สรุป ราคาทองคำระหว่างวันแกว่งตัวในกรอบ 1,804.80-1,814.09 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังจากวันศุกร์ที่ผ่านมาปิดเพิ่ม 3.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จากดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐ จาก ISM ดิ่งลงต่ำสุดในรอบ 2 ปี สู่ระดับ 53.0 ในเดือนมิ.ย. สะท้อนกิจกรรมในภาคการผลิตของสหรัฐที่ชะลอตัวลง ขณะที่วันนี้มีปัจจัยบวกจากกองทหารของ ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ใกล้จะยึดเมืองลิซิคานสค์ ฐานที่มั่นสุดท้ายของทัพรัฐบาลเคียฟในแคว้นลูฮันสก์ ทางตะวันออกของยูเครน หลังเพิ่งยึดเมืองซีวีโรโดเนสก์ที่อยู่ใกล้เคียงได้สำเร็จ รวมถึง นายแอนโทนี อัลบาเนซี นายกรัฐมนตรีออสเตรเลียเปิดเผยว่า ออสเตรเลียจะจัดส่งรถหุ้มเกราะเพิ่มอีก 34 คันให้แก่ยูเครน และจะสั่งห้ามนำเข้าทองคำจากรัสเซีย อย่างไรก็ตามผลสำรวจจากธนาคารกลางจีน ระบุว่า ดัชนีชี้วัดความสามารถการทำกำไรภาคธุรกิจจีน ไตรมาส 2/2565 ปรับตัวขึ้น 2% มาอยู่ที่ 51.2 ประกอบกับนักวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์ คาดการใช้จ่ายภาคครัวเรือนจีนจะดีดตัวขึ้น 4.5% ในช่วงครึ่งหลังปี 2565 จากการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด-19 และเศรษฐกิจจีนเริ่มฟื้นตัว ประเด็นเหล่านี้อาจกดดันทองคำได้ คืนนี้ให้ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจฝั่งยุโรป ทั้งดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนพ.ค.และดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนจาก Sentix ด้านตลาดเงิน ตลาดทุน และตลาดทองคำของสหรัฐจะปิดทำการในวันจันทร์ที่ 4 ก.ค. เนื่องในวันชาติสหรัฐ ทั้งนี้บริเวณ 1,797-1,784 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากไม่หลุดแนะนำเสี่ยงเข้าซื้อ เพื่อทำกำไรระยะสั้นจากการแกว่งตัว ทั้งนี้ สามารถทยอยแบ่งปิดสถานะซื้อทำกำไร หากราคาดีดตัวขึ้นไม่ผ่านบริเวณแนวต้าน 1,821-1,834 ดอลลาร์ต่อออนซ์
แนวโน้ม Gold Spot:
หลังจากราคาทิ้งตัวลงแรง ราคามีการดีดตัวกลับขึ้นมา หากรักษาระดับได้ราคามีโอกาสขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 1,821 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แสดงถึงแรงเข้าซื้อในระยะสั้น หากยืนได้แข็งแกร่งมีโอกาสปรับตัวขึ้นไปทดสอบ โดยจะมีแนวต้านถัดไป 1,834 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ระดับสูงสุดวันก่อนหน้า) ขณะที่แนวรับนั้นอยู่ในบริเวณ 1,797-1,784 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (1,784 ดอลลาร์ต่อออนซ์ระดับต่ำสุดของเดือนก.ค.)
กลยุทธ์ Gold Futures:
Long Position ทยอยปิดสถานะซื้อหากราคาดีดตัวขึ้นไม่ผ่านแนวต้านบริเวณ 1,821-1,834 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากหลุด 1,784 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ให้ตัดขาดทุนสถานะซื้อเพื่อลดความเสี่ยง
Short Position ทยอยปิดสถานะขายหากราคาอ่อนตัวลงไม่หลุดแนวรับแรกบริเวณ 1,797-1,784 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากหลุดแนวรับแรกสามารถถือต่อเพื่อรอดูแนวรับถัดไป อย่างไรก็ตาม หากราคาปรับตัวขึ้นผ่าน 1,834 ดอลลาร์ต่อออนซ์ให้ตัดขาดทุน
Open New เสี่ยงเปิดสถานะซื้อหากราคาอ่อนตัวลงมาในโซน 1,797-1,784 ดอลลาร์ต่อออนซ์ พร้อมลดการลงทุนหากราคาหลุด 1,784 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทั้งนี้ อาจพิจารณาแบ่งทองคำออกขายทำกำไรบางส่วนหากราคาทองคำไม่ผ่านแนวต้านที่ 1,821-1,834 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากผ่านได้ถือสถานะซื้อต่อ