HotNews: CCP เป้าปี61
รายได้ 2.8 พันลบ.
ดีมานด์คอนกรีตพุ่ง
สำนักข่าวหุ้นอินไซด์( 30 มกราคม 2561)--------CCP เผยปี 61 ตั้งเป้ารายได้ราว 2.8 พันลบ. วางงบลงทุน 50 ลบ. ปรับปรุงเครื่องจักร-พัฒนาผลิตภัณฑ์ มองอุตสาหกรรมคอนกรีตปี 2561 แนวโน้มดี งานรัฐเพิ่ม เอกชนส่งสัญญาณฟื้นตัว ทยอยเปิดโครงการใหม่ ทุ่มงบ 50 ล้านบาท เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ รองรับงานโครงสร้างพื้นฐานและงาน Landscape พร้อมเดินหน้าขยายฐานลูกค้ารายย่อย ส่งผลิตภัณฑ์วางจำหน่ายโมเดิร์นเทรดทั่วประเทศ
นายอาทิตย์ ทีปกรสุขเกษม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ผลิตภัณฑ์คอนกรีตชลบุรี จำกัด (มหาชน) (CCP) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี2561 ไว้ที่ประมาณ 2,800 ล้านบาท โดยสัดส่วนรายได้จะมาจากงานภาครัฐ 70% และภาคเอกชน 30% โดยแผนการดำเนินงานในปีนี้บริษัทยังมุ่งเน้นการเข้ารับงานภาครัฐทุกรูปแบบอย่างต่อเนื่อง พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ให้สามารถรองรับงานโครงสร้างพื้นฐานได้อย่างหลากหลาย ซึ่งในปีนี้บริษัทตั้งงบสำหรับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ปรับปรุงเครื่องจักรเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตไว้ที่ประมาณ 50 ล้านบาท
“ในปีนี้การแข่งขันในเรื่องของราคาน่าจะลดความร้อนแรงลง ทำให้ราคาคอนกรีตผสมเสร็จ (Ready Mixed) ที่ถูกกดดันราคาในช่วงที่ผ่านมา จะเริ่มปรับตัวเข้าสู่ภาวะปกติได้ในช่วงไตรมาส 3/61 ด้านสินค้า Precast ยังคงเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์ ออกสินค้านวัตกรรมใหม่อย่างต่อเนื่อง รองรับงานโครงสร้างพื้นฐาน และงาน Landscape ซึ่งมีความต้องการใช้งานเพิ่มสูงขึ้น ปัจจุบันมีหน่วยงานหลายแห่งเริ่มนำผลิตภัณฑ์ Precast ของบริษัทเข้าไปใช้ในงานด้าน Landscape ในปีนี้บริษัทจะเน้นการทำตลาดผลิตภัณฑ์ในส่วนนี้มากขึ้นด้วยเช่นกัน”นายอาทิตย์กล่าว
นอกจากนี้จะมุ่งเน้นการเปิดตลาดใหม่ เพื่อขยายฐานลูกค้าและกระจายความเสี่ยง รวมทั้งขยายช่องทางการจำหน่ายผลิตภัณฑ์คอนกรีตสำเร็จรูป ผ่านโมเดิร์นเทรด ห้างค้าปลีกวัสดุก่อสร้าง อาทิ ไทวัสดุ เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้ารายย่อยทั่วประเทศ
ทั้งนี้ปัจจุบันบริษัทมี Backlog ประมาณ 2,500 ล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้ในระยะเวลา 1 ปี 6 เดือน แบ่งเป็นการรับรู้รายได้ภายในปีนี้ 60% โดยบริษัทจะทยอยประมูลงานเข้ามาเพิ่มอีกในอนาคต เพื่อรักษาระดับมูลค่างานในมือ (Backlog) ไว้ไม่ต่ำกว่า 2,000 ล้านบาท
นายอาทิตย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์คอนกรีตปีนี้มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น โดยเป็นผลจากการลงทุนงานโครงสร้างพื้นฐานในโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) อาทิ ท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด สนามบินอู่ตะเภา ทยอยเริ่มดำเนินงานก่อสร้างอีกทั้งยังมีโครงการของหน่วยงานภาครัฐในพื้นที่ต่างๆ ที่มีการก่อสร้างอย่างต่อเนื่อง อาทิ งานถนน กำแพงกันดิน อาคารสำนักงาน ขณะที่การลงทุนภาคเอกชน ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ ฟื้นตัวตั้งแต่ไตรมาส 4 ปี 2560 ที่ผ่านมา เริ่มมีการลงทุนเปิดโครงการใหม่มากขึ้น แต่การลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมจะเริ่มลงทุน คาดว่าไตรมาสที่ 3 เป็นต้นไป
พร้อมกันนี้ บริษัทยังเตรียมเปิดตัวสินค้าใหม่ 4-5 รายการคาดทยอยวางตลาดตั้งแต่ไตรมาส 1-3 ในปีนี้
นอกจากนี้ บริษัทได้ทำการศึกษาลงทุนในธุรกิจคลังสินค้าและโลจิสติกส์ โดยคาดว่าจะมีแนวทางชัดเจนมากขึ้นภายในปีนี้
----จบ----