Today’s NEWS FEED

News Feed

HotNews: งบแบงก์ปี60 กำไรรูด6.75% เหตุแบกตั้งสำรองหนี้ฯพุ่ง

1,227

 
 
 
 
 
 
 
 
HotNews:  งบแบงก์ปี60 
กำไรรูด6.75%
เหตุแบกตั้งสำรองหนี้ฯพุ่ง

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์( 22  มกราคม  2561)-------- ผู้สื่อข่าวหุ้นอินไซด์ สำรวจผลประกอบการปี2560  กลุ่มแบงก์ทั้ง 11  แห่ง  พบว่าในปี 2560 มีกำไรสุทธิรวมกัน 1.86 แสนล้านบาท   ลดลง 6.75%    เมื่อเทียบกับปี 2559  ที่มีกำไรสุทธิ 2  แสนล้านบาท   สาเหตุหลักๆ  มาจากการตั้งสำรองฯ ที่เพิ่มขึ้น  โดยเฉพาะแบงก์ใหญ่ KBANK กำไรวูบ14.53%   SCB กำไรลดลง 9.39%  ขณะที่ KTB  กำไรทรุดหนักสุด 30.52%  หลังตั้งสำรองสูงถึง 1.14 หมื่นลบ.  
  ส่วนแบงก์เล็ก CIMBT ผลงานแจ๋ว โชว์งบปี60 พลิกกำไร 384.89ลบ.   จากปีก่อนขาดทุน  629.52  ล้านบาท   เหตุรายได้พุ่ง -ตั้งสำรองลดลง ส่วน NPL ลดเหลือ 4.8%

  ***ตารางแสดงผลประกอบการ ธนาคารพาณิชย์  11 แห่ง ***

      ปี60(ลบ.)   ปี59(ลบ.)   เพิ่มขึ้น /ลบ.   หรือ/%
ลำดับ                  
1 KBANK   34,338.00   40,174.00   -5,836.00   -14.53%
2 SCB   43,151.00   47,612.00   -4,461.00   -9.37%
3 BBL   33,008.00   31,814.00   1,194.00   3.75%
4 BAY   23,209.00   21,404.00   1,805.00   8.43%
5 KTB   22,445.00   32,304.00   -9,859.00   -30.52%
6 TMB   8,686.00   8,226.00   460.00   5.59%
7 TISCO   6,090.00   5,005.00   1,085.00   21.68%
8 KKP   5,736.00   5,546.00   190.00   3.43%
9 TCAP   7,001.00   6,012.00   989.00   16.45%
10 CIMBT   384.89   -629.52   1,014.41   -161.14%
11 LHBANK   2,603.00   2,696.00   -93.00   -3.45%
  รวม   186,651.89   200,163.48   -13,512   -6.75%
                   





  บิ๊กKBANK แจงปี60กำไรวูบ14.53% เหตุตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญเพิ่มขึ้น

นายปรีดี ดาวฉาย กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทยKBANK เปิดเผยว่า ธนาคารกสิกรไทยประกาศผลการดำเนินงานสำหรับปี 2560 โดยธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิจำนวน 34,338 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 14.53%
ผลการดำเนินงานสำหรับปี 2560 เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2559 ธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรจากการดำเนินงานก่อนหักหนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญและภาษีเงินได้จำนวน 90,484 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนจำนวน 935 ล้านบาทหรือ 1.05% ส่วนใหญ่เกิดจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้นจำนวน 4,483 ล้านบาท หรือ 5.00% โดยมีอัตราผลตอบแทนสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้สุทธิ (Net interest margin: NIM) อยู่ที่ระดับ 3.44% สำหรับรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยลดลงจำนวน 1,030 ล้านบาท หรือ 1.62% ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากรายได้สุทธิจากการรับประกันภัยลดลง ในขณะที่รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิเพิ่มขึ้นจำนวน 2,363 ล้านบาท หรือ 6.07% นอกจากนี้ ค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานอื่น ๆเพิ่มขึ้นจำนวน 2,518 ล้านบาท หรือ 3.94% ส่งผลให้อัตราส่วนค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานอื่น ๆ ต่อรายได้จากการดำเนินงานสุทธิ (Cost to income ratio) อยู่ที่ระดับ 42.31%
โดยในช่วงปี 2560 ธนาคารมีการตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญเพิ่มขึ้น เพื่อดำรงสถานะทางการเงินที่มั่นคงอย่างต่อเนื่อง ทำให้อัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพ (Coverage ratio)ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2560 ปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 148.45% ขณะที่สิ้นปี 2559 อยู่ที่ระดับ 130.92% ทำให้กำไรสุทธิในปี 2560 มีจำนวน 34,338 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนจำนวน 5,836 ล้านบาท หรือ 14.53%



