สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(18 ตุลาคม 2565)----- บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) หรือ "BTG" ประสบความสำเร็จในการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) พร้อมได้รับกระแสตอบรับที่ดีในการเข้าลงทุนจากนักลงทุนสถาบันทั้งในประเทศและต่างประเทศ ท่ามกลางสภาวการณ์เศรษฐกิจและการลงทุนที่มีความผันผวนสูง ขณะที่นักลงทุนประเภทบุคคลธรรมดาในประเทศไทยให้ความสนใจในการจองซื้อเป็นจำนวนมาก สะท้อนถึงความเชื่อมั่นในปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง รวมถึงศักยภาพในการสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืนของเบทาโกรในฐานะบริษัทอาหารชั้นนำระดับสากล โดยการเสนอขายหุ้น IPO ในครั้งนี้ มีมูลค่าเสนอขายรวม 20,000 ล้านบาท (รวมการจัดสรรหุ้นส่วนเกิน) ที่ราคาเสนอขาย 40.00 บาทต่อหุ้น นับเป็น IPO ของหุ้นในกลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหารที่มีมูลค่าเสนอขายสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ตลาดทุนไทยเท่าที่เคยมีมา และยังมีมูลค่าการเสนอขายสูงที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในปีนี้ โดยคาดว่าหุ้น BTG จะพร้อมเข้าจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเป็นวันแรกในวันที่ 2 พฤศจิกายน 2565 นี้
นายวสิษฐ แต้ไพสิฐพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) หรือ BTG เปิดเผยว่า "ผมและทีมผู้บริหารมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่หุ้น BTG ได้รับความสนใจพร้อมกระแสตอบรับที่ดีจากนักลงทุนสถาบันทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงนักลงทุนประเภทบุคคลธรรมดาในประเทศไทย แม้ว่าสภาวการณ์เศรษฐกิจและการลงทุนในปัจจุบันจะยังคงมีความผันผวนสูง โดยเบทาโกรได้พิจารณาจัดสรรหุ้นส่วนเกินเต็มจำนวนให้แก่นักลงทุนสถาบันทั้งในประเทศและต่างประเทศที่เข้าร่วมการจองซื้อในครั้งนี้ ทางเบทาโกรขอขอบคุณนักลงทุนทุกท่านที่ให้ความไว้วางใจและความเชื่อมั่นในศักยภาพของเบทาโกร เพื่อร่วมสร้างการเติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน"
"การระดมทุนและเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในครั้งนี้ นับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของเบทาโกร ในการมุ่งสู่การเป็นบริษัทจดทะเบียนชั้นนำในกลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหารของประเทศไทย ที่มีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง อีกทั้งยังมีศักยภาพในการสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน เพื่อก้าวสู่การเป็นบริษัทอาหารชั้นนำระดับสากล (World-Class Branded Food Company) ที่มีความแตกต่างและโดดเด่นจากบริษัทจดทะเบียนรายอื่นในอุตสาหกรรมเดียวกัน ด้วยโมเดลธุรกิจแบบครบวงจรครอบคลุมตลอดทั้งห่วงโซ่คุณค่าตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ มีแบรนด์สินค้าและผลิตภัณฑ์ที่เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย ผ่านช่องทางการจัดจำหน่ายที่หลากหลายและครอบคลุมทั้งในประเทศไทยและอีกกว่า 20 ประเทศทั่วโลก ผมและทีมผู้บริหารมีความเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าเบทาโกรจะสามารถสร้างการเติบโตของผลการดำเนินงานในอนาคตได้อย่างแข็งแกร่งและต่อเนื่อง จากแผนการขยายธุรกิจตลอดห่วงโซ่คุณค่าทั้งในประเทศและต่างประเทศ ตลอดจนมุมมองเชิงบวกที่มีต่อโอกาสการเติบโตของอุตสาหกรรมอาหารโดยรวม พร้อมด้วยกระบวนการดำเนินงานที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนการให้ความสำคัญในเรื่องคุณภาพที่ดีกว่าและความปลอดภัยด้านอาหารที่สูงกว่า ในราคาที่เป็นธรรมเพื่อให้ประชาชนและชุมชนมีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น"
การเสนอขายหุ้น IPO ของ BTG ในครั้งนี้มีจำนวนรวมทั้งสิ้น 500 ล้านหุ้น (รวมการจัดสรรหุ้นส่วนเกินเต็มจำนวน) ที่ราคาเสนอขาย 40.00 บาทต่อหุ้น คิดเป็นมูลค่าเสนอขายรวม 20,000 ล้านบาท โดยเบทาโกรวางแผนจะนำเงินที่ได้รับจากการระดมทุนไปต่อยอดความสำเร็จ เพื่อสร้างศักยภาพการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต ได้แก่ (1) การลงทุนเพื่อการเข้าซื้อ และ/หรือก่อสร้างฟาร์มและโรงงานแห่งใหม่ประมาณ 8,000 ล้านบาท (2) การปรับโครงสร้างเงินทุนผ่านการชำระหนี้สินระยะสั้นและ/หรือระยะยาวให้แก่สถาบันการเงินประมาณ 8,960 – 10,500 ล้านบาท และ (3) ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนสำหรับการดำเนินงาน ไม่เกิน 1,021 ล้านบาท
สำหรับผู้ลงทุนที่สนใจร่วมเติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืนไปกับเบทาโกร แต่พลาดโอกาสลงทุนในครั้งนี้ สามารถซื้อหุ้น BTG ได้ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยคาดว่าหุ้น BTG จะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเป็นวันแรกในวันพุธที่ 2 พฤศจิกายน 2565 พร้อมเริ่มทำการรักษาเสถียรภาพของราคาหุ้นในตลาดรอง (Stabilization) เป็นระยะเวลาไม่เกิน 30 วันแรกนับจากวันที่ 2 พฤศจิกายน เพื่อช่วยลดความผันผวนของราคาหุ้นและเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุน ทั้งนี้ ผู้ลงทุนที่สนใจสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ https://www.betagro-investor.com หรือ Email: ir@betagro.com
----จบ---