HotNews: FTE คาดปี61มาร์จิ้นสวย
-CRD ตั้งป้อม ปี61 คว้างงานใหม่ 1.3-1.5 พันลบ.
สำนักข่าวหุ้นอินไซด์( 9 มกราคม 2561)-------- FTE ตั้งเป้ารายได้ปี61 โต20% รุกงานรับเหมาติดตั้งระบบดับเพลิงเต็มสูบ ยิ้มรับอานิสงส์บาทแข็งค่า คาดหนุนGross profit margin ที่ 26-27% ด้านCRD ปี61 ลุ้นคว้างงานใหม่ 1.3-1.5 พันลบ. จากปัจจุบันตุน Backlog ราว 900 ลบ. ทยอยรับรู้ฯ80%
นายทักษิณ ตันติไพจิตร กรรมการผู้จัดการ บมจ.ไฟร์เทรดเอ็นจิเนียริ่ง หรือ FTE เปิดเผยกับสำนักข่าวหุ้นอินไซด์ว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี2561 เติบโต20% จากปี2559 โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากธุรกิจการจำหน่ายและติดตั้งอุปกรณ์ดับเพลิงที่มีทิศทางเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งบริษัทจะรักษามาร์เก็ตแชร์ในกลุ่มคอนโดฯ อาคารสูงให้ได้5% ขณะที่บริษัทจะรุกขยายตลาดงานรับเหมาติดตั้งระบบดับเพลิงสำหรับโรงงานทั่วไปให้มากขึ้น โดยบริษัทตั้งเป้าจะมีสัดส่วนรายได้งานรับเหมาติดตั้งระบบดับเพลิงเพิ่มขึ้นเป็น35% ของยอดขายรวม จากปี2559มีสัดส่วนรายได้ส่วนนี้ประมาณ 30%
"ปี61 เราวางแผนโตประมาณ 20% โดยที่เราจะรักษามาร์เก็ตแชร์ในกลุ่มคอนโดฯ อาคารสูงให้ได้5% ส่วนการรับงานออกแบบติดตั้งระบบดับเพลิงสถานีไฟฟ้าแรงสูงของ กฟผ. ซึ่งในปี 61 จะมีงานออกประมูลประมาณ 400-500 ล้านบาท ทาง FTE ก็จะพยายามรักษาส่วนแบ่งของมาร์เก็ตแชร์ ให้ได้ประมาณ 350 ล้านบาท อีกส่วนหนึ่งก็คือเราวางแผนที่จะโตไปในส่วนของโรงงาน เนื่องจาก พ.ร.บ. โรงงานอุตสาหกรรมเรื่องการป้องกันและระงับอัคคีภัยในโรงงานมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ปี 52 ซึ่งโรงงานก็จะมีการปรับปรุงระบบดับเพลิง เราวางแผนว่าจะส่งพนักงานขายของเราเข้าไปรับงานออกแบบระบบติดตั้งระบบดับเพลิงในโรงงาน ซึ่งคาดว่าจะมี Growth ค่อนข้างสูง โดยเราจะเพิ่ม Sale Engineer ให้ครบ 10 คนในปี 61 ทำให้คาดว่าจะมียอดขายส่วนนี้เพิ่มขึ้นประมาณ 100-200 ล้านบาท จากการเพิ่มพนักงงานขาย " นายทักษิณ กล่าว
พร้อมกันนี้บริษัทมีแผนเข้าประมูลงานซึ่งเป็นโครงการขนาดใหญ่ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) โดยคาดว่าจะมีงานออกมาประมาณ 400-500 ล้านบาทคาดว่ามีโอกาศได้รับงานประมาณ 65%
นายทักษิณ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับเงินบาทที่ปรับตัวแข็งค่าขึ้น คาดว่าจะส่งผลให้บริษัทได้รับประโยชน์ เนื่องจากบริษัทนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศประมาณ 70% โดยคาดว่าจะส่งผลดีต่ออัตรากําไรขั้นต้น (gross profit margin) ในปี 2561 ซึ่งบริษัทมีเป้าหมายรักษาระดับอัตรากำไรขั้นต้นไปไว้ที่ 26-27%
"เรานำเข้าสินค้าจากต่างประเทศประมาณ 70% เป็นเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ทำให้เราก็ได้อานิสงส์จากการแข็งค่าของเงินบาท ซึ่งก็จะทำให้เราสามารถรักษาอัตรากำไรขั้นต้นในปี 61ให้ได้ประมาณ 26-27%" นายทักษิณ กล่าว
นายธีรพัฒน์ จิรพิพัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.เชียงใหม่ริมดอย (CRD) เปิดเผยกับสำนักข่าวหุ้นอินไซด์ว่า สำหรับในปี 2561 บริษัทคาดว่ามีโอกาสได้รับงานใหม่ราว 1.3-1.5 พันล้านบาท จากปัจจุบันบริษัทมีมูลค่างานในมือ ( Backlog) อยู่ที่ประมาณ 900 ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้เป็นรายได้ในปี 2561 ประมาณ 80% โดยแนวโน้มอุตสาหกรรมรับเหมาก่อสร้างคาดว่าในช่วงต้นปีการลงทุนของภาคเแกชนจะเพิ่มขึ้น ส่วนกลางปีงานของภาครัฐน่าจะทยอยออกมา
"เราคาดว่างานภาคเอกชนในปีนี้น่าจะเพิ่มขึ้น ส่วนงานรัฐก็ยังประมูลตามแผนเดิม ซึ่งงานที่จะเพิ่มขึ้นคืองานพวกงานอาคารของภาคเอกชน ซึ่งตอนนี้ Backlog เราน่าจะมีราวๆ 900 ล้านบาท แต่ต้องรอสรุปอีกที เราคาดว่าจะรับรู้รายได้ในปี 61 ประมาณ 80% ส่วนการเข้าไป Bid งานปีนี้น่าจะมากพอสมควร คงหลายพันล้านบาท แต่ของเราคาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 1.3-1.5 พันล้านบาท แนวโน้มอุตสาหกรรมรับเหมาก่อสร้างปีนี้ยังไปได้ คาดว่าช่วงต้นปีจะเป็นการลงทุนของภาคเอกชน ส่วนกลางปีน่าจะเป็นภาครัฐน่าจะเพิ่มเติมมากขึ้น" นายธีรพัฒน์ กล่าว
อนึ่ง CRD เป็นผู้ให้บริการรับเหมาก่อสร้างอาคารสิ่งปลูกสร้างทั่วไป และรับเหมาก่อสร้างงานระบบสาธารณูปโภคตามแบบที่ลูกค้ากำหนด โดย CRD ให้บริการในส่วนงานวิศวกรรมโยธาและดูแลโครงการในฐานะผู้รับเหมาหลัก (main contractor) และว่าจ้างผู้รับเหมาที่มีประสบการณ์ในแต่ละด้านเข้ามาทำงาน ภายใต้การควบคุมคุณภาพโดยทีมวิศวกรและผู้เชี่ยวชาญของบริษัท ทั้งนี้ มีลูกค้ามีทั้งหน่วยงานราชการและเอกชน
---จบ---