SCB เผยกำไรปี 60 ลดลง 9.4% จากปี 59 หลังตั้งสำรองฯเพิ่ม  -NPL เพิ่ม

        ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) ประกาศผลประกอบการปี 2560 โดยธนาคารและบริษัทย่อย มีกำไรสุทธิ จำนวน 43,152 ล้านบาท ลดลง 9.4% จากจำนวน 47,612 ล้านบาท ในปี 2559 เป็นผลมาจากการตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญเพิ่มขึ้น โดยพิจารณาถึงหลักความระมัดระวัง รวมถึงจากการคาดการณ์ความสูญเสียที่อาจจะเกิดขึ้นตามหลักเกณฑ์ทางบัญชีที่จะมีผลบังคับใช้ในปี 2562 รวมทั้งค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้น 11.6% ส่วนใหญ่จากการลงทุนทางด้านเทคโนโลยีและการขยายฐานลูกค้าในช่องทางดิจิทัลของธนาคาร
          สำหรับรายได้รวมของธนาคารเพิ่มขึ้น 2.2% จากปีก่อน จากการเติบโตของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ 4.4% และการเพิ่มขึ้นของรายได้ค่าธรรมเนียมสุทธิ 6.7% และการเพิ่มขึ้นของกำไรจากธุรกรรมเพื่อค้าและปริวรรตเงินตราต่างประเทศ 5.6% ขณะที่รายได้สุทธิจากการรับประกันภัยลดลง 49.5% และกำไรจากเงินลงทุนลดลง 36.5% 
          ด้านอัตราส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ในปี 2560 อยู่ที่ 2.83% เพิ่มขึ้นจาก 2.67% ในปี 2559 ซึ่งเป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของสินเชื่อด้อยคุณภาพของธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม และสินเชื่อเคหะ ที่ผู้กู้เป็นผู้ประกอบการรายย่อย (Self employed) ขณะที่สินเชื่อด้อยคุณภาพของธุรกิจขนาดใหญ่ปรับตัวลดลง 
          ทั้งนี้ ธนาคารได้ตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญจำนวน 25,067 ล้านบาท หรือ 1.26% ของสินเชื่อรวมในปี 2560 ซึ่งเป็นการตั้งสำรองหนี้สูญพิเศษจำนวน 5,000 ล้านบาท ส่งผลให้อัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพปรับตัวดีขึ้นเป็น 137.3% ณ สิ้นปี 2560 จาก 134.3% ณ สิ้นปี 2559
  

 BBLแจงงบปี60 กำไรโต3.8% เหตุค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานลดลง 3.1%

รายงานข่าวจากธนาคาร กรุงเทพ จำกัด(มหาชน)BBL แจ้งว่า ในปี 2560 เศรษฐกิจไทยขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยสนับสนุนหลักจากภาคการส่งออกและการท่องเที่ยวที่ขยายตัวดีขึ้น สอดคล้องกับอุปสงค์จากต่างประเทศที่ฟื้นตัวขึ้น ตามเศรษฐกิจโลกที่ขยายตัวในอัตราดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ ในช่วงเวลาที่มีการดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารกลางหลักของโลกที่แตกต่างกันและความไม่แน่นอนทางด้านการเมืองของประเทศคู่ค้าสำคัญ อาจส่งผลให้เกิดความผันผวนทางด้านการเงินและการค้าโลกได้
ธนาคาร จึงยังคงแนวทางการบริหารฐานะการเงินด้วยความรอบคอบและระมัดระวัง พร้อมทั้งรักษาสภาพคล่องและเงินกองทุนให้อยู่ในระดับที่สามารถรองรับการขยายธุรกิจในอนาคตและความไม่แน่นอนที่อาจจะเกิดขึ้นเพื่อให้ธนาคารมีเสถียรภาพทางการเงินที่ยั่งยืน
ธนาคารกรุงเทพและบริษัทย่อย มีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิสำหรับปี 2560 จำนวน 66,625 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.1 เทียบกับปี 2559 และส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิอยู่ที่ร้อยละ 2.32 สำหรับรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยมีจำนวน 45,843 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.5
สาเหตุหลักจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิและ กำไรสุทธิจากเงินลงทุน รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิเพิ่มขึ้นส่วนใหญ่จากค่าธรรมเนียมจากบริการประกันผ่านธนาคารและบริการกองทุนรวมและค่าธรรมเนียมจากการอำนวยสินเชื่อ
สำหรับค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานมีจำนวน 48,948 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 3.1 ทำให้อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้จากการดำเนินงานอยู่ที่ร้อยละ 43.5 ส่งผลให้กำไรสุทธิ (ส่วนที่เป็นของธนาคาร) สำหรับปี 2560มีจำนวน 33,009 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.8 จากปีก่อน


