Today’s NEWS FEED

News Feed

HotNews: LEO ผนึกไปรษณีย์ไทย ลุยขนส่งครบวงจร / IVL โค้ง2 โตแกร่ง กำไรสุทธิหลักเพิ่มขึ้น72 %

3,954

 

 

 

 

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์( 5 สิงหาคม 2564)-- บมจ.ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ (LEO)ผนึก บริษัท ไปรษณีย์ไทยดิสทริบิวชั่น จำกัด (ปณท.ดบ.) ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือใน โครงการพัฒนาบริการขนส่งครบวงจร (Total Solution Logistics Services)ครอบคลุมทุกทวีปทั่วโลก

 


ทั้งนี้ในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือดังกล่าว ทั้งสองฝ่ายมีความประสงค์ที่จะร่วมมือพัฒนาบริการขนส่งครบวงจร (Total Solution Logistics Services) ตลอดจนพัฒนาการขนส่งและกระจายวัคซีน เพื่อให้ครอบคลุมถึงการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ การจัดเก็บและกระจายสินค้าภายในประเทศ และร่วมกันพัฒนาบริการสำหรับตลาดและลูกค้าในกลุ่ม E-Commerce/Social Commerce พร้อมทั้งการให้บริการ E-fulfilment Centre ในการขนส่งสินค้าทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ การให้บริการขนส่งสินค้าควบคุมอุณหภูมิ (Cold Chain Logistics) รวมถึง ร่วมกันพัฒนาบริการใหม่ ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศที่สามารถต่อยอดทางธุรกิจให้กับทั้งสองฝ่าย

 

โดยนายเกตติวิทย์ สิทธิสุนทรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การร่วมมือในครั้งนี้เป็นการนำจุดแข็งของทั้ง 2องค์กรมาพัฒนาระบบโลจิสติกส์ ได้อย่างครบวงจรจากต้นทางถึงปลายทางครอบคลุมได้มากทุกทวีปทั่วโลก ซึ่งเชื่อว่าการจับมือในครั้งนี้ จะสามารถต่อยอดพัฒนาธุรกิจได้อีกจำนวนมาก รวมทั้งในเรื่องการขนส่งยาเวชภัณฑ์และวัคซีน ที่กำลังมีความสำคัญอย่างมากในโอกาสต่อไป

 

นายพีระ อุดมกิจสกุล กรรมการผู้จัดการบริษัท ไปรษณีย์ไทยดิสทริบิวชั่น จำกัด กล่าวว่า ทางบริษัทไปรษณีย์ไทยดิสทริบิวชั่น จำกัดมีความยินดีอย่างยิ่ง การร่วมมือในครั้งนี้ ถือเป็นมิติของภาครัฐและเอกชน โดยเฉพาะทางบริษัท ลีโอโกลบอล โลจิสติกส์จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำด้าน ธุรกิจโลจิสติกส์ และการขนส่งระหว่างประเทศมานานกว่า 30 ปี ซึ่งจะทำให้ทำงานด้านโลจิสติกส์ แวร์เฮ้าส์ สมบูรณ์และครบวงจรมากขึ้นเป็นการนำความโดดเด่นของ 2 บริษัทของคนไทยร่วมกันต่อสู้ แข่งขันนอกประเทศในระดับสากล ทำให้ประเทศไทยเจริญยั่งยืนต่อไป

 

ซึ่งความร่วมมือในครั้งนี้ สอดคล้องกับเป้าหมายของบริษัท ไปรษณีย์ไทยดิสทริบิวชั่น จำกัด ที่มุ่งมั่นเตรียมการรองรับบริการด้านโลจิสติกส์ แบบครบวงจรอย่างยั่งยืนในอนาคต โดยได้พัฒนาระบบการกระจายและจัดส่งสินค้าที่สร้างความสะดวกและรวดเร็วให้กับผู้ใช้บริการ ไม่ว่าจะเป็นการจัดเส้นทางขนส่ง ระบบการตรวจสอบรถขนส่งสินค้า ระบบการติดตามรถขนส่งด้วยรหัสบาร์โค้ด ที่แม่นยำและเที่ยงตรง ด้วยการนำระบบ GDP ที่ทันสมัยมาใช้ มีพนักงานขับรถอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน Q-MARK รวมถึงผ่านการรับรองมาตรฐานจากระบบบริหารงานคุณภาพ ISO 9001: 2015 และระบบการจัดการสิ่งแวดล้อม ISO 14001: 2015 รับรองแผนการจัดส่งและส่งมอบที่ตรงเวลา On Time Delivery สามารถตรวจสอบสถานะได้ ทำให้ที่ผ่านมา บริษัท ไปรษณีย์ไทยดิสทริบิวชั่น จำกัด เป็นองค์กรที่ได้รับการยอมรับและความไว้วางใจจากผู้ประกอบการในสินค้าทุกประเภท รวมไปถึงสินค้าประเภทยาและเวชภัณฑ์ ที่ทั้งหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ใช้บริการอย่างต่อเนื่อง

 

 


IVL ประกาศไตรมาส2/64 EBITDA 552ล้านเหรียญสหรัฐและ Core EBITDA 477ล้านเหรียญสหรัฐ กำไรสุทธิ8,340ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ39 เมื่อเทียบไตรมาสต่อไตรมาสขณะที่กำไรสุทธิหลัก6,641ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ72 เมื่อเทียบไตรมาสต่อไตรมาสด้าน Core ROCE ร้อยละ12.9 เพิ่มขึ้น 443 bps เมื่อเทียบไตรมาสต่อไตรมาส และ715 bps เมื่อเทียบปี ต่อปี

 

ขณะที่โครงการ Olympus สามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการดา เนินงานคดิเป็นจำนวน 116ล้านเหรียญสหรัฐในระหว่างครึ่งปี แรกของปี2564 ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้จำนวน 287ล้านเหรียญสหรัฐสำหรับปี2564 ระบุเข้าซื้อกิจการ CarbonLite ซึ่งผลิต rPET ในประเทศสหรัฐอเมริกา ส่งผลให้บริษัทเป็นผู้ผลิต rPET resinรายใหญ่ที่สุดในโลก

 


นายอาลก โลเฮีย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทฯ บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) IVL เปิดเผยว่า บริษัทแสดงผลการดำเนินงานที่ยอดเยี่ยมสำหรับไตรมาสที่ 2 ปี 2564และมี Core EBITDA เท่ากับ 477ล้านเหรียญสหรัฐ(ผลการดำเนินงานของ IVOL 18 ล้านเหรียญสหรัฐถูกปรับปรุงไปยังรายการพิเศษ) โดยได้รับแรงสนับสนุนจากการกระจายตัวทั่วโลกขนาดและการเป็นผู้นำ ของบริษัท ในทั้งสามกลุ่มธุรกิจ ผลการดา เนินงานของบริษทั ส าหรับไตรมาสแสดงถึงรายได้จากการด าเนินงานที่แข็งแกร่งของทุกภูมิภาค โดย Core EBITDA ของทวีปอเมริกาและยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา (EMEA) เพิ่มข้ึนร้อยละ59 ในครึ่งปีแรกของปี 2564เมื่อเทียบกับครึ่งปี แรกของปี 2563ในขณะที่ทวีปเอเชียเพิ่มขึ้นร้อยละ15ในปี 2563 ธุรกิจของบริษัทได้ผ่านบททดสอบความยืดหยุ่นต่อสถานการณ์ต่างๆ และในครึ่งปีแรกนี้ได้แสดงให้เห็นการสร้างมูลค่าจากแพลตฟอร์มของบริษทัอุปสงค์สำหรับผลิตภัณฑ์ของบริษัทยังคงแข็งแกร่งในทุกกลุ่มธุรกิจและทุกภูมิภาค บริษัทแสดงอัตรากำไรที่เพิ่มสูงขึ้น โดยได้ประโยชน์จากรูปแบบการดำเนินงานแบบบูรณาการและความได้เปรียบของห่วงโซ่อุปทานระดับภูมิภาคเพื่อชดเชยกับอุปสรรคในระบบนิเวศน์เช่น การขาดแคลนวัตถุดิบหลักและข้อจำกัดด้านการขนส่ง ท่ามกลาสภาพแวดล้อมที่มีการเปลี่ยนแปลงทีมผู้บริหารของบริษัทได้แสดงถึงความคล่องตัวในการกำหนดทิศทางขององค์กรอย่างน่าเชื่อถือ และให้ความสำคัญกับผู้บริโภคอย่างต่อเนื่องครึ่งปีหลังของปี 2564คาดว่าจะคล้ายคลึงกับช่วงครึ่งปีแรก โดยได้รับแรงสนับสนุนจากอุปสงค์ในผลิตภัณฑ์ของบริษัทที่แข็งแกร่งจากการเปิดตัวการท่องเที่ยวเนื่องด้วยการได้รับวัคซีนและมีภูมิคุ้มกันในวงกว้าง บริษัทคาดว่าปริมาณการผลิตของกลุ่มธุรกิจ IOD จะเพิ่มขึ้นอย่างมีนยัสำคัญ จากการเริ่มดำเนินงานของ Lake Charles (IVOL)และมีอตัรากำไรเพิ่มขึ้นเนื่องจากข้อได้เปรียบของShale Gasที่แข็งแกร่ง และแรงหนุนจาก Oxyfuel จากการเดินทางที่เพิ่มขึ้นอัตรากำไรของ Intergrated PET คาดว่าจะปรับตวัจากการที่อุปทานเพิ่มสูงขึ้นเนื่องจากความขาดแคลนตูค้อนเทนเนอร์เริ่มคลี่คลายในช่วงปลายปีการขาดแคลน semiconductor ทำให้อุปสงค์ของผู้บริโภคในกลุ่มธุรกิจ Fibers ชะลอตัวและราคาที่สูงขึ้นของโพลีโพรพิลีนนา ไปสู่การส่งผ่านที่ล่าช้าในสายผลิตภัณฑ์Hygiene ในภาพรวมบริษัทมองเห็นความแข็งแกร่งในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2564และปี 2565 ทั้งนี้บริษัทคาดว่าจะรายงานผลการดำเนินงานสูงกว่าที่ได้นำเสนอในCapital Market Day ในเดือนมกราคม 2564


ผลการดำเนินงานในไตรมาสที่2 ปี 2564จำแนกตาม 3กลุ่มธุรกจิของบริษัท:

---ธุรกิจ Combined PET (CPET)---


บริษัทรายงาน Core EBITDA จำนวน 319 ล้านเหรียญสหรัฐ ในไตรมาสที่ 2 ปี 2564 เติบโตร้อยละ23 เมื่อเทียบไตรมาสต่อไตรมาสและร้อยละ42 เมื่อเทียบปี ต่อปีบริษัทรายงาน Reported EBITDA จำนวน 403ล้านเหรียญสหรัฐอุปสงค์ของกลุ่ม CPET คงที่ในทุกผลิตภัณฑ์และภูมิภาคซึ่งเป็นผลมาจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ตัวชี้วัดการเคลื่อนที่ที่ปรับตัวดีขึ้น
และสินค้าคงคงคลังที่อยู่ในระดับต่ำ


อัตรากำไร ของกลุ่ม Integrated PET ที่แข็งแกร่งในช่วงครึ่งแรกของปี 2564ได้รับแรงสนับสนุนจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตวัสูงข้ึนและอุปทานของตลาดที่ตึงตัวซึ่งเป็นผลมาจากปริมาณของวัตถุดิบในตลาดที่มีอยู่อย่างจำกัด บริษัทสามารถผลิต PTA และMEG เพื่อใช้ภายในจึงทำให้เกิดข้อได้เปรียบสำคัญท่ามกลางภาวะการขาดแคลนวัตถุดิบในภูมิภาคยุโรปและอเมริกา ส่งผลให้บริษัทสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างคล่องตัวและต่อเนื่อง เพื่อรักษาความน่าเชื่อถือด้านการส่งมอบสินค้าให้แก่ลูกค้าให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน เราตั้งใจเพิ่มระดับสินค้าคงคลังในไตรมาสนี้ ในครึ่งปีหลังบริษัทคาดว่าจะได้รับผลประโยชน์จากข้อได้เปรียบของ Shale gas ที่ปรับตัวดีขึ้นและการเพิ่มขึ้นของราคผลิตภัณฑ์ที่เทียบเคียงการนำเข้า(importparity) เนื่องจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวสูงขึ้น


ในขณะที่อัตราค่าขนส่งเพิ่มสูงขึ้นจากการขาดแคลนตูค้อนเทนเนอร์และความพร้อมใช้งานของเรือขนาดใหญ่อย่างไรก็ตามบริษัทอยู่ในสถานะที่มีความได้เปรียบเนื่องจากมีโรงงาผลิตอยู่ทุกภูมิภาคจึงสามารถจหน่ายสินค้าภายในประเทศโดยมีราคาขายอ้างอิงที่สูงขึ้นซึ่งส่งผลให้บริษัท มีอัรากำไรที่สูงขึ้นอุปสรรคสำคัญ ในไตรมาสนี้เกิดจากราคาของกรดอะซิติกที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากข้อจำกัดด้านอุปทาน ซึ่งส่งผลกระทบเชิงลบต่อธุรกิจPTAบริษัทคาดว่าปริมาณความต้องการ PET จะแข็งแกร่งขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ซึ่งเป็นผลมาจากการเศรษฐกิจที่เริ่มเปิดกว้างโดยเฉพาะอยางยิ่งในภูมิภาคเอเชียและการเติมสินค้าคงคลังตามแผนงาน รวมถึงอตัรากำไรที่กลับมาเป็นปกติจากค่าขนส่งที่ลดลงผลิตภัณฑ์ PIA ในกลุ่ม Specialty Chemicals มีผลประกอบการที่แข็งแกร่งอย่างมากในไตรมาสนี้อันเป็นผลมาจากอุปสงค์ที่แข็งแกร่งจากความต้องการในกลุ่ม PET และผลิตภัณฑ์สารเคลือบสี โดยมีแรงสนับสนุนจากความสามารถในการผลิตได้อย่างต่อเนื่องของบริษัทในสถานการณ์หยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทานในตลาดตลาดรีไซเคิลยงัคงมีอุปสงค์ที่แขง็แกร่งจากทั่วโลกโดยราคา recycledPET และ flakes ปรับตัวสูงขึ้นเมื่อเทียบไตรมาสต่อไตรมาส และปีต่อปีส่งผลให้อัตรากำไรปรับตัวดีขึ้น โดยบางส่วนได้ถูกชดเชยด้วยราคาวตัถุดิบ (พลาสติกที่ใช้แล้ว) ที่เพิ่มขึ้นในทวีปอเมริกาเหนือนอกจากนี้อุปสงค์ที่ แข็งแกร่งและราคา rPET คาดว่าจะเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องไปจนถึงไตรมาสที่ 3

 

---ธุรกิจ Integrated Oxides and Derivatives (IOD)---


ธุรกิจIOD มีผลการดำเนินงานประจำไตรมาสดีเลิศด้วย Core EBITDA 99ล้านเหรียญสหรัฐในไตรมาสที่2 ปี2564 ซึ่งปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ183เมื่อเทียบไตรมาสต่อไตรมาส และร้อยละ243 เมื่อเทียบปี ต่อปีบริษัทรายงาน Reported EBITDA จำนวน 81ล้านเหรียญสหรัฐเพื่อให้การประเมินและวิเคราะห์สินทรัพย์การดำเนินงานของบริษัทมีความเป็นธรรม ทีมผู้บริหารได้จัดประเภทรายการผลการดำเนินงานของ Lake Charles Gas Cracker (IVOL) เป็นรายการพิเศษ ซึ่งกำลังอยู่ในระหว่างการปิดซ่อมแซมและกำลังจะเริ่มดำเนินการ
ใหม่ในไตรมาสหน้า


ธุรกิจต้นน้ำ ของกลุ่ม IOD ประกอบด้วยโรงงาน gas crackers 2 แห่ง ซึ่งตั้งอยู่ที่ Port Nechesและ Lake Charlesในครึ่งแรกของปี 2564 บริษัทมีอัตรากำไรที่แข็งแกร่ง เนื่องจากอุปทานเอทิลีนที่ตึงตัว ส่งผลให้ในไตรมาสที่ 2 ปี 2564 บริษัทรายงานCore EBITDA จ านวน 28 ล้านเหรียญสหรัฐโดยปรับตัวดีขึ้นร้อยละ16 เมื่อเทียบไตรมาสต่อไตรมาส ซึ่งเป็นผมาจากโรงงานที่ PortNeches บริษัทคาดว่าแนวโน้มของปริมาณและอัตรากำไรจะดีข้ึนอย่างมีสาระสำคัญ ในช่วงครึ่งหลังของปี2564 จากการกลับมาดำเนินงานของ Lake Charles Cracker รวมถึงประโยชน์ที่ได้รับเพิ่มเติมจากสภาพแวดล้อมที่คาดว่าจะทำให้อตัรากำไรแข็งแกร่งนอกจากบริษัทยังคงได้รับประโยชน์จากข้อได้เปรียบของ Shale gasจากการดำเนินงาน


