"Selective Play"
CNS Daily Strategy: คาดตลาด "Down" ต้าน 1629/1634 จุด รับ 1604/1594 จุด ทั่วโลกกลับมาอยู่ในภาวะ Risk-off และสินทรัพย์เสี่ยงกลับมาผันผวน สะท้อนจาก VIX Index ที่กลับมาเพิ่มขึ้นเหนือ 30 จุด โดยตลาดกลับมาให้น้ำหนักต่อผลกระทบเงินเฟ้อต่อกำไรผู้ประกอบการในตลาด หลังจากหุ้นค้าปลีกในสหรัฐฯ รายงานผลประกอบการแย่กว่าคาด จากต้นทุนเพิ่มขึ้น และให้ Outlook ระมัดระวัง คุณ Charles Evans ประธาน Fed สาขา Chicago (มีสิทธิ Vote ปี 2023) กล่าวหนุน Fed เร่งขึ้นดอกเบี้ยเหนือระดับ Neutral rate ที่ 2.5% สอดคล้องมุม Nomura ประเมิน Fed จะขึ้นดอกเบี้ย 75bps ในเดือน มิ.ย.และ ก.ค. ส่วนสถานการณ์ต่างประเทศที่สำคัญอื่นๆ ยังไม่มีประเด็นทีสำคัญที่เปลี่ยนแปลงมีนัยฯ เช่นเดียวกับในประเทศที่ยังอยู่บนความคาดหวังกิจกรรมเศรษฐกิจ 20 พ.ค. จะเป็นการพิจารณาเปิดผับ บาร์ กลยุทธ์แนะนำหุ้น "Selective Play" : TVO,BDMS
Daily outlook: "Down" 1629/1634 จุด รับ 1604/1594 จุด
What happened around the world ?A
· (-) US Retail: หุ้นบริษัท Target ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกรายใหญ่ของสหรัฐฯ ปรับฐาน -24.9% รายงานกำไรต่ำกว่าตลาดคาด -30% เนื่องจากผลกระทบของปัญหาห่วงโซ่อุปทาน รวมทั้งต้นทุนเชื้อเพลิงและค่าขนส่งที่สูงขึ้น ส่งผลตลาดกังวลผลลบของเงินเฟ้อที่ทรงตัวสูง
· (-) Fed: คุณ Charles Evans ประธาน Fed สาขา Chicago (มีสิทธิ Vote ปี 2023) กล่าวหนุน Fed เร่งขึ้นดอกเบี้ยเหนือระดับ Neutral rate ที่ 2.5% สอดคล้องมุม Nomura ประเมิน Fed จะขึ้นดอกเบี้ย 75bps ในเดือน มิ.ย.และ ก.ค.
· (-) VIX: ดัชนี VIX Index เร่งขึ้น 18% สู่ 30.96 จุด
· (+) Yield: Bond Yield 10ปี สหรัฐฯลดลง -10bps สู่ 2.88%
· (-) Oil: วานนี้ BRT -2.8$(-2.5%) สู่ $109.1/bbl, WTI -2.8$(-2.5%)สู่ $109.6/bbl
What happened in Thailand ?
· (+) TH Covid-19: ผู้ติดเชื้อวานนี้อยู่ที่ 6,305 ราย เสียชีวิต 42 ราย ถือเป็นภาพชี้นำโอกาส การกลับมาดำเนินกิจกรรมเศรษฐกิจ ซึ่งพรุ่งนี้ 20 พ.ค. ศบค. จะมีการชงเรื่อง ศบค. พิจารณาการกลับมาเปิดผับบาร์ (+CPALL, BJC, BGC) แต่หุ้น Reopening น่าจะซึมซับความคาดหวังเชิงบวกส่วนใหญ่ไปแล้ว จากนีติดตามภาพฟื้นตัวที่เกิดขึ้นจริง vs ที่ตลาดคาดการณ์จากตัวเลขชี้นำต่างๆ เช่น จำนวนนักท่องเที่ยว, ปริมาณผู้ใช้บริการขนส่งประเภทต่างๆ, SSSG ค้าปลีก ตัวเลือกกลุ่ม Reopening เน้นไปที่กลุ่มที่ยัง Laggard เป็นหลักจะปลอดภัยกว่า อาทิ CPN, BEM, VGI, MAJOR, SABINA, MAKRO, CPALL, CRC
· (*) Diesel Price: ที่กรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) ว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้คงราคาจำหน่ายน้ำมันดีเซลในประเทศที่ 32 บาทต่อลิตรไปอีก 1 สัปดาห์ จนถึงวันอาทิตย์ที่ 22 พ.ค.2565 โดยยังวางกรอบราคาน้ำมันดีเซลไว้ไม่ให้เกิน 35 บาทต่อลิตร และจะบริหารในกรอบ 32-35 บาทให้มีระยะเวลานานที่สุด
Daily Strategy : TVO, BDMS
ระยะสั้น คาดตลาดกลับมาแกว่งลง ตามความกังวลผลกระทบเงินเฟ้อต่อกำไรตลาดในช่วงรอยต่อการใช้นโยบายการเงินเข้มงวดเพื่อแก้ไขปัญหา วันนี้ประเมินลงทดสอบแนวรับ 1594 จุด แต่หากปรับฐานมาบริเวณ 1580/1550 จะเป็นจุดสามารถพิจารณาเพิ่มน้ำหนักลงทุนราว 5%-10% ลงทุนระยะกลาง-ยาว วันนี้กลุ่มที่เคลื่อนไหวดีกว่าตลาดยังมองหุ้นได้ประโยชน์บาทอ่อน ทางตรงและจำหน่ายอาหารที่เป็นสินค้าจำเป็น (GFPT, CPF) และสินค้ายังเป็นที่ต้องการ (SAPPE, ASIAN, MEGA, KCE) ทางอ้อม (BDMS, BCH) ส่วนหุ้นเทคฯ/เติบโตที่มีพื้นฐานแกร่ง อาทิ JMT, JMART KCE, BE8, BBIK, INSET, CHAYO ระยะสั้นอาจจะมี Sentiment ลบหุ้นเทคต่างประเทศปรับฐานแรง และ หุ้นประกัน (TIPH, BLA, THREL) ที่ Bond Yield สหรัฐฯ 10 ปีชะลอการปรับเพิ่มลง หลังทำจุดสูงสุด 3.2% ระยะสั้นให้รอตั้งรับ
ระยะยาว แนะ 2Q22 Stock Picks : BCP, TOP, BDMS, BCH ADVANC, DTAC, MAKRO, GPSC, JMT, TIDLOR, KCE /SMID : PYLON BE8 JMART BCPG