KTB แจงปี 60 กำไรทรุด 30.59% เหตุตั้งสำรองสูงถึง 1.14 หมื่นลบ. 


  สำนักข่าวหุ้นอินไซด์( 22  มกราคม  2561)--------นายผยง ศรีวณิช  กรรมการผู้จัดการใหญ่  ?ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB เปิดเผยว่าปี 2560 ธนาคารกรุงไทยและบริษัทย่อยมีกำไรจากการดำเนินงาน 73,746 ล้านบาท ใกล้เคียงกับปีก่อน จากรายได้ค่าธรรมเนียมสุทธิที่เพิ่มขึ้น 8.98% และค่าใช้จ่ายลดลง โดยมีกำไรสุทธิ 24,116 ล้านบาท เหตุจากการตั้งสำรองที่เพิ่มขึ้น เพื่อคงสัดส่วน Coverage Ratio ที่เหมาะสมและเตรียมรองรับมาตรฐานการบัญชีสากล ตั้งเป้า ปี 61 สินเชื่อเติบโต 6-7% พร้อมขยายบริการด้าน Digital Banking  ก้าวสู่ Future Banking สอดคล้องกับนโยบายรัฐในโครงการ National e-Payment
ธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรจากการดำเนินงาน (ก่อนสำรองหนี้สูญ หนี้สงสัยจะสูญฯ และภาษีเงินได้) อยู่ที่ 73,746 ล้านบาท ลดลง 0.42% จากปีก่อน โดยรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิ เพิ่มขึ้น 8.98% จากธุรกิจบัตร ธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ และผลิตภัณฑ์ Bancassurance รายได้ดอกเบี้ยสุทธิที่ลดลงเล็กน้อยที่ 1.37% จากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินให้สินเชื่อลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR) ลง 0.50% ต่อปี ในช่วงกลางเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา และค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานอื่นๆ ลดลง 2.42% จากการเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน
ปี 2560 ธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิรวม 24,116 ล้านบาท ลดลง 28.15% จากปีก่อน  จากการตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญ เพิ่มขึ้น 11,404 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น  34.11% จากปีที่ผ่านมา เพื่อรักษาระดับของอัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพ (Coverage Ratio) อยู่ที่ 121.71% รวมทั้งเพื่อเตรียมความพร้อมรองรับมาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับใหม่ (IFRS 9) ที่จะมีการบังคับใช้ในอนาคต
อย่างไรก็ตาม ธนาคารมีนโยบายการบริหารต้นทุนทางการเงินอย่างต่อเนื่อง ส่งให้อัตราผลตอบแทนสุทธิต่อสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้ (Net Interest Margin : NIM) อยู่ที่ 3.23% ลดลงเล็กน้อยจาก 3.30% ของปีก่อน ขณะที่ธนาคารและบริษัทย่อยมีเงินให้สินเชื่อแก่ลูกหนี้ (หลังหักรายได้รอตัดบัญชี) อยู่ที่ 1,938,082 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.79% จากปีก่อน ตามนโยบายมุ่งเน้นสินเชื่อที่มีคุณภาพของธนาคาร  ส่วนใหญ่เพิ่มขึ้นจากลูกค้าสินเชื่อรัฐ
      ณ สิ้นปี อัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPLs gross) อยู่ที่ 4.19% เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากสิ้นปีก่อนที่ 3.97% โดยธนาคารมีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง และระดับเงินกองทุนที่เพียงพอในการรองรับความผันผวนที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต

TMB  ปี60 กำไรโต 6%  -NPL  ลดลงจาก 2.53% มาอยู่ที่ 2.35% 


          นายปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน)TMB  เปิดเผยว่า โดยรวม ธนาคารมีรายได้จากการดำเนินงานทั้งสิ้น 37,439 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% จากปี 2559 ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานอยู่ที่ 17,792 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% จากค่าใช้จ่ายด้านการตลาดและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการขยายตัวทางธุรกิจเป็นหลัก ทำให้ธนาคารมีกำไรจากการดำเนินงานก่อนหักสำรองฯ อยู่ที่ 19,736 ล้านบาท ปรับตัวดีขึ้น 6% ซึ่งเอื้อให้ธนาคารสามารถเพิ่มระดับการรองรับความเสี่ยง ด้วยการตั้งสำรองฯ สูงขึ้น แม้ NPL จะลดลงอย่างต่อเนื่องก็ตาม 
          ในปี 2560 ธนาคารตั้งสำรองฯ เป็นจำนวน 8,915 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% จากปีก่อนหน้า ทำให้อัตราส่วนสำรองฯ ต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพ (Coverage ratio) อยู่ในระดับสูงที่ 143% ขณะที่ NPL หรือสินเชื่อด้อยคุณภาพจะลดลงเป็นจำนวน 84 ล้านบาท มาอยู่ที่ 17,521 ล้านบาท ทำให้สัดส่วน NPL หรือ NPL ratio ลดลงจาก 2.53% มาอยู่ที่ 2.35% ซึ่งหลังหักสำรองฯ และภาษี ธนาคารมีกำไรสุทธิเป็นจำนวน 8,687 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% จากปีก่อนหน้า 
   

 TISCO  ปี 60  อวดกำไรพุ่ง 21.7%
นายสุทัศน์ เรืองมานะมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มทิสโก้ (TISCO) เปิดเผยว่าผลการดำเนินงานของกลุ่มทิสโก้ในปี 2560 สามารถสร้างผลงานในระดับที่ดีอย่างต่อเนื่อง โดยมีกำไรสุทธิจำนวน 6,090 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,084 ล้านบาท หรือ 21.7% เมื่อเทียบกับปี 2559
"กลุ่มทิสโก้มีรายได้จากการปล่อยสินเชื่อและค่าธรรมเนียมที่เพิ่มขึ้น ค่าใช้จ่ายตั้งสำรองหนี้สูญที่ลดลง ขณะที่อัตราส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ต่อสินเชื่อรวม (NPL Ratio) ลดลงอย่างต่อเนื่อง และยังมีรายการพิเศษจากความสำเร็จในการรับโอนธุรกิจรายย่อยจาก SCBT เข้ามา ส่งผลให้พอร์ตสินเชื่อของกลุ่มทิสโก้เพิ่มขึ้น 11.8% และเงินฝากเพิ่มขึ้น 16.9% ขณะเดียวกันการเติบโตของสินเชื่อรายย่อยผ่าน "สมหวัง เงินสั่งได้" ยังมีการเติบโตอย่างรวดเร็วมาก หรือเติบโตสูงถึง 41.9% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว และในปีนี้เราจะเดินหน้าขยายการเติบโตต่อผ่านการเพิ่มจำนวนสาขาของสมหวัง เงินสั่งได้ให้เป็น 250 แห่ง จาก 200 แห่ง ในปีที่ผ่านมา"
ทั้งนี้ บริษัทคาดผลประกอบการปี2561 ปรับตัวดีขึ้นจากปีก่อนตามรวมภาพเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว โดยตั้งเป้าสินเชื่อปี 2561 เติบโต 0-5% จากปีก่อนเติบโตราว 11% พร้อมรักษาหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ในปีนี้อยู่ในระดับไม่เกิน 2.3% โดยการตั้งสำรองหนี้คาดว่าจะปรับตัวลดลงและไม่ได้รับผลกระทบจากมาตรฐานบัญชีใหม่
 
