Today’s NEWS FEED

News Feed

HotNews: PTG โตยาว!! โบรกฯ เห็น Upside 29%

4,248

 

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์( 10 มิถุนายน 2564)---บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส แนะนำซื้อ PTG ประเมินราคาพื้นฐาน 25 บาท เห็น Upside 29% คาดปี64 กำไรสุทธิจะเติบโต 17% ด้านบล.ทิสโก้ คงมีมุมมองเชิงบวกระยะยาวต่อ PTG โบกธงเชียร์ “ซื้อ” มูลค่าเหมาะสม 24.50 บาท

 

บริษัทกลักทรัพย์ดีบีเอส วิคเคอร์ส ออกบทวิเคราะห์เปิดเผยว่า บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) PTG ดำเนินธุรกิจสถานีบริการน้ำมัน โดยมีความเป็นเจ้าของสถานีมากที่สุดในประเทศ ณ สิ้นมี.ค.64 มีสถานีบริการ 2,103 แห่ง เป็นเจ้าของเอง 1,605 แห่ง (76%) และตั้งเป้ามีส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับที่ 2 ในธุรกิจค้าปลีก LPG ของไทยในปี 64F ทั้งนี้บริษัทมีแผนขยายธุรกิจทั้งที่เกี่ยวกับน้ำมันและที่ไม่ใช่น้ำมัน คือ ธุรกิจ LPG,ร้านอาหารและเครื่องดื่ม, ร้านสะดวกซื้อ และออโต้เซอร์วิส


ทำ JV กับ EGAT เปิดสถานีชาร์ตแบตฯ EV จำนวน 30-50 แห่ง ในปี 64F โดยเป็นระบบ DC Fast charge(ใช้เวลาชาร์ต 15-30 นาที) ในจังหวัดใหญ่ๆ แต่ละภาค เช่น โคราช, เพชรบุรี, นครสวรรค์, ชลบุรีและกาญจนบุรี ใช้เงินลงทุน 200 ล้านบาท บริษัทคาดว่าระยะเวลาคืนทุน 5-6 ปี มี IRR 18%

 

สำหรับปี 64F คาดว่ากำไรสุทธิจะเติบโต +17% จาก 1) ปริมาณขายน้ำมันค้าปลีกสูงขึ้นหลังเศรษฐกิจฟื้นตัว, 2)ขยายสถานีบริการน้ำมันเพิ่ม ซึ่งรองรับการเป็นสถานีชาร์ตแบตฯ EV ในอนาคตด้วย, 3) ธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่มจะเริ่มทำกำไรได้ในปี 64F หลังจากมีการรีแบรนด์และประสิทธิภาพดีขึ้น

 

Key Growth ในระยะยาว คือ ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม และธุรกิจสถานีชาร์ตแบตเตอรรี่ EV ปัจจัยหนุนคือ 1) การเปิดสถาบีบริการและร้านกาแฟ “พันธุ์ไทย” ปีละ 50-80 สาขาต่อปี, 2) อุปสงค์น้ำมันเติบโตเมื่อใช้วัคซีนแพร่หลาย, 3) ปริมาณขายก๊าซ LPG ครัวเรือนเพิ่มขึ้น, 4) โครงการหลังคาโซลาร์ที่จะช่วยประหยัดค่าไฟฟ้า 0.1-0.15ล้านบาท/สถานี/ปี และ 5) ยอดขายร้านกาแฟในสถานีบริการที่เติบโตเฉลี่ย 10% ต่อปีทั้งนี้ธุรกิจที่ไม่ใช่น้ำมันให้อัตรากำไรขั้นต้นสูงที่ 25-30% ขณะที่ธุรกิจเกี่ยวกับน้ำมันมีอัตรากำไรขั้นต้นราว 7-8% ซึ่งการเพิ่มสัดส่วนรายได้ธุรกิจที่ไม่ใช่น้ำมันจะทำให้บริษัทมีกำไรที่ดึขึ้นในระยะยาว และยังกระจายความเสี่ยงทางธุรกิจได้มากขึ้น มีรายได้ประจำเป็นสัดส่วนที่สูงขึ้น และลดผลกระทบจากความผันผวนของราคาน้ำมันด้วย


แนะนำซื้อ ให้ราคาพื้นฐาน 25 บาท (DCF) ความเสี่ยงหลัก คือ ความผันผวนของค่าการตลาดน้ำมันค้าปลีก,การแข่งขันในธุรกิจค้าปลีกน้ำมันสูงและธุรกิจที่ไม่ใช่น้ำมันประสบความสำเร็จน้อยกว่าแผนที่ตั้งเอาไว้

 

