วันที่ 11 เมษายน 2556 พบกับแม่มดน้อยได้ที่ www.hooninside.com รู้ลึกรู้จริงคลุกวงในหุ้นสไตล์กล้วยๆ

        โอมมะลึกกึ๊กกึ๋ยย์ มะลึกกึ๊กกึ๋ยย์มะลึกกึ๊กกึ๋ยย์.........เพี้ยงแม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ พบรอยยิ้ม พิมพ์ใจ ของชาวหุ้น นักลงทุน วานนี้ เช้าวันนี้ SET เด้ง ดุจปล่อยวาง คาบสมุทรเกาหลี ดุเดือด พลัน เฟด ลงมติ ด้วยเสียงส่วนใหญ่เห็นชอบที่จะให้ยืดการใช้มาตรการ QE3/4 เดือนละ 8.5 หมื่นล้านเหรียญฯ ออกไปถึงปลายปีนี้ เท่านั้นแหละ หุ้นย่านเอเชีย เปล่งลำแสงสีเขียว หุ้นไทย ก็พลอย ได้จังหวะดีไปด้วย ทดสอบ แรงซื้อ แรงขาย เป็นระยะๆ เรียกว่า วัดความมั่นใจ ความเชื่อมั่น บริเวณ 1,500 จุด +/- งานนี้ หุ้นกลุ่มแบงก์ สื่อสาร อสังหาฯ เป็นพ่อพระ เป็นพระเอก จนกระทั่งปิดตลาด ดัชนีตลาดอยู่ที่1,509.80 จุด บวก 19.55 จุด คิดเป็น 1.31% มูลค่าการซื้อขาย 23,610.59 ล้านบาท

        ตลาดหุ้นไทย บ่ายวันนี้  แม่มดน้อย เชื่อว่า ชาวหุ้น ยังมีความกังวล หลายเรื่อง ยิ่งมาเจอวันหยุดยาว สงกรานต์เข้าไปอีก คาบสมุทรเกาหลี ก็ต้องคอยเกาะติดข่าวสารตลอดเวลา SET บวกแบบนี้ แค่สุขชั่วคราว? คำถาม คงผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด เอายังไง ดี .....หุ้นเขียวๆ ราคาแรงๆ มันยั่ว มันกระตุ้นต่อมกิเลส นักเล่น นักลงทุนรายย่อย พวกจับเสือมือเปล่า.... สำหรับแม่มดน้อย แล้ว การลุย การเล่น ต้องคิดคำนึงตลอดเวลา แดง ซื้อ เขียว ขาย  มิใช่ แดง ขาย เขียว ซื้อน่ะคร้า.......สำคัญสุด จงเชื่อในสัญชาตญาณตนเอง เป็นการดีที่สุด 555

        พ่อมดน้อย เสือเหลือง  ฝากมาบอก......ช่วงสั้น MBKET เชื่อว่า Downside risk จำกัด จากเม็ดเงินลงทุน Trigger Fund ของ KTAM วงเงิน 3.0 พันล้านบาทปิดการขายวันที่ 9 เม.ย. คาดเงินทุนจะไหลเข้าตลาดหุ้นในวันพรุ่งนี้เป็นอย่างเร็ว ช่วยลดแรงกดดันของ SET INDEX ได้ชั่วคราว ขณะที่ปัจจัยเสี่ยงในสัปดาห์หน้าคือ การอ่านถ้อยแถลงกรณีพื้นที่ทับซ้อนเขาพระวิหารของศาลโลก อาจกลายเป็นจุดสร้างแรงกดดันทางสังคมไทย และเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการลงทุน

        ดินแดน ฟินันเซีย ไซรัส หม้อปรุงยาวิเศษ  มีแผ่นศิลา ติดอยู่ข้างฝา ว่าใครได้-เสียจากเงินบาทแข็งค่า เงินบาทแข็งค่าสุดในรอบ 16 ปีนับตั้งแต่ปี 2540 โดยแข็งค่าอย่างเร็วตั้งแต่ BOJ ผ่อนคลายทางการเงินมากกว่าคาด (เพิ่มปริมาณเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจอีกเท่าตัวภายใน 2 ปีหรือ 60-70 ล้านล้านเยนต่อปี) เมื่อ 4 เม.ย. ซึ่งธปท.ใช้เครื่องมือเข้าไปดูแลแล้วแต่ยังไม่มีมาตรการคุมเงินทุนไหลเข้า เพียงแต่ติดตามอย่างใกล้ชิด ศูนย์วิจัยกสิกรประเมินไว้ว่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นทุกๆ 1% กระทบ GDP ราว 0.1-0.3% ขณะที่เราเชื่อว่าธปท.ไม่น่าออกมาตรการควบคุมเงินร้อนที่ไหลเข้าตลาดหุ้น แต่หากมี ควรควบคุมในตลาดตราสารหนี้มากกว่า

        อย่างไรก็ตาม เงินบาทที่แข็งค่าเป็นบวกกับผู้ที่นำเข้าวัตถุดิบและเครื่องจักรจากต่างประเทศ แต่มีรายได้เป็นเงินบาท หรือมีหนี้เป็นเงินเยน ได้แก่กลุ่มสื่อสาร, เหล็ก, ก่อสร้าง, THAI, AOT ส่วนธุรกิจที่ได้รับผลกระทบเป็นลบได้แก่อุตสาหกรรมยางพารา, เครื่องหนัง, สิ่งทอ, โรงแรม, อาหาร, และ THCOM .......

        เพลานี้ ชาวหุ้น ต้องดูแลตนเอง เพราะนักรบ ขาใหญ่หลายราย พักผ่อน ท่องเที่ยว เมืองนอกไปหมดแล้ว  คนที่อยู่ ก็เตรียมข้าว เตรียมของ พร้อมเดินทาง............

        กด LIKE ให้ UAC  ECF

***การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน***