คำแนะนำ
พิจารณาโซน 1,821-1,834 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในการเปิดสถานะขาย ควรแบ่งปิดสถานะทำกำไรเพื่อลดความเสี่ยงเมื่อราคาปรับตัวลงเข้าใกล้แนวรับโซน 1,797-1,786 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งควรจะเป็นการเก็งกำไรระยะสั้นเท่านั้น
ทองคำ
แนวรับ 1,797 1,786 1,769
แนวต้าน 1,821 1,834 1,848
ปัจจัยพื้นฐาน
ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวลดลง 10.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดย ราคาทองคำปรับตัวลงก่อนโดยได้รับแรงกดดันจากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)จะเดินหน้าเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ สถานการณ์ดังกล่าวหนุนดัชนีดอลลาร์ให้ทะยานขึ้นทดสอบระดับสูงสุดบริเวณ 105.541 จนกดดันราคาทองคำให้ร่วงลงทดสอบระดับต่ำสุดบริเวณ 1,802.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 6 สัปดาห์ ก่อนที่ราคาทองคำจะทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่งหลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ “แย่เกินคาด” อาทิ ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานที่ลดลงนน้อยกว่าคาดสู่ระดับ 231,000 รายในสัปดาห์ที่แล้วซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 230,000 ราย ขณะที่การใช้จ่ายส่วนบุคคลของผู้บริโภคสหรัฐเพิ่มขึ้นเพียง 0.2% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายเดือน สะท้อนการชะลอตัวของตลาดแรงงานและเศรษฐกิจ ปัจจัยดังกล่าวกดดันดัชนีดอลลาร์ให้กลับมาอ่อนค่าจนหนุนให้ราคาทองคำทะยานขึ้นทดสอบระดับสูงสุดในระหว่างวันบริเวณ 1,824.84 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อย่างไรก็ดี เป็นอีกครั้งที่ราคาทองคำเผชิญกับแรงขายทำกำไร นอกจากนี้ราคาทองคำยังได้รับแรงกดดันจากการดิ่งลงของสินค้าโภคภัณฑ์ในวงกว้าง ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวทางเศรษฐกิจที่อาจกระทบต่อดีมานด์ ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค. ร่วงลง 3.7% ส่วนโลหะเงินปรับตัวลดลง 1.8% สู่ระดับ 20.33 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่แพลตตินั่มลดลง 2.1% สู่ระดับ 897.90 ดอลลาร์และพลาเดียมลดลง 1.3% สู่ระดับ 1,936.07 ดอลลาร์ นั่นทำให้ราคาทองคำร่วงลงมาปิดตลาดในแดนลบ ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำลดลง -2.32 ตัน สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยดัชนี PMI ภาคการผลิตของสหรัฐ
ปัจจัยทางเทคนิค
แม้ราคาทองคำมีการฟื้นตัวขึ้นหลังจากทิ้งตัวลงวานนี้ แต่ระยะสั้นหากราคาไม่สามารถผ่านแนวต้าน 1,821-1,834 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ อาจจะเกิดแรงขายกดดันให้ราคาลงมาเพื่อสะสมแรงซื้อในโซน 1,800-1,797 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากยืนไม่ได้ราคาอาจอ่อนตัวลงทดสอบแนวรับถัดไปโซน 1,786 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ระดับต่ำสุดของเดือน พ.ค.
กลยุทธ์การลงทุน
หาจังหวะเปิดสถานะขาย หากราคาปรับตัวขึ้นไม่ผ่านโซนแนวต้าน 1,821-1,834 ดอลลาร์ต่อออนซ์ พร้อมลดสถานะขายลง หากราคาผ่านแนวต้านโซน 1,834 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทั้งนี้ อาจทยอยแบ่งปิดสถานะซื้อ หากราคาอ่อนตัวลงไม่หลุดแนวรับโซนที่ 1,797-1,786 ดอลลาร์ต่อออนซ์
นักวิเคราะห์: วรุต รุ่งขำ
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านสัญญาซื้อขายล่วงหน้า
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยทางเทคนิค
เลขทะเบียน: 040068