สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(23 มีนาคม 2565)---------TPOLY คว้างานก่อสร้างโครงการจัดหาน้ำดิบเพื่อภาคการผลิตพื้นที่จังหวัดระยอง รองรับ EEC เฟส 2 ของบริษัท วาย.เอส.เอส.พี. แอกกริเกต จำกัด มูลค่า 1,251.69 ล้านบาท ฟากบิ๊กบอส “ปฐมพล สาวทรัพย์” ระบุ การได้งานครั้งนี้ส่งผลให้ Backlog ทะยานกว่า 5,200 ล้านบาท พร้อมเดินหน้าประมูลงานใหม่ทั้งภาครัฐและเอกชนต่อเนื่อง เน้นงานก่อสร้างด้านสาธารณูปโภค หนุนผลงานปีนี้เติบโตเข้าเป้า

นายปฐมพล สาวทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยโพลีคอนส์ จำกัด (มหาชน) (TPOLY) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้รับงานก่อสร้างใหม่ “โครงการจัดหาน้ำดิบเพื่อภาคการผลิตพื้นที่จังหวัดระยอง (รองรับ EEC)” เฟส 2 เป็นงานจ้างเหมาก่อสร้างอาคารสถานีสูบน้ำดิบ สถานีจ่ายน้ำดิบ อาคารควบคุม และงานวางท่อส่งน้ำดิบ ซึ่งเป็นโครงการของบริษัท วาย.เอส.เอส.พี. แอกกริเกต จำกัด มูลค่าโครงการ 1,251,694,132.00 บาท (ราคารวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ระยะเวลาก่อสร้าง 306 วัน

“การที่บริษัทฯ ได้รับงานใหม่ในครั้งนี้ เป็นการตอกย้ำให้เห็นถึงความเชื่อมั่น และความไว้วางใจของคู่ค้าที่มีให้กับบริษัท ส่งผลให้ TPOLY มีมูลค่างานในมือรอรับรู้รายได้ (Backlog) พุ่งแตะกว่า 5,200 ล้านบาท โดยจะทยอยรับรู้รายได้ต่อเนื่องตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไป และมั่นใจว่า จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยสนับสนุนให้ผลงานปีนี้เติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้”

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TPOLY กล่าวอีกว่า ในปี 2565 บริษัทฯ เดินหน้าเข้าประมูลงานใหม่ทั้งภาครัฐและเอกชน โดยจะเน้นงานก่อสร้างด้านสาธารณูปโภคของเอกชนมากขึ้น เนื่องจากเป็นงานที่มีมาร์จิ้นสูง โดยตั้งเป้าหมายการมีสัดส่วนรายได้จากงานก่อสร้างของเอกชน 60% และภาครัฐ 40%

ก่อนหน้านี้ นายปฐมพล เปิดแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2565 บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายรับงานก่อสร้างใหม่เพิ่มขึ้น 10% จากแผนปีก่อน หรือประมาณ 3,300 ล้านบาท จากธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ซึ่งเป็นรายได้หลัก โดยเป็นการเข้าประมูลงานใหม่ทั้งภาครัฐและเอกชน โดยจะเน้นงานด้านสาธารณูปโภคของเอกชนมากขึ้น ซึ่งมีการแข่งขันไม่มากและมีอัตรากำไรที่สูง

ส่วนธุรกิจโรงไฟฟ้าภายใต้การบริหารของ บริษัท ทีพีซี เพาเวอร์ โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) (TPCH) ซึ่งเป็นบริษัทย่อย มีการ COD โรงไฟฟ้า 11 แห่ง ทั้งโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลและขยะ กำลังการผลิตรวม 116.3 เมกะวัตต์ ไปเรียบร้อยแล้ว

