สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(26พฤษภาคม 2565)----บริษัท มาสเตอร์ แอด จำกัด (มหาชน)MACO เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานวันที่ 01 เม.ย. 2564 ถึงวันที่ 31 มี.ค. 2565
ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจทั่วโลกได้รับผลกระทบจากความไม่แน่นอนของการแพร่ระบาดของ COMID-19 ส่งผลให้ธุรกิจและกิจกรรมต่างๆ ต้องหยุดชะงักจากมาตรการล็อก ดาวน์และข้อจํากัดต่างในการใช้ชีวิตประจําวัน เช่นเดียวกับธุรกิจสื่อโฆษณาของ MAC0 ที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตการณ์ดังกล่าว ที่ทําให้บริษัทฯ รับรู้ผลขาดทุนจากการ ดําเนินงานอย่างเห็นได้ชัดในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ด้วยเหตุนี้ MACO จึงตัดสินใจจําหน่ายสินทรัพย์และเงินลงทุนของบริษัทฯ ดังต่อไปนี้
1) ป้ายโฆษณาประเภทบิลบอร์ดในประเทศทั้งหมด รวมถึงการจําหน่ายหุ้นสามัญทั้งหมด 100.0% ในบริษัท มัลติ ไซน์ จํากัด (“MTS") และบริษัท โคแมส จํากัด (“Comass")
2) จําหน่ายหุ้นสามัญทั้งหมด 75.0% ใน VGI Global Media Malaysia Sdn. Bhd. (“VGIM”) ส่งผลให้ผลประกอบการของบริษัทฯ ที่มาจากผลการดําเนินงานของสื่อโฆษณาในประเทศผ่านการบริหารจัดการโดย MTS และ Cormass รวมถึงผลการดําเนินงานของสื่อโฆษณาใน ต่างประเทศผ่านการบริหารจัดการโดย VGIM ถูกปรับปรุงออกจากงบกําไรขาดทุนของบริษัทฯ อย่างไรก็ตาม MACO จะรายงานผลกําไร (ขาดทุน) สุทธิจากการดําเนินงานของสื่อ โฆษณาที่ถูกปรับปรุงดังกล่าวในส่วนของการดําเนินงานที่ถูกยกเลิก
ทั้งนี้สําหรับการดําเนินงานในอนาคต บริษัทฯ จะรับรู้รายได้จาก 1) สื่อโฆษณาประเภทสตรีทเฟอร์นิเจอร์ภายใต้ ธุรกิจสื่อโฆษณา และ 2) งานระบบครบวงจร และซ่อมบํารุงของบริษัท ทรานส์ แอด โซลูชั่นส์ จํากัด และ Roctec Technology Limited ภายใต้ธุรกิจงานระบบครบวงจร บริษัทฯ มีรายได้จากการดําเนินงาน 2,135 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.7% YoY โดยการเพิ่มขึ้นดังกล่าวมีสาเหตุหลักมาจากการรับรู้รายได้ที่เพิ่มขึ้นของโครงการด้านการติดตั้งและซ่อม บํารุงของธุรกิจงานระบบครบวงจร รวมถึงการรับรู้ค่าตอบแทนขั้นต่ําจาก PlanB
รายได้ธุรกิจสื่อโฆษณา คิดเป็น 15.7% ของรายได้ทั้งหมด หรือมีรายได้อยู่ที่ 336 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.7% YoY โดยมีสาเหตุมาจากค่าตอบแทนขั้นต่ําที่ได้รับจาก PlanB รายได้ธุรกิจงานระบบครบวงจร คิดเป็น 84.3% ของรายได้ทั้งหมด หรือมีรายได้อยู่ที่ 1,799 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27.1% YoY จากการรับรู้รายได้ที่เพิ่มขึ้นจากโครงการด้านงานติดตั้งและซ่อมบํารุง การเติบโตของรายได้นั้นมาพร้อมกับต้นทุนที่เพิ่มขึ้น โดยบริษัทฯ มีต้นทุนการให้บริการเพิ่มขึ้น 35.7% YoY มาอยู่ที่ 1,664 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม อัตราต้นทุนต่อรายได้เพิ่มขึ้น จาก 72.2% มาอยู่ที่ 77.9% ในไตรมาสนี้ ส่งผลให้อัตรากําไรขั้นต้นลดลงจาก 27.8% มาอยู่ที่ 22.1%
ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร ลดลงเล็กน้อย 0.6% YoY มาอยู่ที่ 410 ล้านบาท ส่งผลให้อัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อรายได้ลดลงจาก 24.3% มาอยู่ที่ 19.2%
บริษัทฯ รับรู้ส่วนแบ่งขาดทุนจากเงินลงทุนในกิจการร่วมค้าและบริษัทร่วมลดลงจาก 30 ล้านบาท มาอยู่ที่ 22 ล้านบาทในปีนี้
บริษัทฯ มีการรับรู้ผลขาดทุนสุทธิจากการดําเนินงานต่อเนื่อง ที่ 16 ล้านบาท หากไม่รวมรายการที่เกิดขึ้นไม่เป็นประจําจะส่งผลให้ บริษัทฯ รับรู้กําไรสุทธิจากการดําเนินงาน ต่อเนื่องที่ 21 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 209.9% YoY ขณะเดียวกันบริษัทฯ มีการรับรู้กําไรสุทธิจากการดําเนินงานที่ยกเลิก 50 ล้านบาท อย่างไรก็ตามหากไม่รวมรายการพิเศษที่ประกอบ ไปด้วย 1) การคืนค่าสัมปทานของสนามบินในประเทศมาเลเซีย และ 2) การด้อยค่าของสินทรัพย์ในประเทศมาเลเซีย และอินโดนีเซีย บริษัทฯ จะรับรู้ผลขาดทุนสุทธิจากการ ดําเนินงานที่ยกเลิก 33 ล้านบาท จากที่กล่าวไปข้างต้นส่งผลให้บริษัทฯ มีกําไรสุทธิอยู่ที่ 34 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 103.4% จากปีก่อนหน้า โดยมีอัตรากําไรสุทธิอยู่ที่ 1.6%