ธุรกิจ IOD’s Intermediates ประกอบด้วยธุรกิจ MEG และ MTBEสัดส่วนผลิตภัณฑ์นี้ทำให้EBITDA ติดลบจำนวน 5 ล้านเหรียญสหรัฐในไตรมาสนี้โดยปรับตวัดีขึ้น 27 ล้านเหรียญสหรัฐเมื่อเทียบไตรมาสต่อไตรมาส ธุรกิจส่วนนี้ได้รับผลกระทบเชิงลบมากที่สุดจากสถานการณ์ Covid ซึ่งบริษัทพอใจกับการฟื้นตัวของผลการดำเนินงานซึ่งเป็นผลมาจากการเดินทางที่มากขึ้น การเพิ่มสูงขึ้นของอุปสงค์รวมถึงราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวดีขึ้น ทั้งนี้ผลกระทบจากการปรับตัวดีขึ้นของ Shale gas ทำให้บริษัทกลับมาได้รับประโยชน์จากข้อได้เปรียบด้านต้นทุนในทวีปอเมริกาเหนือ ซึ่งสะท้อนให้เห็นจากส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์Integrated MEG ที่ปรับตัวดีขึ้น นอกจากนี้ความสำเร็จจากการเปลี่ยน Catalyst ของโรงงาน MEG จะทำให้เกิดปริมาณการผลิตส่วนเพิ่มได้ในครึ่งหลงัของปี2564ปี2564 แสดงให้เห็นการฟื้นตัวของปริมาณและราคาของ MTBE ซึ่งเกิดจากอุปสงค์ทีเพิ่มขึ้นมาจากความตอ้งการเชื้อเพลิงจากการขนส่ง และสอดคล้องกับระดับราคา naphtha ที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้มาตรฐานที่ใช้กำหนดราคาปรับตัวสูงขึ้น การดีดตัวขึ้นของส่วนต่างราคผลิตภัณฑ์ MTBE ถูกหักลบบางส่วนกับราคาที่สูงของวัตถุดิบหลักอย่าง บิวเทนและเมทานอล นอกจากนเศรษฐกิจที่เปิดกว้างและการเคลื่อนย้ายมากขึ้น ทำให้บริษัท เห็นถึงศกัยภาพที่แข็งแกร่งของอตัรากำไรและปริมาณของ MTBE ที่มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง

 


---กลุ่มธุรกิจ IOD’s Downstream---

ธุรกิจ IOD’s Downstream ประกอบด้วยธุรกิจSurfactants,Propyleneoxide (PO),Propyleneglycol (PG)และ Purified EO โดยกลุ่มนี้รายงาน Core EBITDA จำนวน 77ล้านเหรียญสหรัฐในไตรมาสนี้ซึ่งปรับตัวดีขึ้น 33ล้านเหรียญสหรัฐเมื่อเทียบจากไตรมาสก่อน กลุ่มธุรกิจดังกล่าวยังคงทรงตัวจากผลกระทบของ Covid ซึ่งบริษัทคาดว่าผลการดำเนินงานจะกลับสู่ภาวะปกติในปี2564


IOD’s Downstream ยังคงมีอุปสงค์ที่แข็งแกร่งอย่างมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มผลิตภณฑ์ของใช้ภายในบ้าน การดูแลส่วนบุคคลการเกษตรกรรม และบ่อน้ำมัน อัตรากำไรที่แข็งแรงจะสะท้อนให้เห็นทั้งกลุ่มและทั่วภูมิภาค ในไตรมาสนี้บริษัท ได้รับผลจากการหยุดชะงักของปริมาณการผลิตเพียงเล็กน้อยจากการปิดซ่อมบำรุงและจากเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับสภาพอากาศ โดยที่โรงงานท้งัหมดดำเนินงานเต็มกำลังPropyleneoxide (PO) มีอุปสงค์และอัตรากำไรที่แขง็แกร่งในไตรมาสนี้เนื่องจากอุปสงค์ของPolyurethane ที่สูงขึ้นจากทั้งอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์และยานยนต์บริษัท มองเห็นแนวโน้ม ที่ดีต่อเนื่องตลอดท้งัปีแนวโน้มสำหรับธุรกิจ IOD’s Downstream ยังคงเป็นไปในทางที่ดีเนื่องด้วยความแข็งแกร่งของอุปสงค์ในครี่งปี หลังของปี2564จนถึงปี2565


