HotNews: SPALI เปิดแผนปี61
ตั้งเป้ารายได้2.6 หมื่นลบ.-
ยอดขาย3.3 หมื่นลบ.
ผุด35 โครงการใหม่
สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(15มกราคม2561)---- SPALI เปิดแผนปี 2561 สู่ SUSTAINABLE GROWTH 2018 ตั้งเป้ารายได้2.6 หมื่นลบ.-คาดยอดขาย 3.3 หมื่นลบ. เตรียมเปิด 35 โครงการใหม่เป็นแนวราบ 30 โครงการ คอนโดฯ 5 โครงการ มูลค่ารวม 4 หมื่นลบ. ตั้งงบซื้อที่ดินปี61 ไว้ที่9 พันลบ. ระบุปี61 เตรียมเปิดตัวบิ๊กโปรเจค เป็นโครงการมิกซ์ยูส ทำเลสถานทูตออสเตรเลีย(เดิม) เผยจะรุกตลาดตจว.มากขึ้น เริ่มบุกเชียงราย เผยอยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ลงทุนในอาเซียน โกยยอดขายปี 60 กว่า 3.07 หมื่นลบ. ทะลุเป้า ที่2.7 หมื่นลบ.หรือโต27% จากปีก่อน
ดร.ประทีป ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) SPALI เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าผลประกอบการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยบริษัทจะกระจายความเสี่ยงการลงทุน ( diversification) ไปลงทุนในโครงการคอนโดมิเนียม ทั้งคอนโดมิเนียมHigh Rise และ Low Rise อีกทั้งจะเน้นการสร้างรายได้ประจำ (Recourring Income) อาทิการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ให้เช่า รวมทั้งการขยายการลงทุนไปในโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่มีความหลากหลาย เช่นโครงการมิกซ์ยูสบนที่ดินสถานทูตออสเตรเลีย (เดิม) ถนนสาทร ซึ่งคาดว่าโครงการดังกล่าวจะได้ข้อสรุปพันธมิตรการลงทุนในQ3/61 เบื้องต้นคาดโครงการมิกซ์ยูส "Supalai Icon" จะมีมูลค่าโครงการประมาณ 1.8-2 หมื่นล้านบาท ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการพิจารณารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม ( EIA) คาดว่าจะได้รับ EIA หลังสงกรานต์ปี2561 โดยโครงการดังกล่าวจะใช้ระยะเวลาก่อสร้าง 3 ปี
พร้อมกันนี้ บริษัทจะขยายการลงทุนโครงการอสังหาริมทรัพย์ไปในหัวเมืองหลัก ซึ่งปีนี้จะเปิดโครงการอสังหาริมทรัพย์แนวราบที่จังหวัดเชียงราย ส่วนโครงการในเขตระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ซึ่งบริษัทมีที่ดินใน EEC ประมาณ 10 แปลง รองรับการเปิดโครงการไว้แล้ว ซึ่งปีนี้บริษัทจะเปิดโครงการในจังหวัดระยอง 1-2 โครงการ มูลค่าราว 1 พันล้านบาท ส่วนที่จังหวัดชลบุรีมีแผนเปิด 4-5 โครงการ มูลค่ารวมราว 3 พันล้านบาท
ทั้งนี้ปัจจุบันบริษัทมีการขยายการลงทุนโครงการอสังหาริมทรัพย์ ในต่างจังหวัดแแล้ว 11 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ สุราษฎร์ธานี ระยอง ชลบุรี นครศรีธรรมราช อุบลราชธานี นครราชสีมา ขอนแก่น อุดรธานี สงขลา และภูเก็ต ซึ่งโครงการที่เปิดเป็นโครงการแนวราบทั้งหมด
นอกจากนี้ บริษัทจะขยายการลงทุนในต่างประเทศมากขึ้น โดยคาดว่าสัดส่วนรายได้จากลูกค้าต่างชาติปี 2561 จะอยู่ที่ 3,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2560 อยู่ที่ประมาณ 1,000 ล้านบาท ขณะเดียวกันบริษัทยังมองโอกาสการลงทุนในประเทศอาเซียน หลังจากได้ใช้ระยะเวลาศึกษาตลาด
ซึ่งความเป็นไปได้ปีนี้อาจจะเห็นบริษัทจะเปิดโครงการอสังหาริมทรัพย์ในประเทศฟิลลิปปินส์ ขณะเดียวกันยังมีแผนเปิด 1- 2โครงการในประเทศออสเตรเลีย ซึ่งจะเป็นการร่วมลงทุนกับบริษัทอสังหาริมทรัพย์ของในประเทศออสเตรเลีย จากปัจจุบันมีการลงทุนไปแล้ว 6 โครงการ
