สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(13สิงหาคม 2564)-------GUNKUL สุดปัง! 6 เดือนแรกกำไรทะลัก 58.22% ฉายภาพครึ่งปีหลังลุยธุรกิจพลังงานทดแทน-งาน EPC บอร์ดใจปั้ม แจกปันผลระหว่างกาลเป็นเงินสดในอัตรา 0.06 บ./หุ้น
บมจ.กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง (GUNKUL) สร้างความประทับใจให้กับผู้ถือหุ้น ประกาศผลงานครึ่งปีแรกกำไรพุ่งแตะ 1,142.19 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 420.29 ล้านบาท หรือ 58.22% ส่วนรายได้รวมไม่น้อยหน้า 4,438.11 ล้านบาท ด้านบอร์ดไม่รอช้า ไฟเขียวจ่ายปันผลระหว่างกาลเป็นเงินสดให้ผู้ถือหุ้นทันทีในอัตรา 0.06 บาทต่อหุ้น กำหนดจ่ายในวันที่ 9 กันยายน นี้ "ดร.สมบูรณ์ เอื้ออัชฌาสัย" ส่งสัญญาณ ต่อจากนี้ธุรกิจกลุ่ม GUNKUL จะแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นจากธุรกิจโรงไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงงาน EPC หนุนเต็มพิกัด แถมจ่อประมูลงานใหม่ๆ เพิ่มอีกเพียบเพื่อเสริมศักยภาพรายได้และกำไรในอนาคต ตอกย้ำปีนี้ทำรายได้เข้าเป้าไม่ต่ำกว่า 20%
ดร.สมบูรณ์ เอื้ออัชฌาสัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) (GUNKUL) เปิดเผยถึงผลประกอบการงวด 6 เดือน (สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2564) ของบริษัทฯ และบริษัทย่อยว่า มีกำไรสุทธิ 1,142.19 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 420.29 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 58.22% จากงวดเดียวกันของ ปีก่อนมีกำไรสุทธิเท่ากับ 721.90 ล้านบาท ส่วนรายได้รวมอยู่ที่ 4,438.11 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,045.79 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 30.83% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 3,392.32 ล้านบาท
ทั้งนี้ จากผลการดำเนินงานที่เติบโตเพิ่มขึ้น ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ได้มีมติอนุมัติให้จ่ายปันผลระหว่างกาลให้กับผู้ถือหุ้นเป็นเงินสดในอัตราหุ้นละ 0.06 บาท รวมเป็นเงินปันผลจ่ายทั้งสิ้นไม่เกิน 535 ล้านบาท โดยกำหนดให้ผู้ถือหุ้นที่จะมีชื่อปรากฎ ณ วันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้น (Record Date) ในวันที่ 26 สิงหาคม 2564 วันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 25 สิงหาคม 2564 และกำหนดจ่ายเงินปันผล ในวันที่ 9 กันยายน 2564
กลุ่มบริษัทฯ มีความมั่นใจในศักยภาพของรายได้และกำไรสุทธิในครึ่งปีหลัง ว่าจะเติบโตต่อเนื่องจากครึ่งปีแรก โดยได้รับปัจจัยหนุนจากการทยอยรับรู้รายได้จากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งเป็นรายได้หลักที่มีเข้ามาสม่ำเสมอ อีกทั้งยังรอรับรู้รายได้จากงานรับเหมาและวางระบบทางด้านวิศวกรรม (EPC) ในมือ (Backlog) ประมาณ 9,600 ล้านบาท และมีแผนเข้าร่วมประมูลโครงการใหม่ๆ เพิ่มเติมอีก คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 20,000 ล้านบาท ในปีนี้
สำหรับความคืบหน้าในการดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการปลูกพืชเศรษฐกิจประเภทกัญชง และการลงทุนทำโรงสกัด CBD บริสุทธิ์ 99% คาดว่าจะเริ่มปลูกได้ในเดือนตุลาคมนี้ ซึ่งขณะนี้รอได้รับใบอนุญาตการนำเข้าเมล็ดพันธุ์และใบอนุญาตในการเพาะปลูกจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)
"กลุ่มบริษัทฯ ยังคงเดินหน้าดำเนินธุรกิจตามแผนที่วางไว้อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะธุรกิจด้านพลังงานทดแทน ทั้งในและต่างประเทศ อีกทั้งยังคงมองหาโอกาสการลงทุนและเข้าร่วมประมูลงานโครงการใหม่ๆ เพิ่มเติม จึงน่าจะเป็นปัจจัยบวกที่ทำให้ผลการดำเนินงานปีนี้เติบโตอย่างมีศักยภาพ และจะเติบโตอย่าง โดดเด่น ซึ่งบริษัทฯ ยังคงเป้าหมายการเติบโตรายได้ปีนี้ไม่น้อยกว่า 20% จากปีก่อน" ดร.สมบูรณ์กล่าวในที่สุด
--จบ--