---ธุรกจิ Fibers---

Fibersรายงาน Core EBITDA จำนวน 65ล้านเหรียญสหรัฐในไตรมาสที่2 ปี2564 หรือลดลงร้อยละ10 เมื่อเทียบไตรมาสต่อไตรมาสและเพิ่มขึ้นร้อยละ77เมื่อเทียบปีต่อปีFibersรายงาน Reported EBITDA จำนวน 76ล้านเหรียญสหรัฐสำหรับไตรมาสนี้ซึ่งแสดงให้เห็นถึงผลการดำเนินงานสำหรับครึ่งแรกของปีที่แข็งแกร่งสำหรับธุรกิจนี้อุปสงค์สำหรับธุรกิจ Fibers ทั้งสาม verticals ยังคงแข็งแกร่งและมั่นคงตั้งแต่ปลายปี2563อย่างไรก็ตามมีบางส่วนที่ได้รับผลกระทบต่อเนื่องมาในไตรมาสนี้ปริมาณการขายของผลิตภัณฑ์Lifestyleได้รับผลกระทบจาก
ในทวีปเอเชียเนื่องจากความต้องการที่ลดลงซึ่งมาจากการกลับมาระบาดอีกระลอกของ COVID โดยส่วนใหญ่เป็นผลกระทบจากประเทศอินเดียและอินโดนีเซีย บริษัทคาดหวังว่าอุปสงค์จะดีข้ึนจากการที่เริ่มเปิดเศรษฐกิจอีกคร้ัง การหยุดชะงักของการจัดหาวัตถุดิบส่งผลกระทบต่อท้ังอุตสาหกรรม อย่างไรก็ตามการที่บริษัทเป็นผู้ผลิต PTA ที่มีการบริโภคภายในกลุ่มทำให้โรงงานสามารถดำเนินต่อไปได้เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ปริมาณความต้องการของผลิตภัณฑ์Mobility ยงคงแขงแกร่งตลอดทงปีโดยเฉพาะอย่างยิ่งความต้องการใช้ย้างรถยนต์เพื่อทดแทน การขาดแคลน semiconductor ทำให้การผลิตยานพาหนะใหม่ถูกจำกัด รวมถึงผลกระทบบางส่วนจากจำนวนด้านความปลอดภัของยานยนต์ความต้องการผลิตภัณฑ์Mobility คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นในครึ่งหลงัของปี2564 จากการฟื้นตวัของอุปทาน semiconductor ในอุตสาหกรรมยานยนต์ปริมาณความต้องการของผลิตภัณฑ์hygiene ยังคงคงที่ในไตรมาสนี้อย่างไรก็ตามผลิตภัณฑ์hygiene ได้รับผลกระทบด้านลบจากการส่งผ่านราคาที่ล่าช้าเมื่อราคาวัตถุดิบ polypropylene เพิ่มขึ้นซึ่งรายการนี้จะถูกกลับฝั่งในไตรมาสถัดไป ต่อจากนไปบริษัทคาดว่าความต้องการของเส้นใยในผลิตภัณฑ์hygieneจะกลับมาสู่สภาวะปกติเนื่องจากการได้รับวัคซีนอย่างทั่วถึงและสถานการณ์COVID ที่ดีขึ้น

 


----จบ----

 

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

บทความล่าสุด

SNNP รับรางวัล Supplier ดีเด่นจากแม็คโคร

SNNP รับรางวัล Supplier ดีเด่นจากแม็คโคร

PTG ลงนาม MOU กรมทรัพยากรทางทะเลฯ และองค์กรภาคีเครือข่าย ร่วมอนุรักษ์ ฟื้นฟูป่าชายเลน

PTG ลงนาม MOU กรมทรัพยากรทางทะเลฯ และองค์กรภาคีเครือข่ายร่วมอนุรักษ์ ฟื้นฟูป่าชายเลน

เก็งหุ้น By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อยขี่ไม้กวาดวิเศษ ภาคเช้าที่ผ่านมา หุ้นไทยแกว่งขึ้น ตามตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียส่วนการเล่นการเทรดเป็นไปตามแรง...

มัลติมีเดีย

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้