ดร.ประทีป กล่าวเพิ่มเติมว่า คาดภาพรวมเศรษฐกิจอสังหาริมทรัพย์ ในปี 2561 มีแนวโน้มเติบโตไปในทิศทางที่ดีขึ้นมากกว่าปีก่อน ด้วยปัจจัยจากการส่งออกและการท่องเที่ยวดีขึ้น อัตราดอกเบี้ยทรงตัว ประกอบกับการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐมีต่อเนื่อง ทำให้ตลาดผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นและเริ่มกลับเข้าสู่การตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัย สำหรับตลาดกลุ่มไฮเอนด์ จะมีการแข่งขันที่เข้มข้นขึ้น โดยเฉพาะการแข่งขันด้านนวัตกรรม และเทคโนโลยีที่นำมาช่วยในกระบวนการผลิต หรือสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์รูปแบบการอยู่อาศัยได้อย่างสูงสุดในยุคตลาด 4.0
ด้านนายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) SPALI เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าการเติบโตของยอดขายเติบโตปีละ 15-20% ในระยะเวลา 2-3 ปีจากนี้ โดยประเมินจากมูลค่าของยอดขายรอโอน (Backlog ) ที่สามารถรองรับการรับรู้รายได้ ในช่วงเวลา 2-3 ปีข้างหน้า ซึ่งยอดขายเติบโตปีละ 15-20% จะทำให้รายได้เติบโตไปในทิศทางเดียวกัน
สำหรับแผนงานปี 2561บริษัทฯตั้งเป้าหมายยอดขาย 33,000 ล้านบาท และตั้งเป้าหมายรายได้ไว้ที่ 26,000 ล้านบาท โดยมีแผนเปิดโครงการใหม่ 35 โครงการ แบ่งเป็นโครงการแนวราบ 30 โครงการ และโครงการคอนโดมิเนียม 5 โครงการ มูลค่ารวม 40,000 ล้านบาท ขณะที่
ปัจจุบันบริษัทมีBacklog 39,811 ล้านบาท โดยจะรับรู้เป้นรายได้ในปี2561 ประมาณ 10,900 ล้านบาท
พร้อมกันนี้ บริษัทตั้งงบซื้อที่ดินปี2561 ประมาณ 9,000 ล้านบาท เท่ากับปี 2560 ที่ใช้เงินซื้อที่ดินไปประมาณ 9,000 ล้านบาทเช่นกัน โดยโครงการที่จะเปิดตัวในปีนี้บริษัทมีที่ดินรองรับไว้หมดแล้ว
ขณะที่มีแผนการเปิดตัวโครงการบิ๊กโปรเจคครั้งแรกในรูปแบบมิกซ์ยูส บนที่ดินสถานทูตออสเตรเลีย (เดิม) ถนนสาทร อีกทั้งมีการขยายโครงการสู่ตลาดต่างจังหวัดมากขึ้น โดยจะเริ่มบุกตลาดอสังหาฯ ในจังหวัดเชียงราย ขณะเดียวกันยังมุ่งเน้นขยายตลาดต่างประเทศ เช่นการร่วมลงทุนกับบริษัทอสังหาฯ ของประเทศออสเตรเลีย ซึ่งปัจจุบันมีการลงทุนไปแล้ว 6 โครงการ และกำลังศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุนในประเทศอาเซียนต่างๆ
นายไตรเตชะ กล่าวเพิ่มเติมว่า ภาพรวมในปี 2560 บริษัทฯ สามารถทำยอดขายได้พุ่งทะลุเป้ากว่า 30,777 ล้านบาท เติบโต 27% เมื่อเทียบกับปี 2559 ที่มียอดขาย 24,132 ล้านบาท และเติบโตเกินเป้า 14% เมื่อเทียบกับเป้าหมายยอดขายที่ตั้งไว้ 27,000 ล้านบาท ซึ่งการเติบโตมาจากยอดขายโครงการคอนโดมิเนียม 15,440 ล้านบาท และยอดขายโครงการแนวราบ 15,337 ล้านบาท โดยมีการเปิดตัวโครงการทั้งหมด 20 โครงการ แบ่งเป็นโครงการแนวราบ 15 โครงการ และคอนโดมิเนียม 5 โครงการ มูลค่ารวม 31,220 ล้านบาท
นอกจากนี้ประเมินภาพรวมอสังหาริมทรัพย์ ในปี2561 เห็นสัญญาณที่ดินขึ้นของตลาดคอนโดมิเนียม จากโครงการรถไฟฟ้าสายสีต่างๆ ที่ขยายตัวมากขึ้น ทำให้โมเมนตัวของปี 2561 มีแนวโน้มดี ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจที่ขยายตัว และอัตราดอกเบี้ยยังทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ คาดว่าจะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในภาพรวมมีการเติบโต 5-10% ใกล้เคียงกับปัที่ผ่านมา ส่วนอัตราการปฏิเสธสินเชื่อ (reject) ของบริษัทในครึ่งปีหลังของปี 2560 เฉลี่ยอยู่ที่ราว 8-9%
นายไตรเตชะ กล่าวทิ้งท้ายว่าปีนี้ บริษัทมีแผนจะออกหุ้นกู้ เพื่อทดแทนหุ้นกู้ชุดเดิมที่จะครบกำหนดชำระประมาณ 5,000-6,000 ล้านบาท ขณะที่บริษัทยังสามารถระดมทุนด้วยการใช้ Project Finance โดยปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนหนี้สิน (Net Gearing) สูงถึงประมาณ 70%
---จบ---