้น (คิดเป็นสัดส่วน 30% ของหุ้นที่ออกและชำระของบริษัทภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญครั้งนี้ มูลค่าที่ตราไว้ 1.0 บาท/หุ้น โดยมีวัตถุประสงค์สำหรับ 1)ลงทุนขยายกำลังการผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงแบบเปียก 2) ลงทุนในคลังสินค้าอัตโนมัติแห่งที่ 2 3) ชำระคืนเงินกู้ระยะสั้น และระยะยาว และ 4) ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนภายในบริษัท ทั้งนี้ บริษัทจะนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ (SET)


หนึ่งในผู้รับจ้างผลิตผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยงประสบการณ์มากกว่า 15 ปีAAI เป็นหนึ่งในผู้รับจ้างผลิตผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยง (Pet Food) และผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมทานบรรจุภาชนะปิดผนึก (Human Food) ชั้นนำของประเทศ โดยมุ่งเน้นการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและมาตรฐานความปลอดภัยมาตลอดการดำเนินธุรกิจมามากกว่า 15 ปี อีกทั้งปัจจุบันมีแผนการยกระดับจากเป็นผู้ร่วมพัฒนาผลิตภัณฑ์ เป็นคู่ค้าเชิงกลยุทธ์เสริมสร้างศักยภาพในระยะยาวเราเห็นถึงศักยภาพในการเติบโตตามธุรกิจของลูกค้าหลัก

ทั้งนี้ บริษัทมียอดขายผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยงและผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมทานบรรจุภาชนะปิดผนึกมาจากการรับจ้างผลิตภายใต้แบรนด์ผลิตภัณฑ์ของลูกค้า (Original Equipment Manufacturer:OEM) ในสัดส่วนมากกว่า 90% ในช่วงปี 2562 ถึง 1H65 โดยบริษัทมีกลุ่มลูกค้าหลัก คือ ลูกค้า เจ้าของแบรนด์ผลิตภัณฑ์ชั้นนำในระดับสากล นอกจากนี้รายได้จากการขายของบริษัทเกือบทั้งหมดมาจากการส่งออกสินค้าไปยังต่างประเทศ โดยประเทศส่งออกหลักของผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยงได้แก่ สหรัฐอเมริกา ประเทศในภูมิภาคยุโรป และญี่ปุ่น ทั้งนี้ อุตสาหกรรมอาหารสัตว์เลี้ยงมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องในประเทศที่พัฒนาแล้ว เนื่องจากความนิยมเลี้ยงสัตว์มากขึ้น ทดแทนการมีลูกที่ลดลง นอกจากนี้ยังมีตลาดใหม่ที่เติบโตในกลุ่มเอเชียแปซิฟิก


คาดกำไรสุทธิปี 2565 - 2566 เติบโตระดับ 22.9% YoY และ 10.5% YoY ตามลำดับ
เราประเมินว่า AAI จะมีกำไรสุทธิในปี 2565 ที่ระดับ 785 ล้านบาท (+22.9% YoY) ขณะที่เราคาดว่าบริษัทจะทำกำไรในปี 2566 ได้ที่ระดับ 868 ล้านบาท (+10.5% YoY) โดยได้แรงหนุนจากยอดขายที่คาดว่า จะปรับตัวสูงขึ้น แม้เราประเมินว่า ความสามารถในการทำกำไรของบริษัทมีโอกาสลดลงจากปี 2564เนื่องจากแรงกดดันทางด้านต้นทุนในช่วงที่อัตราเงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้น


Valuation and action
เราประเมินมูลค่าเหมาะสมปี 2566 สำหรับ AAI ที่ 7.50 บาท ซึ่งคำนวณโดยอิง PE ที่ระดับ 18.3 เท่า ซึ่งถือว่าอนุรักษ์นิยม โดยเป็นส่วนลดราว 15% เมือเทียบกับค่าเฉลี่ยของบริษัทที่ทำธุรกิจใกล้เคียงกับ AAIและมีการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ต่างประเทศคือ Nestle S.A. (สวิสเซอร์แลนด์) ที่มีการซื้อขายที่ระดับค่าเฉลี่ย PE ประมาณ 21.5 เท่าในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา


Risks
ต้นทุนวัตถุดิบหลักจากปลาทูน่าที่อาจมีความผันผวน การพึ่งพิงลูกค้ารายใหญ่ การพึงพิงแรงงานในการผลิต และความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน


----จบ----

 

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

1200 แตก By: แม่มดน้อย

แม่ดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ และแล้ว ดัชนีตลาดหุ้นไทย ก็แตก 1,200 จุด ด้วยพ่อใหญ่อย่าง DELTA แม่ใหญ่ AOT เป็นหัวหอก....

FTI จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผถห.อนุมัติไฟเขียวทุกวาระ จ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น

FTI จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผถห.อนุมัติไฟเขียวทุกวาระ จ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้