KKP  ระบุปี 60 มีกำไรสุทธิ 5.7 พันลบ. โต 3.4% หลังสินเชื่อโต 9.3%  

ธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) หรือ KKP รายงานผลดำเนินงานปี 60 ธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิไม่รวมส่วนของผู้ถือหุ้นส่วนน้อยเท่ากับ 5,737 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.4 เมื่อเทียบกับกำไรสุทธิจำนวน 5,547 ล้านบาทในปี 2559 โดยเป็นกำไรสุทธิของธุรกิจตลาดทุน โดยบริษัท ทุนภัทร จากัด (มหาชน) และบริษัทย่อย ได้แก่ บล.ภัทร และ บลจ.ภัทร จำนวน 895 ล้านบาท
สินเชื่อของธนาคารในปี 2560 มีการขยายตัวที่ร้อยละ 9.3 เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2559 หลังจากที่มีการหดตัว 3 ปีต่อเนื่องในปี 2557 - 2559 โดยสินเชื่อมีการขยายตัวในเกือบทุกประเภท ยกเว้นสินเชื่อเช่าซื้อที่ยังคงมีการหดตัว ทั้งนี้สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยขยายตัวที่ร้อยละ 204.8 สินเชื่อ Micro SMEs ซึ่งรวมสินเชื่อ SME Car3x ขยายตัวที่ร้อยละ 83.9 สินเชื่อบุคคลขยายตัวที่ร้อยละ 35.5 สินเชื่อบรรษัทมีการขยายตัวที่ร้อยละ 129.7 สินเชื่อ Lombard ขยายตัวที่ร้อยละ 62.2 สินเชื่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มีการขยายตัวที่ร้อยละ 10.4 ในขณะที่สินเชื่อเช่าซื้อยังคงหดตัวที่ร้อยละ 8.1 เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2559
ส่วนการตั้งสำรองต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพ (Coverage Ratio) อยู่ที่ร้อยละ 109.8 ใกล้เคียงกับ ณ สิ้นปี 2559 ที่อยู่ที่ร้อยละ 110.1



 "สมเจตน์"  บิ๊ก ธ.ธนชาต   เผยปี60 สินเชื่อโต 3% กำไรสุทธินิวไฮ

  นายสมเจตน์ หมู่ศิริเลิศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ในปี 2560 สินเชื่อของธนาคารได้ปรับเพิ่มขึ้น 3% จากปีก่อน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากการขยายตัวของสินเชื่อเช่าซื้อถึง 7% ในขณะที่กำไรสุทธิของธนาคารธนชาตและบริษัทย่อยสำหรับปี 2560 มีจำนวน 13,810 ล้านบาท เพิ่มขึ้น11% จากปีก่อน และเติบโตต่อเนื่อง 3 ปีซ้อนหรือ 12 ไตรมาสติดต่อกัน และจากความสามารถในการรักษาคุณภาพสินทรัพย์โดยรวมได้เป็นอย่างดี ส่งผลให้ NPL Ratio ของ ธนาคารและบริษัทย่อยใกล้เคียงกับปีก่อนอยู่ที่ 2.3% ท่ามกลางการเติบโตของสินเชื่อส่วนเงินกองทุนของธนาคารยังคงอยู่ในระดับสูงโดยเงินกองทุนชั้นที่ 1 (Tier I) ปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 14.8% จาก 13.3% เมื่อสิ้นปีก่อน และมีเงินกองทุนทั้งหมดต่อสินทรัพย์เสี่ยง (CAR) ที่ 18.9%”
 
 

  CIMBT แจงงบปี60 พลิกกำไร 384.89ลบ. เหตุ รายได้พุ่ง -ตั้งสำรองลดลง ส่วน NPL ลดเหลือ 4.8%