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ทิสโก้ ระบุในบทวิเคราะห์หลักทรัพย์ว่า ได้จัดงาน TISCO Exclusive talk กับทางผู้บริหารของ PTG ซึ่งบริษัทยังคงมั่นใจต่อเป้าหมายและผลการดำเนินงานของบริษัท โดยมีประเด็นสำคัญต่อไปนี้


ปริมาณขายน้ำมัน 2Q21F ยังคงเป็นไปตามเป้าที่ 8-12% YoY : เดือนเม.ย. ปริมาณการขายน้ำมันเติบโต 15% YoY จากฐานที่ต่ำในปีที่แล้ว ส่วน พ.ค. เติบโต 3-4% YoY และในเดือนมิ.ย. ปัจจุบันเติบโตประมาณ 6-10% ซึ่งน่าจะทำให้เป็นไปตามเป้าหมายได้


ค่าการตลาดน้ำมันอยู่ในระดับใกล้เคียงกับ 1Q21 ที่ 1.80-1.90 บาทต่อลิตร โดยบริษัทมองว่าระดับราคาน้ำมันในตลาดที่ปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ 70 เหรียญฯต่อบาร์เรล เป็นการปรับตัวชั่วคราวและคาดจะปรับตัวลดลงในครึ่งปีหลัง และยังไม่ถึงจุดที่กังวลต่อราคาขายปลีกปัจจุบันที่ถูกควบคุมไว้ที่ 30 บาทต่อลิตร (บริษัทประเมิน ณ ระดับอัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบัน ราคาน้ำมันโลกต้องอยู่ที่ 80 เหรียญฯต่อบาร์เรล)


คาดส่วนแบ่งกำไรจากปาล์มคอมเพล็กซ์ใน 2Q21F ดีขึ้น QoQ และ YoY : PTG คงเป้าส่วนแบ่งกำไรจากปาล์มคอมเพล็กซ์ 240-260 ล้านบาทในปีนี้ ใน 1Q21 รับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมลดลงมาอยู่ที่ 77 ล้านบาท ลดลงจาก 170 ล้านบาทใน 1Q20 จากต้นทุนที่เพิ่มขึ้นทำให้ส่วนต่าง (Spread) ที่แคบลง สำหรับ 2Q21F PTG คาดส่วนแบ่งกำไรเติบโต QoQ และ YoY จากต้นทุนที่สมดุลมากยิ่งขึ้นเมื่อเทียบกับ 1Q21

ตั้งเป้า LPG Auto เบอร์ 1 ในสิ้นปีนี้ : ณ 1Q21 LPG Auto ของ PTG มีส่วนแบ่งตลาดอันดับ 3 ที่ 16% ซึ่งบริษัทตั้งเป้าอันดับ 1 ในสิ้นปีนี้ โดยบริษัทตั้งเป้าหมายยอดขาย 230 ล้านลิตร ด้วยอัตรากำไรต่อลิตรของ LPG สูงกว่าน้ำมันจะช่วยเพิ่มกำไรโดยรวมให้แก่บริษัท จากปัจจุบันสัดส่วน 5.6% ของกำไรขั้นต้นรวม


แผนการนำบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ บริษัทมีแผนนำบริษัท Atlas Energy และปาล์มคอมเพล็กซ์ คาดเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ในปี 2022

มุมมองของเรา คาดปริมาณขายน้ำมันลดลง QoQ แต่ยังเติบโต YoY (2Q20 ปริมาณขายน้ำมัน 1,205 ล้านลิตร) และคาดค่าการตลาดน้ำมันปัจจุบันอยู่ที่ 1.80-1.90 บาทต่อลิตร ซึ่งต่ำกว่า 2 บาทต่อลิตรใน 2Q20 ดังนั้น เรามองว่ามีแนวโน้มที่กำไรสุทธิใน 2Q21F อาจจะอ่อนตัวลง QoQ และทรงตัว YoY แต่เราคาดจะเห็นการฟื้นตัวอย่างรวดเร็วใน 3Q21F จากคาดสถานการณ์การระบาดโควิดดีขึ้นหลังการกระจายวัคซีน และสามารถกลับมาเดินทาง กิจกรรมทางเศรษฐกิจได้ตามปกติ ดังนั้น เรายังคงมีมุมมองเชิงบวกในระยะยาวต่อ PTG ดังนั้น ยังคงแนะนำ “ซื้อ” มูลค่าที่เหมาะสม 24.50 บาท อิงจาก PER 20 เท่าปี 2021F

ปัจจัยเสี่ยงสำหรับ PTG ได้แก่ 1) ค่าการตลาดที่อ่อนตัวกว่าที่เราคาดไว้ 2) ปริมาณขายน้ำมันที่ต่ำกว่าคาด และความล่าช้าของธุรกิจ non-oil


---จบ----

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

มัลติมีเดีย

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้