วันพุธที่ผ่านมา ดัชนีเคลื่อนไหวในแดนบวกเป็นส่วนใหญ่ มีความผันผวนในช่วงบ่าย จาก +8ถึง+9จุด ดัชนีลดช่วงบวกจนดัชนีทรงตัว แรงซื้อเด่นในกลุ่มการแพทย์ ส่วนกลุ่มไอซีทีและธนาคาร เผชิญแรงขาย ตลาดยังขาดปัจจัยบวกใหม่ กังวลการคุมเข้มนโยบายการเงิน และ นักลงทุนติดตามการเปิดเผยรายงานการประชุม (FOMC) ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,625.18 จุด -1.05 จุด -0.06% มูลค่าการซื้อขาย 68,005 ลบ. ต่างชาติ +90.00 ลบ. TFEX +4,348 สัญญา ตราสารหนี้+2,979.92 ลบ
ปัจจัยบวก
+ ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 191.66 จุด +0.60% หลังจากรายงานการประชุมเดือนพ.ค.ของเฟด บ่งชี้ว่า กรรมการเฟดทุกคนเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีความแข็งแกร่ง ซึ่งจะท าให้เฟดสามารถใช้นโยบายคุมเข้มทางการเงินเพื่อสกัดเงินเฟ้อได้โดยไม่ทำให้เศรษฐกิจถดถอย
+ สัญญาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 56 เซนต์ +0.5% ปิดที่110.33 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบ ลดลงมากกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้วนอกจากนี้ ตลาดยังได้แรง หนุนจากการคาดการณ์ความต้องการใช้น้ำมันในสหรัฐจะเพิ่มขึ้นในช่วงฤดูการเดินทางท่องเที่ยว
+ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานการประชุมประจำวันที่ 3-4 พ.ค.ว่า กรรมการเฟดพร้อมปรับขึ้นอัตรา ดอกเบี้ยอีก 0.50% ในการประชุมเดือนมิ.ย.และเดือนก.ค. เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่เกิดจากเงินเฟ้อ เผยแผนทยอยปรับลดขนาดงบดุล (QT) จะเริ่มดำเนินการตั้งแต่เดือนมิ.ย.
+ สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ เช่นเครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งาน ตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป เพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนเม.ย. หลังจากเพิ่มขึ้น0.6% ในเดือนมี.ค.
+ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เปิดเผยว่า ผลการจัดเก็บรายได้รัฐบาลสุทธิในช่วง 7 เดือนแรกของปีงบประมาณ 65 (ต.ค.64-เม.ย.65) รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิจำนวน 1.27 ล้านล้านบาทสูงกว่าประมาณการ 45,804 ล้านบาท หรือ 3.7%
+ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) หรือ EEC โชว์ 4 ปี ขับเคลื่อน EEC ดึงทุนต่างชาติ 1.7 ล้านล้านบาทได้เร็วกว่ากำหนดที่ 5 ปี เดินหน้าเฟส2 ปี 65-69 ลงทุนอีก 2.2 ล้านล้านบาท
+ ครม. มีมติเห็นชอบเพิ่มจำนวนสิทธิโครงการเราเที่ยวด้วยกันเฟส 4 อีก 1.5 ล้านสิทธิ ขยายเวลาใช้สิทธิถึง 30 ก.ย.
ปัจจัยลบ
+/- ศบค.รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่รวม4,924 ราย ATK 6,344 ราย มีผู้เสียชีวิต 37 รายรักษาหาย 5,560 ราย
- สหรัฐ เปิดเผยจำนวนผู้ยื่นขอสินเชื่อเพื่อการจ านองลดลง 1.2% ในสัปดาห์ที่แล้ว โดยได้รับผลกระทบจากอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองที่ยังคงอยู่ในระดับสูง
- สำนักงานข่าวกรองต่างประเทศของรัสเซีย (SVR)ออกแถลงการณ์ระบุว่า สหรัฐระดมสมาชิกจากองค์กรก่อการร้ายระหว่างประเทศ ซึ่งรวมถึงกลุ่มรัฐอิสลาม (IS)เพื่อเป็นทหารรับจ้างเข้าทำการสู้รบในยูเครน
- ซิมบับเวเปิดเผยว่า อัตราเงินเฟ้อพุ่งขึ้นสู่ระดับ131.7% ในเดือนพ.ค. ขณะที่ราคาอาหาร ซึ่งรวมถึงขนมปังและน้ำมันปรุงอาหารต่างทะยานขึ้น หลังเกิดสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน
- การจดทะเบียนธุรกิจประจำเดือน เม.ย.65 ว่า มีผู้ประกอบธุรกิจยื่นขอจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนบริษัทใหม่ทั่วประเทศ 5,376 ราย ลดลง 25%MoM และลดลง 10%YoY
แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยมีโอกาส Rebound ระยะสั้น หลังเฟดเชื่อมั่นว่าจะสามารถใช้นโยบายคุมเข้มทางการเงินเพื่อสกัดเงินเฟ้อได้โดยไม่ทำให้เศรษฐกิจถดถอย ขณะที่ปัจจัยใหม่ในประเทศ ยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ากระทบตลาด คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,620-1,637 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
• ศบค. มีมติปรับลดพื้นที่สีหรือแบ่งโซนในการควบคุมโรคโควิด : AOT AAV BA BEM ERW CENTEL MINTAWC ASAP
• MSCI ประกาศหุ้นเข้า/ออก มีผลวันที่ 31 พ.ค. MSCI Global Standard Index : เข้า JMT ออก STGTMSCI Global Small Cap : เข้า ASK BYD DITTO FORTH KEX PSG SABUY STGT,STARK VIBHA ออกEASTW JMT
• FTSE ประกาศหุ้นเข้า/ออก มีผลวันที่ 17 มิ.ย. FTSE All World Index : เข้า – ออก - , Micro Cap Indexเข้า BRI CIVIL HENG KTBSTMR PEACE SVT TKC TFM WFX ออก -