นอกจากนี้บริษัทฯ มีการลงทุนในกลุ่มธุรกิจใหม่ ได้แก่ 1.บริษัท ทีพีซี เม็ก จำกัด (TPCM) ผลิตและติดตั้งระบบจอดรถอัตโนมัติ ซึ่ง TPOLY เข้าถือหุ้นในสัดส่วน 95% 2.บริษัท ทีพีซี เฟรชแอร์ จำกัด (TPCFA) จำหน่ายและติดตั้งอุปกรณ์ควบคุมระบบกำจัดมลภาวะทางอากาศ บริษัทฯ เข้าถือหุ้นในสัดส่วน 80% 3.บริษัท ว.ไชยา อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (W.CHAIYA) ดำเนินธุรกิจรับเหมาก่อสร้างงานระบบ บริษัทฯ เข้าถือหุ้นในสัดส่วน 80% และ 4.บริษัท วาย.เอส.เอส.พี. แอกกริเกต จำกัด ผลิตและจำหน่ายน้ำดิบภาคอุตสาหกรรม ในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) บริษัทฯ เข้าถือหุ้นในสัดส่วน 20%

KKตั้งเป้ารายได้ปี65 แตะ 1,200 ลบ. หวังทำกำไรได้ไม่น้อยกว่าปีก่อน มองกำลังซื้อยังดี-โครงการภาครัฐหนุน วางแผนปี65 ขยาย 3 สาขา ในจ.สงขลา งบลงทุน 10-12ลบ./สาขา

นายกวิศพงษ์ สินิธนนนท์สกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เคแอนด์เค ซุปเปอร์สโตร์ เซาท์เทิร์น จำกัด (มหาชน) KK เปิดเผยว่า บริษัทฯ ตั้งเป้าผลการดำเนินงานในปี2565 คาดว่าจะมีรายได้แตะที่ระดับ 1,200 ล้านบาท รวมถึงคาดว่าจะมีกำไรเพิ่มขึ้นจากปีก่อน พร้อมทั้งตั้งเป้าที่จะมียอดขายสาขาเดิมเติบโตไม่น้อยกว่า2.5% เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่เพิ่มขึ้น 1%

ด้านแผนการดำเนินงานในปีนี้ บริษัทฯ มีแผนขยาย 3 สาขาใหม่ พื้นที่เขต จ.สงขลา ด้วยงบลงทุนราว10-12ล้านบาท/สาขา และจะเริ่มเปิดดำเนินการในช่วงเดือนพฤษภาคม กรกฎาคม และกันยายน ตามลำดับ ซึ่งจะทำให้สิ้นปี65 บริษัทมีสาขารวมทั้งสิ้น 30 สาขา รวมถึงได้วางแผนขยายสาขาเพิ่มในช่วงปี66-67 โดยมีความสนใจพื้นที่ในจังหวัดตรัง และจังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งปัจจุบันยังอยู่ระหว่างการศึกษาและวางแผน

นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้เปิดเผยถึงผลงานในช่วงเดือน ม.ค. - ก.พ. ยังมีทิศทางที่ดี โดยมองว่าภาพรวมของไตรมาส1-65 จะออกมาดีสอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัวขึ้น โดยเฉพาะกำลังซื้อของผู้บริโภคในพื้นที่ที่ยังถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดี ประกอบกับนโยบายและโครงการของภาครัฐก็ยังช่วยกระตุ้นให้เกิดการจับจ่ายใช้สอยบ้างพอสมควร

ด้านภาคการท่องเที่ยวในภาคใต้ พบว่ามีการเติบโตขึ้นมาจากปีก่อน เป็นผลมาจากการท่องเที่ยวในประเทศของคนไทยเอง ขณะที่นักท่องเที่ยวต่างชาติยังไมาสามารถเดินทางเข้ามาได้ แต่อย่างไรก็ตามคาดว่าในช่วงไตรมาส2/65 ภาคการท่องเที่ยวและการอุตสาหกรรมต่างๆในหาดใหญ่จะคึกคักขึ้น ภายหลังที่เส้นชายแดนของประเทศมาเลเซียจะเปิดด่านให้นักท่องเที่ยวข้ามประเทศมาได้ ก็จะมีส่วนช่วยเสริมสร้างยอดขายของKKด้วยเช่นกัน

---จบ---