นาย กิตติพันธ์ อนุตรโสตถิ   กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคาร ซีเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) CIMBT เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของกลุ่มธนาคาร สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2560 มีกำไรสุทธิจำนวน 384.9 ล้านบาท สาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการดำเนินงานร้อยละ 1.8 และการลดลงของสำรองหนี้สงสัยจะสูญร้อยละ 19.5 ในขณะที่ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ร้อยละ 2.6 เมื่อเปรียบเทียบผลการดำเนินงานสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2560 และ 2559 รายได้จากการดำเนินงานปี 2560 จำนวน 13,154.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2559 จำนวน 226.6 ล้านบาท หรือร้อยละ 18.9 ซึ่งเกิดจากค่าธรรมเนียมจากการจัดจำหน่ายหน่วยลงทุน รายได้ค่าธรรมเนียมจากการเป็นที่ปรึกษาทางการเงินและรายได้ธุรกรรมเช่าซื้อและการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิจำนวน 336.7 ล้านบาท หรือร้อยละ 3.4 เป็นผลจากการลดลงของค่าใช้จ่าย ดอกเบี้ยร้อยละ 9.4 สุทธิกับการลดลงของรายได้จากการดำเนินงานอื่นจำนวน 418.9 ล้านบาท หรือร้อยละ 29.4 สาเหตุหลักจากการลดลงของกำไรสุทธิจากเงินลงทุน
ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2560 เพิ่มขึ้นจำนวน 189.4 ล้านบาทหรือร้อยละ 2.6 เมื่อเทียบกับปี 2559 สาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานอื่นและค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับพนักงานสุทธิกับการลดลงของค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับอาคารสถานที่ อัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานต่อรายได้จากการดำเนินงานสำหรับปี 2560 อยู่ที่ร้อยละ 57.9 ในขณะที่ปี 2559 อยู่ที่ร้อยละ 57.4
อัตราส่วนรายได้ดอกเบี้ยสุทธิต่อสินทรัพย์เฉลี่ย (Net Interest Margin - NIM) อยู่ที่ร้อยละ 3.89 สำหรับปี 2560 ในขณะที่ปี 2559 อยู่ที่ร้อยละ 3.77 เป็นผลจากการบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น
สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) อยู่ที่ 10.7 พันล้านบาท อัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ต่อเงินให้สินเชื่อทั้งสิ้น (NPL ratio) อยู่ที่ร้อยละ 4.8 ลดลงเมื่อเทียบกับ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2559 อยู่ที่ร้อยละ 6.1 สาเหตุหลักจากการขายสินเชื่อด้อยคุณภาพในปี 2560 ประกอบกับธนาคารมีมาตรการบริหารจัดการความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพ และบริหารคุณภาพสินทรัพย์รวมถึงการปรับปรุงกระบวนการในการเรียกเก็บหนี้ที่มีอยู่
อัตราส่วนเงินสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพ ร วันที่ 31 ธันวาคม 2560 อยู่ที่ร้อยละ 93.2 เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2559 วึ่งอยู่ที่ร้อยละ 77.3 ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2560 เงินสำรองของธนาคารและบริษัทย่อยอยู่ที่จำนวน 9.9 พันล้านบาท ซึ่งเป็นสำรองส่วนเกินตามเกณฑ์ธนาคารแห่งประเทสไทยจำนวน 3.7 พันล้านบาท

LHBANK แจงงบปี60 กำไรวูบ 3.4% จากปีก่อน เหตุรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยสุทธิที่ลดลง28.8%

บริษัท แอล เอช ไฟแนนซ์เชียล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) LHBANK เปิดเผยว่า  ผลการดำเนินงานของบริษัทและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิไตรมาสที่ 4/2560 จำนวน 729.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 16.8 เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 4 ของปี 2559 เป็นผลจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.3
ผลการดำเนินงานของบริษัทและบริษัทย่อยประจำปี 2560 มีกำไรสุทธิจำนวน 2,603.4 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 3.4 เมื่อเทียบกับปี 2559 ที่มีจำนวน 2,696.4 ล้านบาท เป็นผลจากรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยสุทธิที่ลดลงร้อยละ 28.8 และการตั้งสำรองหนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญ ลดลงร้อยละ 39.8 เนื่องจากธนาคารได้กันเงินสำรองไว้อย่างเพียงพอ ดังเห็นได้จากสัดส่วนเงินสำรองพึงมีต่อเงินสำรองพึงกันอยู่ในสัดส่วนที่สูงที่ร้อยละ 186.08 กำไรต่อหุ้น สำหรับงวดไตรมาสที่ 4 และสำหรับปี 2560 เท่ากับ 0.03 บาทต่อหุ้น และ 0.15 บาทต่อหุ้น ตามลำดับ
---จบ---

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

GUNKUL ลุยขยายพอร์ตพลังงานทดแทน

GUNKUL ลุยขยายพอร์ตพลังงานทดแทน

ติดตาม By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ หลังจาก นายกฯคุยกับนายแบงก์ วันนี้ สมาคมธนาคารไทย ก็ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยลูกค้ารายย่อย...

มัลติมีเดีย

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้